Skip to main content
sharethis

'ไทยสร้างไทย' ประกาศนโยบาย 'แก้หนี้เติมทุน' ด้วย 'กองทุนสร้างไทย' จำนวน 300,000 ล้านบาท เพื่อช่วยฟื้นธุรกิจให้กับผู้ประกอบการ SMEs และแก้หนี้ครัวเรือนที่สูงเป็นประวัติการณ์ เปิดโอกาสให้คนไทยเร่งสร้างรายได้ - พท. ปราศรัยอำนาจเจริญ ขอเลือกทั้งคนทั้งพรรคหวังแก้จน ยืนยันนโยบายค่าแรง 600 บาทถ้าเป็นรัฐบาลครบ 4 ปีได้แน่นอน สินค้าการเกษตรต้องราคาขึ้นยกแผงด้วยการเปิดตลาดให้ขายได้ทั่วโลก


ที่มาภาพ: สำนักข่าวไทย

18 ก.พ. 2566 สำนักข่าวไทย รายงานว่าคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย พร้อมนายการุณ โหสกุล แกนนำพรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่เขตดอนเมือง พบประชาชนที่ตลาดฝั่งโขง พร้อมปราศรัยประกาศนโยบาย “แก้หนี้เติมทุน” ด้วย “กองทุนสร้างไทย” 300,000 ล้านบาท เพื่อช่วยประชาชนสามารถฟื้นธุรกิจตั้งต้นทำมาหากินกันได้ใหม่

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่า หนี้ครัวเรือนไทยในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา พุ่งเกิน 30% ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่ากังวล เพราะเกินระดับเฝ้าระวังที่ 80% ต่อจีดีพี มาอยู่ที่ 86.8% ต่อจีดีพี ในไตรมาส 3 ของปี 2565 และหากไม่มีการวางแนวทางแก้ไข จะกระทบต่อระบบความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจในระยะยาวอย่างแน่นอน

พรรคไทยสร้างไทย จึงมีมาตรการในการ “แก้หนี้” แบ่งเป็น 2 ส่วน ดังนี้

1) ธุรกิจ ที่เป็นหนี้เสียจากปัญหาโควิด ภายใต้รหัส 21 ประมาณ 2 แสนล้านบาทนั้น พรรคไทยสร้างไทยได้เสนอให้มีการจัดตั้ง “กองทุนสร้างไทย” ขึ้นมา โดยจะพักหนี้ 3 ปี พักดอกเบี้ย 2 ปี โดยรัฐจะเป็นผู้ที่ออกให้ก่อน เพื่อเป็นเครื่องมือในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs และผู้ประกอบการรายเล็กและรายย่อยที่มีศักยภาพ แต่ต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นตัวจากผลกระทบของการระบาดของโรคโควิด

2) แก้หนี้ เติมทุนให้ผู้ประกอบการรายเล็กรายย่อยด้วย “กองทุนสร้างไทย” 300,000 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการรายเล็ก SMEs และผู้ประกอบการรุ่นใหม่ Start up เงื่อนไขผ่อนปรนและดอกเบี้ยถูก เพื่อให้ธุรกิจฟื้นตัวได้หลังโควิด ซึ่งประกอบด้วย 4 กองทุนย่อย ได้แก่ กองทุน SMEs กองทุน Startup กองทุนวิสาหกิจชุมชน และกองทุน Venture Capital

รวมถึงมาตรการล้างหนี้นอกระบบให้ประชาชน ด้วย “กองทุนเครดิตประชาชน” หรือกองทุนคนตัวเล็ก ซึ่งจะเป็นการมอบเครดิตให้ประชาชนเพื่อล้างหนี้นอกระบบ ช่วยคนไทยหลุดพ้นจากอุปสรรคทางการเงินที่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบ ด้วยเงื่อนไขผ่อนปรนในอัตราดอกเบี้ยต่ำไม่เกินร้อยละ 1 ต่อเดือน ที่สำคัญคือไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน สามารถเริ่มต้นกู้ได้ไม่เกิน 5,000 บาท และถ้ารักษาเครดิตได้ดีจะสามารถกู้ได้ถึง 50,000 บาท โดยเงินจำนวนนี้อาจกู้ยืมไปใช้ในยามวิกฤติ ใช้เพื่อการตั้งตัว เอาไปเป็นทุนหมุนเวียนในการประกอบธุรกิจของตนได้

คุณหญิงสุดารัตน์ ย้ำว่า ไทยมีภาระหนี้สิน ทั้งของประเทศ ของภาคธุรกิจ SMEs และหนี้ครัวเรือนสูงเป็นประวัติการณ์ ประเทศจะเดินต่อได้ จำเป็นต้องแก้ปัญหาหนี้ทั้งหมดนี้เสียก่อน และต้องเร่งสร้างรายได้ใหม่ให้คนไทย

พท. ปราศรัยอำนาจเจริญ ขอเลือกทั้งคนทั้งพรรคหวังแก้จน

มติชนออนไลน์ รายงานว่าที่สวนมิ่งเมืองเฉลิมพระเกียรติ อ.เมืองอำนาจเจริญ พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดเวทีปราศรัยต่อเนื่องเป็นวันที่สอง นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค พท. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมาและเลขาธิการพรรค นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคามและรองหัวหน้าพรรค น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย แกนนำพรรค ส.ส.ในพื้นที่อำนาจเจริญและยโสธร รวมถึงว่าที่ผู้สมัครในทั้งสองพื้นที่ เดินทางมาร่วมเวทีอย่างพร้อมเพรียง โดยมีประชาชนชาวอำนาจเจริญมารอฟังการปราศรัยจนเต็มพื้นที่ลานด้านหน้าสวนเฉลิมพระเกียรติฯ

นพ.ชลน่านกล่าวว่า เรายกทัพใหญ่มาพบประชาชนเพื่อต้องการเน้นว่าการเลือกตั้งครั้งนี้อำนาจเป็นของประชาชน เราต้องการเอาอำนาจของประชาชนคืน วันนี้พี่น้องคิดถึงอดีตนายกฯ ที่อยู่แดนไกลหรือไม่ เสียใจที่วันนี้ท่านไม่ได้อยู่ในประเทศ แต่ท่านจะแปลงกายใส่วิกอุ้มท้องในร่างของ น.ส.แพทองธารมาพบพี่น้อง ขอให้เลือก พท.ยกจังหวัด ทั้งอำนาจเจริญและยโสธร 8 ปีที่ผ่านมาประชาชนเจอกับความยากลำบาก ถ้าเลือกเขาต่อไปได้นโยบายกัญชาเสรี แต่กฎหมายที่ให้ปลูกกัญชา 6 ต้น มันเอาไปกินไปขายไม่ได้ แต่ทำให้ลูกหลานติดกัญชา

น.ส.แพทองธารปราศรัยว่า อาทิตย์หน้าจะท้องครบ 7 เดือน กลัวคุณหมอไม่ให้เดินทาง เลยมาพบพี่น้องอีสานก่อนใครเพื่อน ทั้งนี้ พรรค พท.คิดนโยบายเพื่อแก้ปัญหาให้ชาวอีสานหายจน แต่เกิดรัฐประหาร และมีปัญหาโควิดการจัดการของรัฐบาลไม่ดี ทำให้ประชาชนเป็นหนี้มาถึงทุกวันนี้ และยืนยันนโยบายค่าแรง 600 บาท ถ้าพรรค พท.เป็นรัฐบาลครบ 4 ปี ค่าแรงได้ 600 บาทแน่นอน และสินค้าการเกษตรต้องราคาขึ้นยกแผงด้วยการเปิดตลาดให้ขายได้ทั่วโลก วันนี้ปัญหาความยากจนแก้ไม่จบเสียทีเลยมาขอคะแนนให้เลือกทั้งคนทั้งพรรค เพื่อเข้าไปโหวตนโยบายที่เราตั้งใจมาแก้ไขให้พี่น้อง

เมื่อถามถึง เนื้อหาการปราศรัยที่ จ.อำนาจเจริญ พุ่งเป้าไปที่นโยบายกัญชาเสรี หมายความว่าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวใช่หรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า แปลว่ายาเสพติดเป็นอันตรายที่น่ากลัวของประชาชน กัญชาที่อยู่ในมือลูกหลานเป็นอันตรายต่ออนาคตชาติ ไม่ว่าจะเป็นปราศรัยที่ไหน เรายกให้ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดเรื่องหนึ่งที่จะต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนทันที และต้องไม่ลืมว่าในปี 2548 การเลือกตั้งครั้งนั้นเมื่อพรรคได้มีการสำรวจ พบว่านโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นนโยบายของรัฐบาลไทยรักไทยที่ประชาชนชื่นชมชื่นชอบมากที่สุดและยังคงเชื่อมั่นจนถึงปัจจุบัน ไม่ได้มองว่าเป็นพรรคใดพรรคหนึ่งเป็นการเฉพาะแต่ยาเสพติดเป็นอันตรายสำหรับทุกคน และพรรคไหนหรือใครก็ตามสนับสนุนเรื่องนี้ก็เห็นต่างกับพรรค พท.

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net