เปิดเวทีภาคเหนือ พรรคการเมืองขานรับ ‘สวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า’ ชูนโยบายพัฒนาศูนย์เด็กเล็ก ปรับงบเพิ่มสวัสดิการเด็ก

เชียงใหม่เปิดเวทีรับฟังเสียงพรรคการเมืองนโยบาย "สวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า" 11 พรรคการเมืองร่วมเสนอนโยบายเพิ่มศูนย์เด็กเล็ก, แจกเงินคุณแม่, เตรียมเงินอุดหนุนเด็กเล็กถ้วนหน้า โครงการขับเคลื่อนนโยบายสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้าเตรียมเดินหน้าต่อเปิดเวทีอีสาน

26 ก.พ. 2566 วานนี้ (25 ก.พ. 2566) ที่คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โครงการขับเคลื่อนนโยบายสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า ได้จัดเวที “ฟังเสียงจากคนเหนือ พรรคการเมืองแถลงนโยบาย สวัสดิการเด็กเล็ก ถึงเวลาถ้วนหน้าหรือยัง” ในช่วงแรก รศ.ดร.วรวิทย์ เจริญเลิศ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นำเสนวนาในหัวข้อ “สถานการณ์เด็กเล็กภาคเหนือ และข้อเสนอ” ระบุ เด็กเล็กคือเด็กที่อายุไม่เกิน 5-6 ปี เป็นช่วงอายุที่สำคัญในการเจริญเติบโตทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ ดังนั้นนโยบายจะต้องตอบสนองความต้องการพื้นฐานให้เด็กได้ ทั้งด้านความมั่นคงทางด้านร่างกายและอารมณ์ แต่อุปสรรคที่สำคัญคือความยากจนที่รัฐบาลต้องแก้ให้ได้ นอกจากนี้ยังมีประเด็นความรุนแรงในครอบครัวและสังคมซึ่งจะมีผลกระทบต่อจิตใจของเด็ก

ด้าน ผศ.ดร.สุวิชาน พัฒนาไพรวัลย์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒน์ กล่าวว่า สวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้าเป็นความจำเป็นขั้นพื้นฐาน และควรจะเป็นการนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ เพื่อให้เด็กเหล่านี้ได้รับการดูแลตามสิทธิเด็กที่เด็กควรจะได้รับ อย่างไรก็ตาม แม้จะมีเงินอุดหนุน แต่ควรมีกลไกแลระบบรองรับด้วย อยากให้วาระในการสนับสนุนเด็กไม่ควรจะเป็นแค่นโยบายของพรรคการเมือง แต่ควรจะเป็นวาระหลักที่ทุกฝ่ายช่วยกัน

สุมิตร วอพะนอ องค์การแพลน อินเตอร์เนชันแนล ประเทศไทย กล่าวว่า มีเด็กชาติพันธ์และเด็กไร้สัญชาติอีกแสนกว่าคน ที่ไม่ได้รับสวัสดิการนี้ ซึ่งสวัสดิการจะช่วยลดภาระของกระทรวงสาธารณสุขในอนาคต เพราะเด็กจะเติบโตมาอย่างดี 

ในขณะที่ จันทร์ฉาย โนลอย รองนายก อบต.แม่วิน อ.แม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ ย้ำว่า ในพื้นที่ตำบลแม่วินมียังเด็กที่เล็กตกหล่นที่ไม่ได้รับเงินอุดหนุนเด็กเล็ก เกือบ 100 คน

11 พรรคการเมืองกับนโยบายสวัสดิการเด็กเล็ก

ผู้แทนจากพรรคการเมืองทั้ง 11 พรรคการเมือง นำเสนอนโยบาย “สวัสดิการเด็กเล็ก ถึงเวลาถ้วนหน้าหรือยัง” เริ่มต้นที่พรรคภูมิใจไทย

ภูมิใจไทย พูดชัด 600 บาทไม่พอ

ย้ำเด็กทุกคนต้องได้ ไม่ต้องพิสูจน์ใครจน ปาตีเมาะ เปาะอิแตดาโอะ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยเน้นนโยบายการพัฒนาคุณภาพชีวิตเสนอให้กับประชาชน เพราะประชาชนทุกคนต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีในหลายๆด้าน ส่วนเงินอุดหนุนเด็กเล็กถ้วนหน้านั้น พรรคภูมิใจไทยเห็นว่าเงิน 600 บาทไม่เพียงพอ และไม่ควรต้องพิสูจน์ความยากจน เด็กที่อยู่บนผืนแผ่นดินไทยทุกคนควรจะได้รับเงินอุดหนุน

พลังประชารัฐเล่นใหญ่ แจกแม่ตั้งครรภ์เดือนละหมื่น

ด้านพรรคพลังประชารัฐ ผศ.ดร.วลัยพร รัตนเศรษฐ์ คณะกรรมการนโยบายพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า พลังประชารัฐมีนโยบายจะดูแลคนทุกกลุ่ม โดยจะกำหนดนโยบายแก้ปัญหาเด็กเล็กในภาพใหญ่ ซึ่งขณะนี้พรรคได้เสนอนโยบายต่อคณะรัฐมนตรีกรณีสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้าต้องไม่มีการตกหล่น นอกจากนี้พรรคเห็นด้วยกับเงินอุดหนุนเด็กเล็ก 3,000 บาทและเด็กทุกสัญชาติต้องได้รับสวัสดิการ ไม่ตกหล่น และที่สำคัญแม่ที่ตั้งครรภ์จะให้เดือนละ 10,000 บาท เริ่มตั้งแต่เดือนที่ 5 นอกจากนี้พรรคมีนโยบายเน้นไปที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโดยยกระดับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กให้มีคุณภาพดีและทั่วถึง ทั้งอาหารและครูพี่เลี้ยง และจัดระบบความปลอดภัย ซึ่งจะใช้งบประมาณ 2.1 แสนกว่าล้านบาทต่อปี  จากกองทุนต่างๆ

เสรีรวมไทย ย้ำสิทธิ์ของเด็กต้องถ้วนหน้าไม่ซ้ำซ้อน

ภาวิณี  อินทะสิทธิ์ พรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า ขอสนับสนุนนโยบาย เงินอุดหนุนเด็กเล็กถ้วนหน้า โดยการรับสิทธิ์ของเด็กต้องไม่ซับซ้อนเด็กทุกคนต้องได้รับเงินนี้อย่างทั่วถึง ทั้งนี้พรรคเสรีรวมไทยมีแนวคิดว่า เด็กทุกคนเป็นเมล็ดพันธ์ที่ต้องพัฒนาให้เติบโตอย่างดี โดยเฉพาะในช่วง 0-6 ปี และต้องสร้างให้เป็นรูปธรรม

ชาติพัฒนากล้า ให้เด็กเล็กถ้วนหน้า 2,000 บาท

ลดภาษีให้ผู้ประกอบการที่มีศูนย์เด็กเล็กฯ สำหรับเยาวภา บุรพลชัย พรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า พรรคชาติพัฒนากล้ามีนโยบายในการที่จะขยายศูนย์เด็กเล็กให้มากขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ปกครอง โดยจัดตั้งศูนย์เด็กเล็กในบริษัท/โรงงาน โดยลดภาษีให้กับผู้ประกอบการเพื่อเป็นแรงจูงใจ นอกจากนี้ยังมีนโยบายให้คุณแม่ทำงานที่บ้านหรือที่ทำงานได้ทุกที่โดยอาจจะไม่ต้องเข้าสำนักงานเพื่อแม่ได้ดูแลลูกอย่างใกล้ชิด ส่วนวันลาคลอดอาจจะต้องมีการพิจารณานโยบายอย่างละเอียดให้สอดคล้อง

“พรรคชาติพัฒนากล้าจะพัฒนาทักษะครูพี่เลี้ยง โดยใช้งบประมาณ 24,000 ล้านบาทต่อปี  เพิ่มงบประมาณเงินอุดหนุนสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า 0-6 ปี  2,000 บาทต่อเดือน” เยาวภา กล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ เด็กทุกคนต้องมีข้าวเช้ากิน เพิ่มศูนย์เด็กเล็กจากโรงเรียนร้าง

ดร.พิสิษฐ์ ลี้อาธรรม พรรคประชาธิปัตย์   กล่าวว่า  จากที่สำรวจพื้นที่ต่างๆ  มีโรงเรียนจำนวนมากปิดตัวลง พรรคประชาธิปัตย์ จึงมีนโยบาย จะพัฒนาให้โรงเรียนเหล่านั้นให้เป็นศูนย์เด็กเล็กในพื้นที่ โดยผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นอกจากนี้จะประสานไปยังสถานประกอบการทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชน ต้องมีศูนย์ดูแลเด็กเล็ก  รวมถึงการดูแลเด็กเล็กที่ไปโรงเรียน แม้รัฐบาลจะมีนโยบายเรียนฟรี แต่เด็กก็ยังไม่มีเงิน และจะให้อาหารเช้าให้เด็กที่มาโรงเรียน มีหลักสูตรที่เหมาะสมกับเด็กและกลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศไทยต้องมีบัตรประจำตัวประชาชน

พรรคประชาชาติ เสนอใช้งบฯลับ สร้างรัฐสวัสดิการ

ธนัญญรัชช์ เศรษฐาธิรัชฏิ์ ผู้แทนพรรคประชาชาติ  กล่าวว่า พรรคมีนโยบายที่เน้นในเชิงคุณภาพ สร้างรัฐสวัสดิการ ให้เงินอุดหนุนตั้งแต่เกิดจนถึงตาย ให้สิทธิลาคลอดก่อนทั้งพ่อและแม่ 180 วัน เด็กต้องเรียนฟรีจนถึงปริญญาตรี โดยจะใช้งบลับมาสร้างสวัสดิการสังคม เป็นรัฐสวัสดิการ โดยเน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน

พรรคประชากรไทย พร้อมผลักดันสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า

ธรรม ธรรมรักษ์  ผู้อำนวยการพรรคประชากรไทย กล่าวว่า เด็กอายุระหว่าง 0-6ขวบ เป็นช่วงที่สมองกำลังเติบโต รัฐต้องให้ความสำคัญกับเด็กๆ ในช่วงนี้ พรรคประชากรไทยพร้อมที่จะผลักดันสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า และกลุ่มพี่น้องที่ยากจน และการลงทุนในกลุ่มเด็กเล็กประเทศจะมีความยั่งยืน เพราะเด็กจะเติบโตอย่างมีคุณภาพ ทั้งนี้พรรคมีนโยบายพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในทุกระดับ

พรรคไทยสร้างไทย รับหลักการเงินอุดหนุนเด็กเล็กถ้วนหน้า

วิภาพรรณ วงษ์สว่าง พรรคไทยสร้างไทย  กล่าวว่า เรามองประชากรที่เกิดมาแล้วเป็นมนุษย์ต้องได้รับการดูแลตั้งแต่เกิด ดังนั้นจึงมีการผลักดันนโยบายบำนาญผู้สูงอายุถ้วนหน้า3,000 บาทต่อเดือน เพื่อแบ่งเบาภาระในครอบครัว เรียนฟรีถึงปริญญาตรี และนโยบายเงินอุดหนุนเด็กเล็กถ้วนหน้า พรรคไทยสร้างไทยจะรับหลักการเพื่อดำเนินการต่อ นอกจากนี้พรรคยังมีนโยบายเร่งด่วนในเรื่องการยุติความรุนแรงในครอบครัวด้วย

พรรคก้าวไกลย้ำ 3 ข้อเสนอเด็กเล็กถ้วนหน้า

ยังยืนยัน 1,200 บาทต่อเดือน เพชรรัตน์ ใหม่ชมภู จากพรรคก้าวไกล กล่าวว่า  พรรคก้าวไกลมีนโยบายเกี่ยวกับเด็กเล็กตั้งแต่ 0-6 ปี ดังนี้ 1.บ๊อกเซตของขวัญสำหรับเด็กแรกเกิดมูลค่า 3,000 บาท   2.เงินอุดหนุนเด็กเล็ก 1,200 บาทต่อเดือน 0-6 ปี 3. สิทธิลาคลอด 180 วัน พ่อแม่สามารถแบ่งกันได้ ซึ่งสอดคล้องกับกรมอนามัยโลก 4.สนับสนุนให้ท้องถิ่น หรือเอกชนให้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เป็นสวัสดิการถ้วนหน้า โดยไม่ต้องพิสูจน์ความจน และไม่ต้องพิสูจน์สัญชาติ โดยงบประมาณอยู่ที่ 34,000 ล้านบาทต่อปี  

พรรคเพื่อไทย ขานรับเงินอุดหนุน 3,000 บาท/เดือน แต่ต้องไม่กระทบนโยบายภาพรวม

ดร.ณหทัย ทิวไผ่งาม กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยพร้อมสนับสนุนนโยบายเงินอุดหนุนเด็กเล็กถ้วนหน้า ในอัตรา 3,000 บาทต่อเดือนมีความเป็นไปได้แต่ต้องไม่กระทบนโยบายรัฐบาล โดยจะผนวกเข้ากับกองทุนเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยยังมีแนวคิดว่า ทำอย่างไรไม่ให้สวัสดิการถ้วนหน้าเป็นแค่นโยบายการแจกเงิน  ทำอย่างไรจะให้เป็นการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ลดรายจ่ายคือเรื่องสุขภาพ ยกระดับให้นโยบาย 30 รักษาทุกโรค ครอบคลุมทุกกลุ่ม

พรรคเสมอภาค พร้อมผลักเงินอุดหนุนเด็กเล็กเป็นวาระแห่งชาติ

รฎาวัญ วงศ์ศรีวงศ์  หัวหน้าพรรคเสมอภาค  กล่าวว่า จะกำหนดนโยบายดังกล่าวนี้ เป็นวาระแห่งชาติและดำเนินการอย่างจริงจัง ในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยผลักดันในรูปแบบกฎหมายบริการประชาชน เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน ใช้วิธีบริหารจัดการกองทุนที่สำคัญของประเทศ เช่น กองทุนประกันสังคม เพิ่มสิทธิประโยชน์ในการเลี้ยงดูเด็กและการลาคลอดของแม่

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท