‘คริส’ แจงปมเงินตั้ง ‘พรรคเส้นด้าย’ ชี้แยกทั้งเงินทั้งการบริหาร พร้อมถูกตรวจสอบ

“คริส” แจงแยกบัญชีพรรคกับมูลนิธิ “เส้นด้าย” ชัดเจน ส่วนเงินตั้งพรรคเป็นของคนที่ร่วมตั้งไม่ได้แตะเงินบริจาค และตั้งพรรคเส้นด้ายเพราะอาสาที่ทำงานกันตอนโควิดต่างเรียกร้อง หวังแก้ปัญหาสาธารณสุขที่เหลื่อมล้ำ

4 มี.ค.2566 คริส โปตระนันทน์ หัวหน้าพรรคเส้นด้ายให้สัมภาษณ์กับประชาไทต่อประเด็นร้อนที่พรรคเส้นด้ายถูกตั้งคำถามจากสื่อสังคมออนไลน์ถึงเรื่องการบริหารจัดการไปจนถึงที่มาของเงินที่ใช้ตั้งพรรคว่าเกี่ยวข้องกับเงินบริจาคช่วยโควิด-19 ของมูลนิธิเส้นด้ายหรือไม่

คริสกล่าวว่าสำหรับประเด็นเรื่องเงินที่นำมาใช้ตั้งพรรคนั้นขอให้มั่นใจว่าทางพรรคมีการแยกบัญชีกันอย่างชัดเจนอยู่แล้วจะไม่มีการนำเงินสองส่วนนี้มายุ่งปนกัน แล้วพรรคกับมูลนิธิเป็นคนละนิติบุคคลกันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน โดยการเงินในส่วนของมูลนิธิก็มีกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ตรวจสอบและมูลนิธิต้องทำรายงานส่ง ส่วนของพรรคก็มีคณะกรรมการการเลือกตั้งตรวจสอบอยู่ด้วยเช่นกัน

“ผมเป็นนักกฎหมายเรื่องพวกนี้จะพลาดไม่ได้แน่นอน” พร้อมกับย้ำว่าเงินของมูลนิธิทุกบาทสามารถตรวจสอบได้และมีใบเสร็จ ไม่มีเงินส่วนไหนที่ถูกเอามาใช้ตั้งพรรคเลย เงินตั้งพรรคเป็นเงินของพวกเขาที่ช่วยกันใส่เข้าไป

ส่วนการบริหารกรรมการบริหารของมูลนิธิก็ทำส่วนของมูลนิธิไปแล้วผู้อำนวยการของมูลนิธิก็จะได้รับการแต่งตั้งจากกรรมการ ส่วนการใช้เงินของ ผอ.ก็จะมีกรรมการมูลนิธิเป็นผู้อนุมัติ การหาเงินบริจาคก็เป็นส่วนของมูลนิธิอย่างชัดเจน แม้ว่าจะชื่อเดียวกัน

คริสกล่าวว่าการจะบอกว่าเป็นชื่อเดียวกันก็ยังพูดได้ไม่ชัดเพราะชื่อของมูลนิธิคือ “มูลนิธิเส้นด้าย” ไม่ได้ชื่อเส้นด้าย ส่วนพรรคก็เป็นพรรคการเมืองใหม่ที่ชื่อว่า “พรรคเส้นด้าย” มีการบริหารเงินที่ชัดเจนและตัวเขาเองที่เป็นหัวหน้าพรรคก็จะต้องเป็นคนช่วยหาเงินบริจาคเข้าไปในส่วนของพรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นมา

“ส่วนมูลนิธิผมลาออกมา 7-8 เดือนแล้ว ตอนนี้เขาก็รันของเขาไปได้”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าถึงอย่างไร “เส้นด้าย” น่าจะถูกเข้าใจว่าเป็นเกี่ยวข้องกันทั้งพรรคทั้งมูลนิธิเพราะเส้นด้ายกลายเป็นภาพจำของคนไปแล้วทั้งกับตัวเขาเองและมูลนิธิที่ออกมาให้ความช่วยเหลือในการดูแลคนไข้โควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา

คริสอธิบายประเด็นนี้ว่า “เส้นด้าย” ไม่ได้เป็นแค่ชื่อของมูลนิธิและพรรค แต่เป็นชื่อของกลุ่มเส้นด้าย ที่ตัวเขาเองเป็นหัวหน้ากลุ่ม อีกทั้งกลุ่มเส้นด้ายยังได้ตั้งบริษัทขึ้นมาและตั้งมูลนิธิขึ้นมาแต่ละอันก็เป็นคนละนิติบุคคลกันแล้วกลุ่มเส้นด้ายก็ตั้งพรรคเส้นด้าย แต่แน่นอนว่าทุกคนในกลุ่มก็ไม่ได้เข้า

“แต่แน่นอนว่าไม่ใช่กลุ่มเส้นด้ายจะไปทำธุรกิจหมดทุกคน แล้วก็ไม่ใช่กลุ่มเส้นด้ายทุกคนจะไปทำมูลนิธิกับผมทุกคน แล้วก็ไม่ใช่กลุ่มเส้นด้ายทุกคนจะมาทำพรรคการเมืองกับผม แล้วคำว่าเส้นด้ายก็ไม่ได้มีเครื่องหมายการค้า ถ้าผมไม่ได้ตั้งพรรคเส้นด้าย แล้วคุณจะตั้งพรรคเส้นด้ายขึ้นมาก็ไม่มีใครไปห้ามคุณได้ มันเป็นสิทธิโดยแท้แล้วก็เป็นคนละสิ่งกันเลย” หัวหน้าพรรคเส้นด้ายกล่าว

คริสกล่าวว่ามีการคุยกันในเส้นด้ายก่อนตั้งพรรคและมีคนที่ไม่เห็นด้วยอยู่เช่นกัน แต่สำหรับกลุ่มเส้นด้ายที่พัฒนามาจนถึงวันนี้จนมีสมาชิกกลุ่มกว่าพันคนกลับมีเสียงที่คัดค้านจำนวนน้อยมากไม่ถึงสิบคน เพราะฉะนั้นคงไม่สามารถทำให้ถูกใจคนในกลุ่มทุกคนได้ และมีบางคนที่ก็ยังไม่ถึงกับไม่เห็นด้วยแต่กำลังรอดูว่าพรรคจะไปรอดไม่รอด

“ประเทศนี้ทำให้การเมืองไปเป็นที่ดูชั่วร้ายเลวร้าย เป็นเรื่องของผลประโยชน์ เป็นเรื่องตำแหน่ง ทั้งที่จริงแล้วมันคือวัฒนธรรมอาสาโดยแท้ที่จะอาสาเข้ามาทำให้ระบบของประเทศมันดีขึ้น ไม่ได้ขัดแย้งกับจุดประสงค์ของเส้นด้ายที่ตั้งกลุ่มอาสาเพื่อที่จะจัดการเรื่องสาธารณสุขที่เหลื่อมล้ำ คือวัตถุประสงค์เดียวกันแต่วิธีการคนละอย่างเท่านั้นเอง” หัวหน้าพรรคมองว่าคือการยกระดับของการเคลื่อนไหวของกลุ่มเส้นด้ายที่มีประชาชนจำนวนมากสนับสนุน แต่การขับเคลื่อนสิ่งที่ทำอยู่นั้นการเป็นกลุ่มหรือมูลนิธิไม่เพียงพอต่อการผลักดันการแก้ไขปัญหาต่อไปได้ แม้ว่ามูลนิธิและกลุ่มเส้นด้ายจะช่วยเหลือคนตลอดเวลาที่ผ่านมาไปแล้วสามแสนกว่าคน แต่ถ้าเป็นพรรคการเมืองแล้วมีนโยบายที่ทำได้จริงก็ช่วยคนได้อีกเป็นล้านเพราะยังมีคนที่ถูกอยู่ในระบบสาธารณสุขแล้วยังเจอปัญหาเรื่องต้องมีเส้นสายอีกเยอะ

นอกจากนั้นคริสยังอธิบายถึงการใช้ชื่อ “เส้นด้าย” มาตั้งเป็นชื่อพรรค แล้วถ้าจะตั้งเป็นชื่ออื่นก็คงไม่ได้เพราะอาสาของเส้นด้ายในชุมชนเองก็มีความผูกผันกับชื่อนี้ด้วยและแม้จะเป็นชื่อเส้นด้าย แต่ก็ไม่ใช่สิ่งเดิมแต่เป็นการพัฒนาภารกิจของกลุ่มขึ้นไปอีกขั้น

“เส้นด้ายเป็นสัญลักษณ์ เป็นวิธีคิดัมนเป็นสิ่งที่พวกผมเชื่อ แล้วก็ไม่ได้มาจากแค่ผม ประชาชนที่เป็นอาสาของเส้นด้าย คนที่อยู่ในพื้นที่เขาถามผมทุกวันเวลาไปลงพื้นที่ว่าทำถึงขนาดนี้พวกเราก็อยู่กันตรงนี้ช่วยกันขนาดนี้ทำไมเราถึงไม่ตั้งพรรคการเมืองเองเสียเลย”

ผู้สื่อข่าวถามถึงความคาดหวังต่อการเลือกตั้งครั้งที่จะถึงนี้ไว้อย่างไร หัวหน้าพรรคเส้นด้ายตอบว่าด้วยระบอบประชาธิไตยมีความสวยงามตรงที่การได้เสนอหรือจุดประเด็นที่ถูกต้องมีการถกเถียงกันทางความคิดให้ประชาชนได้ตัดสิน แม้ว่าเสียงส่วนใหญ่จะไม่ได้เลือกก็ตาม ซึ่งเรื่องนี้เป็นจุดมุ่งหมายสูงสุดแล้ว

คริสกล่าวว่าตัวเขาเองเชื่อว่าพรรคเส้นด้ายจะไม่ได้เป็นพรรคใหญ่ แต่ถ้าสามารถเสนอนโยบายที่ประชาชนชอบบางทีอาจจะมีพรรคใหญ่รับไปทำได้ก็ได้ หรือถ้าพรรคเส้นด้ายมี ส.ส.เข้าไปในสภาจำนวนหนึ่งแต่ไม่พอจะผลักดันเองแล้วมีพรรคใหญ่เห็นความสำคัญจะเอานโยบายของเส้นด้ายไปทำก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว ตัวเขาเองไม่ได้คาดหวังหรือคิดว่าจะได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงอะไร แต่ถ้ามีประชาชนสนับสนุนมากพอก็อาจจะอาสาเข้าไปทำสักกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งให้เป็นไปตามภารกิจของกลุ่มเส้นด้าย

“ผมคิดว่าในระบอบประชาธิปไตยควรจะมีพรรคแบบนี้เยอะๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นพรรคใหญ่เสมอไป วันนี้ทุกพรรคที่เป็นพรรคเล็กก็เลิกกันหรือรวมกันไปหมดแล้ว เพราะว่าเขาไม่ได้เป็นตัวแทนของกลุ่มอุดมการณ์อะไร หรือเป็นตัวแทนของประชาชนบางกลุ่มจริงๆ คนเหล่านั้นแค่คิดว่าอยากจะเข้าไปถืออำนาจรัฐ อยากจะมี ส.ส.เข้าไปเยอะๆ อยากจะเข้าไปร่วมรัฐบาล คิดกันแต่เรื่องผลประโยชน์ พรรคเส้นด้ายไม่ใช่แบบนั้นเลย”

คริสกล่าวว่าถ้าพรรคเส้นด้ายเป็นตัวแทนที่ได้รับเลือกเข้าไปในสภาถ้าได้เข้าไปร่วมเป็นรัฐบาลก็เป็นเรื่องดี แต่หากไม่ได้ร่วมอย่างน้อยพรรคเส้นด้ายก็ยังเป็นตัวแทนของคนกลุ่มหนึ่งที่เชื่อในเรื่องของการกำจัดเส้นสายออกจากประเทศไทย ถ้าเรามี ส.ส.3-5 คนก็ได้ แต่สำหรับเขาเองมีเป้าหมายอยากให้พรรคได้ ส.ส.ถึง 25 คนเพื่อให้พอที่จะเสนอกฎหมายได้ซึ่งเป็นเป้าเดียวกันกับตอนที่เขาคิดว่าไว้ตอนร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ แต่ที่วันนี้ออกมาทำพรรคเองเพื่อทำตามอุดมการณ์และแนวทางที่แตกต่างกันกับตอนร่วมทำพรรคอนาคตใหม่

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท