Skip to main content
sharethis
  • 10 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคใต้ โชว์วิสัยทัศน์ เวทีสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า พร้อมขานรับข้อเสนอคณะทำงานฯสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า 3,000  บาท ระบุต้องพิจารณางบประมาณแผ่นดินด้วย
  • ประธานคณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า อธิบายทำไมต้องเสนอ “สวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า 0-6 ปี”
  • 'ประชาชาติ' ให้เด็กถ้วนหน้า 0-6 ปี 4,500 บาท -  ปชป. 'ท้องปุ๊บ รับปั๊บ' พร้อมรับ 3,000 บาท ตลอด 9 เดือน ขณะที่ 'ภูมิใจไทย-ไทยสร้างไทย' รับข้อเสนอคณะทำงานฯ วางเป็นนโยบาย ชาติพัฒนากล้า  เสนอ 4 มาตรการนโยบายสวัสดิการครอบครัว
  • พลังประชารัฐ เน้นสร้างระบบ จัดการฐานข้อมูล 'เพื่อไทย' คิดใหญ่-ทำเป็น 'สังคมประชาธิปไตยไทย' ขานรับสวัสดิการถ้วนหน้า 300 บาท 'ก้าวไกล' เสนอ สวัสดิการเด็กถ้วนหน้า 1,200 บาท รับข้อเสนอคณะทำงานฯ 3,000 เป็นข้อมูลที่ท้าทาย  รวมไทยสร้างชาติ  รับข้อเสนอ 3,000 หารือกำหนดนโยบายในพรรค

 

1 ก.พ.2566 ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า วานนี้ (31 ม.ค.) โครงการขับเคลื่อนนโยบายสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า ได้จัดเวที “อนาคตของหนู อยู่ที่สวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า” ที่โรงแรม ญันนะตีย์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา  โดยในช่วงแรกเป็นการนำนำเสนอสถานการณ์เด็กเล็กภาคใต้  ดำเนินรายการโดย นิพนธ์  รัตนาคม นายกสมาคมอาสาสร้างสุข โดยนักวิชาการที่ศึกษาด้านเด็ก และคณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า ได้นำเสนอข้อมูล

ทำไมต้องเสนอ “สวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า 0-6 ปี”

สุนี ไชยรส ในฐานะประธานคณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า กล่าวว่า วันนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดี จากพี่น้องประชาสังคมภาคใต้ ดังนั้นคณะกรรมการเด็กเล็กถ้วนหน้า 300 กว่าองค์กรทั่วประเทศ จึงฝากความหวังไว้กับพรรคการเมืองทุกพรรค ที่จะเข้าไปเป็นรัฐบาลว่าขอให้ร่วมผลักดันนโยบายสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้าด้วย

ประธานคณะทำงานฯ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ทำไมเราต้องนำเสนอประเด็นเด็กเล็กถ้วนหน้า เนื่องจากหากเราพิจารณาและศึกษาสวัสดิการของช่วงวัยต่าง ๆ ของคนหนึ่งคน จะเห็นได้ว่า ทุกช่วงวัยได้รับการสนับสนุนจากรัฐ แม้จะไม่มากก็ตาม เช่น การเรียนฟรีตามช่วงวัย หรือ สวัสดิการค่ารักษาพยาบาล รวมไปถึงเบี้ยคนชรา แต่ที่ยังเป็นช่องว่าง คือ เด็กเล็กตั้งแต่ 0-6 เดือน ที่ยังไม่มีสวัสดิการสนับสนุนจากรัฐ

“การเสนอประเด็นเด็กเล็กถ้วนหน้า ตั้งแต่ 0-6 ปีนั้น เนื่องจากช่วงวัยนี้เป็นช่วงสำคัญของชีวิตคน ที่ทั่วโลกให้ความสำคัญและสวัสดิการในเรื่องนี้  แต่ประเทศไทยยังไม่มีนโยบายในประเด็นดังกล่าว ซึ่งงานวิจัยจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ระบุว่า ค่าใช้จ่ายเด็กแรกเกิด ถึง 6 ปี เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด “ถ้วนหน้า 0-6 ปี นั้นควรจะอยู่ที่ 3,000 กว่าบาท”  

อย่างไรก็ตาม แม้ว่ารัฐบาลจะมีนโยบายสวัสดิการสนับสนุนเด็กเล็ก 0-6  ปี แต่ยังเป็นแบบไม่ถ้วนหน้าและมีเงื่อนไขพอสมควรในการให้ ดังนั้น จึงยังมีเด็กที่ยังไม่ได้รับสวัสดิการนี้ ไม่น้อยกว่า 2.4 ล้านคน จากเด็ก 4 ล้านคน

จุฑารัตน์  สถิรปัญญา  รองศาสตราจารย์และหัวหน้าหน่วยเวชศาสตร์ชุมชน สาขาวิชาเวชศาสตร์ครอบครัวและเวชศาสตร์ป้องกัน คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  กล่าวว่า ข้อมูลสถานการณ์เด็กในภาคใต้จากเขตบริการสุขภาพ ระบุว่า เด็กในภาคใต้ยังมีภาวการณ์เจริญเติบโตที่ต่ำกว่าทั้งประเทศ  ในขณะที่คุณภาพชีวิตเด็กในประเทศก็ยังไม่สูงนัก ทั้งโภชนาการและพัฒนาการเด็ก ซึ่งจากข้อเท็จจริง ภาคใต้มีอัตราคนจนค่อนข้างสูงแต่ประชากรเหล่านี้กลับมีลูกมากโดยเฉลี่ย รวมไปถึงครอบครัวเด็กเหล่านี้ยังมีความรุนแรงในครอบครัว

“จากที่ลงพื้นที่ พบว่าเด็กในครอบครัวยากจนจะไม่ได้รับสวัสดิการเหล่านี้ ด้วยเงื่อนไขต่าง ๆ เช่น พ่อแม่ไม่รู้ เอกสารไม่ครบ ดังนั้นเราจึงต้องผลักดัน “เงินอุดหนุนถ้วนหน้า 100%”

ด้าน โซรยา  จามจุรี  ประธานศูนย์ประสานงานด้านเด็กและสตรีในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศป.ดส.) กล่าวว่า สถานการณ์เด็กใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดจำนวนมาก เพราะพ่อแม่เสียชีวิตทำให้เด็กกลายเป็นเด็กกำพร้า รวมถึงสถานการณ์ความไม่สงบในสถานการณ์ภาคใต้  เด็กที่ผู้ปกครองได้รับโทษต้องถูกจำคุก เด็กต้องอยู่กับแม่หรือปู่ย่าตายาย  ในขณะที่จังหวัดปัตตานีติดอันดับคนที่จนสุดของประเทศ  ซึ่งความยากจนส่งผลต่อภาวะทุพโภชนาการในเด็ก  เด็กใน 3 จังหวัดชายแดนใต้มีภาวะทุพโภชนาการ ต่ำกว่าเกณฑ์จำนวนมาก เป็นปัญหาสาหัสมากที่เกิดกับเด็ก รวมถึงภาวะแม่เลี้ยวเดี่ยวที่สูงขึ้น จากภาวการณ์หย่าร้าง”

“ข้อเสนอจากคนทำงานเรื่องเด็กใน 3 จังหวัดชายแดนใต้  คือ ขอยืนยันตามที่คณะทำงานเสนอ คือสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้าตั้งแต่ 0-6 ปี  เพื่อให้เด็กเหล่านี้ได้เติบโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพ”  

ในขณะที่ ประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดสงขลา พัชรพล  มาแทน  กล่าวว่า พ่อแม่ทุกคนต้องการให้ลูกเกิดขึ้นมาอย่างมีความสุข ด้วยความพร้อมด้านต่าง ๆ ดังนั้นนโยบายของรัฐ ควรจะให้ความสำคัญกับอนาคตของชาติ เพื่อให้พ่อแม่ได้มีหลักประกันในการเลี้ยงลูกอย่างมีความสุข ซึ่งคณะกรรมการเด็กและเยาวชนแห่งชาติ (กดยช.)  ได้มีมตินี้ให้รัฐบาลมีนโยบาย “สวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า” แล้ว  สภาเด็กและเยาวชน จึงขอให้รัฐบาลได้ดำเนินการตามมติของ กดยช.ด้วย

ในขณะที่ ปัทมา สังขไพฑูรย์  ประธานชมรมผู้ปกครองบุคคลออทิสติกจังหวัดสงขลา กล่าวว่า การบริหารจัดการในครอบครัวที่มีเด็กพิเศษจะเพิ่มขึ้นมากกว่าเด็กธรรมดา แม้ว่ารัฐบาลจะมีสวัสดิการสำหรับเด็กพิการเดือนละ 800 บาท แต่บางครอบครัวไม่รับเงินส่วนนี้ เนื่องจากมีขั้นตอนที่ยุ่งยากและมีเงื่อนไขบางประการ  และที่สำคัญคือครอบครัวไม่เคยได้รับข้อมูลว่ามีสวัสดิการส่วนนี้ 

“ข้อมูลที่ค้นพบที่น่าเป็นห่วงคือ เมื่อมีเด็กพิการเกิดขึ้นในครอบครัว การหย่าร้างในครอบครัวจะเพิ่มมากขึ้น ทำให้ภาระต้องตกอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือพ่อเลี้ยงเดี่ยว หากมีเงินสวัสดิการ 3,000 บาทนี้ไปช่วย น่าจะเป็นการช่วยเหลือครอบครัวเหล่านี้มากขึ้น”

หลังจากที่คณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า  นักวิชาการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้นำเสนอข้อมูลจากงานวิชาการ และข้อมูลจากการลงพื้นที่แล้ว จากนั้นเป็นการนำเสนอนโยบายจากผู้แทนพรรคการเมืองในพื้นที่  โดยในช่วงหลังนี้ ดำเนินรายการโดย ติชีลา พุทธสาระพันธ์ หัวหน้าศูนย์ข่าวภาคใต้ ไทยพีบีเอส  

'ประชาชาติ' ให้เด็กถ้วนหน้า 0-6 ปี 4,500 บาท 

พ.ต.อ.ทวี  สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวว่า มนุษย์ทุกคนมีศักดิ์ศรีและความเป็นมนุษย์เท่ากัน  ดังนั้นพรรคจึงให้วามสำคัญกับการสร้างคน ประเทศไทยควรจะใช้ประโยชน์จากคนมากที่สุด เราจะต้องกล้าหาญในการเปลี่ยนโครงสร้างของประเทศ และให้ความสำคัญกับเด็ก พรรคประชาชาติจึงได้มีนโยบาย ดังนี้ตั้งแต่เกิด 0-6 ปี  จะให้สวัสดิการเด็กถ้วนหน้า 4,500 บาท เพื่อให้พ่อและแม่ได้เลี้ยงเด็ก จึงขยายให้ลาพักหลังคลอดจาก 3 เดือน เป็น 6 เดือน  ส่วนเด็กอายุ  6-15 ปี จะกำหนดให้ 3,000 บาท   รวมถึงนโยบายกระจายอำนาจในการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดูแลเด็ก

ปชป. 'ท้องปุ๊บ รับปั๊บ' พร้อมรับ 3,000 บาท ตลอด 9 เดือน

ปิยะกาญจน์  สุพรรณชนะบุรี พรรคประชาธิปัตย์   กล่าวว่า  พรรคประชาธิปัตย์ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ จากนโยบาย สร้างคน สร้างชาติ  ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์  ขอรับข้อเสนอแนะจากคณะทำงานฯ  เราจะทำให้ถ้วนหน้า ให้เกิดขึ้น ภายใต้นโยบาย “ท้องปุ๊บ รับปั๊บ” เพื่อให้คุณแม่ทุกคนไม่กังวลในการที่จะมีลูก  พร้อมรับ 3,000 บาท ตลอด 9 เดือน  ส่วนสวัสดิการเด็กถ้วนหน้า  0-6 ปี  พรรคประชาธิปัตย์กำหนดไว้ที่  1,000 บาท  

ปิยะกาญจน์ ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่า จะทำให้ถ้วนหน้า 0-6 เป็น 1,00 บาท/ปี แบบถ้วนหน้า  ในส่วนของพ่อแม่เด็ก ต้องเพิ่มศักยภาพทั้งรายได้และเวลา และการให้ได้รับโอกาสอย่างเต็มที่  นโยบายเพิ่มศักยภาพครอบครัว โดยจัดทำนโยบายการถือครองที่ดินให้กับครอบครัว

'ภูมิใจไทย-ไทยสร้างไทย'  รับข้อเสนอคณะทำงานฯ วางเป็นนโยบาย

พญ.เพชรดาว โต๊ะมีนา ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย  กล่าวว่า ข้อมูลที่ได้รับฟังจากคณะทำงาน ระบุว่า ข้อมูลโรงสร้างทรัพยากรบุคคลปรับเปลี่ยนไป ทำให้พรรคต้องขอไปศึกษาเพื่อที่จะได้เขียนนโยบายให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริง โดยคำนึงถึงงบประมาณของประเทศทีมีอยู่ด้วย โดยพรรคเน้นให้ทุกนโยบายต้องดำเนินการได้จริง  ขอใช้งบประมาณการจัดการความไม่สงบใน 3 จว.ชดต. เพื่อมาทำให้สวัสดิการถ้วนหน้าเป็นจริง

“พรรคภูมิใจไทย พูดแล้วทำ ข้อมูลจากเวทีวันนี้จะนำไปวางเป็นนโยบายของพรรค ในขณะที่นโยบายของพรรคในขณะนี้ เป็นการเอื้อให้กับครอบครัวอย่างยิ่ง เช่นการผ่อนค่าไฟ การพักการชำระหนี้  ซึ่งเราจะพูดถึงเด็กอย่างเดียวไม่ได้ เราต้องพูดทั้งระบบเพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ นอกจากนี้อาจจะมีนโยบานเฉพาะพื้นที่ในภาคใต้และนโยบายภาพรวม”

ตัสนีม เจ๊ะตู กรรมการบริหารพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า การสร้างคนต้องเริ่มจากที่เด็กอยู่ในท้องแม่ ดูแลคนไทยตั้งแต่เกิดให้มีความสุข และมีสิทธิ์ ตั้งแต่เกิดจนแก่ ให้เด็กมีการศึกษาฟรี ตั้งแต่เริ่มจนจบ ปริญญาตรี  และจะนำข้อเสนอไปหารือในพรรคเพื่อกำหนดว่าควรเป็นเท่าใดที่เหมาะสม การสร้างคนสำคัญกว่าการสร้างงาน สร้างชีวิตให้คนไทยที่ดีที่สุด ทุกคนมีโอกาสได้รับการดูแลอย่างถ้วนหน้า

“เรื่องเด็กคือเรื่องของตัวเราเอง การดูแลสวัสดิการเด็ก อาหารที่อร่อยและการดูแลจิตใจของเด็ก เราไม่ได้แค่คำนึงแค่ตัวเลขที่จะกำหนดขึ้น แต่พรรคจะคำนึงถึงสวัสดิการโดยภาพรวม และเราจะมีนโยบายที่จะดูแลอย่างดีที่สุด ยืนยันที่จะนำทุกเรื่องไปพิจารณาให้เป็นนโยบายค่ะ”

ชาติพัฒนากล้า เสนอ 4 มาตรการนโยบายสวัสดิการครอบครัว

ประสิทธิ์ รัตนพันธ์ พรรคชาติพัฒนากล้า  กล่าวว่า เห็นด้วยกับสวัสดิการเด็กถ้วนหน้า และมีชุดนโยบายสวัสดิการครอบครัวเหลื่อมล้ำ มี 4 ประเด็น 1. เงินอุดหนุนเด็กเล็ก เริ่มที่ 1,500 บาท โดยพิจารณาจากฐานะทางการคลังของประเทศ 2.สนับสนุนลาคลอด ทั้งพ่อและแม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดหาข้อมูลว่าควรเป็นเท่าใด 3.พัฒนาศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโดยพัฒนาบุคลากร/สิ่งแวดล้อม/โภชนาการ/ของเล่นเสริมพัฒนาการ  4.ส่งเสริทมให้สถานประกอบการ มหาวิทยาลัย มี Day care ศูนย์รับเลี้ยง  โดยกำลังพิจารณาว่าต้องใช้งบประมาณเท่าใด หารายได้ 5 ล้านล้านบาท เพื่อแก้ไขความเหลื่อม

“พรรคฯจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของพ่อ แม่ เพื่อให้พ่อแม่ดูแลเด็กได้ดี   1.สร้างชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีให้กับพ่อแม่ 2.ใช้เทคโนโลยีในการบริหารประเทศ 3. เพิ่มประสิทธิภาพที่จะดูแลทุกมิติ”

พลังประชารัฐ  เน้นสร้างระบบ จัดการฐานข้อมูล

วลัยพร  รัตนเศรษฐ์ คณะกรรมการนโยบายพรรคพลังประชารัฐ  กล่าวว่า มี 3 โครงการใหญ่ สวัสดิการประชารัฐ  สังคมประชารัฐ ทำอย่างไรเด็กทุกคนจะเข้าถึงสวัสดิการที่เกี่ยวข้องได้ถ้วนหน้า  ถ้าเด็กได้รับสวัสดิการจะได้รับอย่างมีคุณภาพหรือไม่  จะมีใครตกหล่นหรือไม่  เราจะขับเคลื่อนอย่างไร 0-6 มีการจัดระบบฐานข้อมูลเพื่อเชื่อมข้อมูลให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจะกำหนดนโยบายที่ชัดเจน สวัสดิการไม่ใช่เรื่องยาก

“เรื่องสวัสดิการเด็ก พรรคฯให้ความสำคัญอยู่แล้ว เพื่อเราจะได้สร้างสังคมประชารัฐ ตั้งแต่เกิด เติบโต และทำงาน คิดได้ ทำเป็น และจะทำต่อไป ลูกของทุกคนเป็นกำลังของประเทศชาติ ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลต้องสร้างคนให้มีคุณภาพ”

เพื่อไทย คิดใหญ่-ทำเป็น

ณหทัย  ทิวไผ่งาม กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไทยรักไทยเป็นพรรคแรกที่ผลักดันให้นโยบาย 30 บาทเป็นจริงและมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยเริ่มตั้งแต่ในท้องแม่ จนถึงเรียนหนังสือและมีอาชีพ ทำอย่างไรจะให้เด็กเติบโตอย่างมีคุณภาพที่สุด ดังนั้นเงินสนับสนุนที่จะให้ จะปรับไปตามอัตราเงินเฟ้อ ดังนั้น 0-6 ปี ที่ 3,000 บาท จึงไม่ใช่เรื่องยาก นอกจาอกนี้พรรคเพื่อไทยจะร่วมลงทุนกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อพัฒนาศูนย์เด็กเล็กให้มีคุณภาพมากขึ้น และร่วมกับนิคมอุตสาหกรรมให้มีศูนย์เลี้ยงเด็ก  แก้กฎหมายเพื่อให้เด็กทุกเชื้อชาติในผืนแผ่นดินไทยได้รับสิทธิเท่ากัน ดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายค่ารับ-ส่งฟรี เสริมเศรษฐกิจรายได้ ขยายลาคลอด 180 วัน

“พรรคเพื่อไทยจะมีนโยบาย Learn to Earn เรียนแล้วดีมีรายได้ เพื่อเรียนแล้วจับคู่ให้ได้ และเพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำงานให้กับเด็กๆ พรรคฯจะไม่ได้มองแค่เด็ก แต่จะมองภาพรวมไปถึงวัยทำงานด้วย”

'สังคมประชาธิปไตยไทย' ขานรับสวัสดิการถ้วนหน้า 300   บาท

สุคม  ศรีนวล เลขาธิการพรรคสังคมประชาธิปไตยไทย กล่าวว่า การสนับสนุนสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า ไม่ใช่การแข่งขันทางการเมือง แต่เป็นเรื่องสำคัญของประเทศ 0-6 ปี เป็นวัยที่ต้องสร้างพัฒนาการเพื่อให้ตัวตนของเด็กได้เติบโตอย่างมีคุณภาพ และเป็นฐานรากที่สำคัญ การที่รัฐจะต้องจัดงบประมาณ และเห็นด้วยกับสวัสดิการเด็กถ้วนหน้า 3,00 บาท ซึ่งรัฐน่าจะจัดได้ในเบื้องต้น เป็นเงินประมาณ 1.5 แสนล้านบาท/ต่อปี และหากรัฐมีมากกว่านี้ควรจะให้มากกว่านี้ โดยจัดเป็นนโยบายเร่งด่วนและไปลดงบประมาณที่ไม่จำเป็นลง

'ก้าวไกล' เสนอ สวัสดิการเด็กถ้วนหน้า 1,200 บาท รับข้อเสนอคณะทำงานฯ 3,000 เป็นข้อมูลที่ท้าทาย

ฌาฆีภัตฐ์  เพชรคง พรรคก้าวไกล  กล่าวว่า จากการลงพื้นที่คูเต่า เด็กส่วนใหญ่อยู่กับปู่ย่า และไม่ได้รับการพัฒนา สวัสดิการของรัฐที่ตกหล่น เพราะต้องเร่งหาหลักฐานความยากจน  นโยบายพรรคก้าวไกล คือทุกคนต้องเท่ากัน และรัฐสวัสดิการแบบก้าวหน้าและถ้วนหน้า ใช้งบประมาณ 6.5 แสนล้านบาท  มีทั้งเด็กเล็ก ผู้ชรา คนพิการ ผู้ดูแลคนพิการ   สวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า กำหนดไว้ที่ 1,200 บาท  คนชรา 3,000 บาท คนพิการ 3,000 บาททุกเดือน ผู้ดูแลคนพิการ 9,000 บาท เพื่อเป็นการสร้างอาชีพ ช่วงคลอดให้คูปอง 3,000 บาท ขยายวันลาคลอด 180 วัน   นอกจากนี้พรรคยังจะมีนโยบาย ให้งบประมาณองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อพัฒนาศูนย์เด็กเล็ก ให้สอดคล้องกับเวลาทำงานพ่อแม่  ในขณะที่ ข้อเสนอจากคณะทำงานฯ ที่กำหนดไว้ที่ 3,000 บาท เป็นข้อมูลที่ท้าทายสำหรับพรรคก้าวไกล

“พรรคก้าวไกล ยืนยันความเสมอภาคเท่าเทียมของคน ทุกคนต้องเท่ากัน  เรายืนยันความถ้วนหน้า ต้องถ้วนหน้าตั้งแต่เกิดจนตาย โดยงบประมาณมาจากการตัดงบจากส่วนต่าง ๆ ที่ไม่สำคัญ และพรรคก้าวไกลจะพยายามทำทุกข้อเสนอจากภาคประชาชนมาจัดทำเป็นนโยบาย”

รวมไทยสร้างชาติ  รับข้อเสนอ 3,000 หารือกำหนดนโยบายในพรรค

สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล พรรครวมไทยสร้างชาติ  กล่าวว่า วินัยการเงินการคลังของประเทศเป็นเรื่องสำคัญ การจะจัดงบประมาณเป็นเรื่องสำคัญ ความเป็นไปได้จะทำได้หรือไม่ พรรครวมไทยสร้างชาติจะต้องนำไปศึกษา เพื่อให้สอดคล้องและเหมาะสม กับทั้งประชาชนและงบประมาณของประเทศ ข้อมูลจากสวัสดิการเด็กเล็กถ้วยหน้า 300   บาท จะเป็นข้อมูลให้พรรครวมไทยสร้างชาติ นำไปเสนอเพื่อให้พรรคได้ศึกษาและจัดทำเป็นนโยบายต่อไป

“พรรคจะพยายามศึกษา แก้ไข ระเบียบที่ติดขัดและตกหล่น เพื่อให้ได้สวัสดิการถ้วนหน้า  แค่สวัสดิการเด็กเล็กอาจจะไม่ได้ทำให้ประเทศชาติมีความสุขได้ แต่ต้องทุกคนในครอบครัว”

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net