Skip to main content
sharethis

พรรคไทยภักดี ประกาศล่ารายชื่อแก้ไขเพิ่มความคุ้มครองสถาบันกษัตริย์ใน ม.112 ตอนนี้ได้ 6 พันรายชื่อแล้ว เตรียมล่าให้ครบ 1 หมื่นรายชื่อ และจะยื่นกับสภาฯ ชุดใหม่หลังเลือกตั้งปี'66 

 

15 มี.ค. 2566 พรรคไทยภักดี ถ่ายทอดสดผ่านแพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก เมื่อ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา ปราศรัยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กทม."เมล็ดพันธุ์ใหม่ พรรคไทยภักดี" 33 เขต ที่ลานคนเมือง เสาชิงช้า โดยในระหว่างปราศรัย วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี ประกาศว่า ตอนนี้พรรคไทยภักดี รวบรวมได้ 6 พันรายชื่อจากทั้งหมดที่ต้องได้ 1 หมื่นรายชื่อเพื่อขอยื่นแก้ไขมาตรา 112 เพิ่มความคุ้มครองกษัตริย์ 

วรงค์ กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาประเทศกำลังเผชิญปัญหาการล้มล้างการปกครอง และพรรคการเมืองบางพรรคประกาศแก้ไขมาตรา 112 และปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ซึ่งวรงค์ มองว่า การต่อสู้เพื่อแก้ไขมาตรา 112 และปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ คือกระบวนการที่ทำให้สถาบันเบื้องสูงอ่อนแอ สังคมไทยรับไม่ได้ คนเหล่านี้วิเคราะห์สังคมไทยผิด เพราะยึดติดกับการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 หรือ 90 ปีที่ผ่านมา และเชื่อในบทวิเคราะห์ว่า สังคมไทยเป็นสังคมขุนศึก ศักดินา ซึ่งขุนศึก คือ ทหาร และสถาบันเบื้องบน คือ ศักดินา พวกคนบางกลุ่มถึงจ้องจะทำลายกองทัพ และสถาบันเบื้องสูง

วรงค์ มองว่า ประเทศไทยติดกับที่ทุนนิยมสามานย์ ไม่ใช่ขุนศึกศักดินา ขอถามพี่น้องตรงๆ ว่าถ้าเขาแก้ไขมาตรา 112 หรือยกเลิก ม.112 มีปัญหาต่อสถาบันฯ แน่ และการแก้ไข ม.112 จะช่วยยกระดับชีวิตของประชาชนอย่างไร แต่กลับกัน ถ้าให้เขาต่อสู้กับทุนสามานย์ ทุนผูกขาด หรือทุนอื่นๆ จะทำให้สาธารณูปโภคราคาถูกลง ค่าแก๊สหุงต้ม และค่าอินเทอร์เน็ตถูกลง ที่สำคัญคือเกษตรกรมีรายได้ และค่าปุ๋ยถูกลง ดังนั้น ปัญหาของประเทศไม่ใช่มาตรา 112 แต่ปัญหาของประเทศเกิดจากทุนสามานย์ และทุนผูกขาด ร่วมมือกับนักการเมืองทุจริต 

"ถ้าวิเคราะห์ปัญหาของประเทศไทยผิด มันมีแต่นำไปสู่กลียุคของสังคม วันนี้เฉพาะจะแก้ไข ม.112 สังคมก็แตกแยกแล้ว ไม่เพียงแต่สังคมแตกแยก คนในครอบครัวก็แตกแยกด้วย และที่สำคัญที่สุด มันวิเคราะห์ปัญหาของประเทศผิด ถ้าบอกว่าปัญหาของประเทศเกิดจากนักการเมืองขี้โกง ร่วมกับทุนสามานย์ ทุนผูกขาด อย่างนี้ถูก และนี่คือสิ่งที่ไทยภักดีวิเคราะห์ ไอ้พวกนู้นกับไทยภักดี จึงเดินตรงกันข้ามกัน" วรงค์ กล่าว

วรงค์ ระบุต่อว่า สิ่งที่ไทยภักดี คิดโดยวางอยู่บนผลประโยชน์ของประชาชน และสิ่งที่ฝั่งตรงข้ามจะทำคือการสมรู้ร่วมคิดจักรวรรดินิยมใหม่ เพราะเป็นรูปแบบของการล่าอาณานิคมยุคใหม่ เพราะสมัยก่อนเวลาตะวันตกล่าอาณานิคมจะเอาเรือเข้ามาปิดแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ยุคนี้เป็นยุคใหม่เลยใช้คำว่าประชาธิปไตย เสรีภาพ และสิทธิมนุษยชน มาหลอกลูกหลานของเรา และเชื่อว่าประชาชนจะสู้ไม่ถอยกับคนพวกนี้ 

พรรคไทยภักดี ทนไม่ได้กับกลุ่มคนที่พยายามจะแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งเขามองว่าเป็นความพยายามจะด้อยค่าสถาบันพระมหากษัตริย์ พรรคไทยภักดีรับไม่ได้ และเสนอจะแก้ไขมาตรา 112 ให้มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น 

หัวหน้าพรรคไทยภักดี กล่าวเชิญชวนประชาชนมาร่วมแก้ไขมาตรา 112 ด้วยกัน ให้ครบ 1 หมื่นรายชื่อ เพื่อให้สถาบันฯ เข้มแข็ง ตอนนี้ได้ประมาณ 6,000 กว่ารายชื่อแล้ว และหลังการเลือกตั้งปี 2566 และมีสภาฯ ชุดใหม่ พรรคฯ จะนำร่างแก้มาตรา 112 ภาคประชาชนยื่นต่อสภาผู้แทนราษฎร 

"พี่น้องจะได้ภาคภูมิใจว่า ครั้งหนึ่งเรามีส่วนในการเสนอร่างกฎหมาย เพื่อปกป้องสถาบันหลักของชาติ ให้สถาบันหลักของชาติมีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น" วรงค์ กล่าวระหว่างการปราศรัยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม.  

ทั้งนี้ วรงค์ เดชกิจวิกรม เคยแจ้งผ่านหน้าเฟซบุ๊กเมื่อ 7 ก.พ. 2566 ระบุว่ามีหนังสือตอบรับจากสภาผู้แทนราษฎรในการให้พรรคไทยภักดีรวบรวมรายชื่อประชาชนร่วมเสนอกฎหมายแก้ไขมาตรา 112 แล้ว โดยพรรคไทยภักดี เสนอเพิ่มความคุ้มครองให้กับสถาบันกษัตริย์ 3 ข้อ ประกอบด้วย หนึ่ง ขยายความคุ้มครองกษัตริย์ทุกพระองค์ในราชวงศ์จักรี สอง ขยายความคุ้มครองพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นสูงตั้งแต่พระองค์เจ้าขึ้นไป และสาม เพิ่มความคุ้มครองคำว่า 'สถาบันพระมหากษัตริย์'

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net