'พิธา' พร้อมจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากและพร้อมนั่งนายกฯ  ‘เพื่อไทย’ ประกาศพร้อมให้พรรคอันดับ 1 จัดตั้งรัฐบาล ยืนหยัดกติกาประชาธิปไตย ชี้คะแนนยังสูสีระหว่าง 2 พรรค ชี้ ส.ว.ยังเป็นประเด็นสำคัญ ขณะที่ 'ประยุทธ์' กลับบ้านขอบคุณทุกคะแนนเสียง 

14 พ.ค.2566 ภายหลังผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการถูกรายงานทั้ง กกต.และสื่อมวลชน  เวลา 22.00 น. พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงขอบคุณประชาชนกับทุกความไว้วางใจ ที่ลงคะแนนเสียงให้ จนบรรลุเป้าหมายได้เลข 3 หลักเกิน 100 เสียง ตามที่ตั้งเป้าไว้ และมีโอกาสที่จะเกิน 160 เสียง หรือมากกว่า ขณะที่การเลือกตั้งใน กทม. ทั้ง 33 เขต ยังมีอีก 4 เขต ยังนับไม่เสร็จ แต่เขตที่เหลือได้รับการยืนยันจากสมาชิกพรรคที่ไปสังเกตการณ์แล้วว่าชนะทุกเขต

ผลการเลือกตั้งขณะนี้ ทำให้พรรคก้าวไกลมีความพร้อมในการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก ย้ำจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการพูดคุยกับพรรคใด แต่การร่วมจัดตั้งรัฐบาลยังยืนยันที่พรรคฝ่ายค้านปัจจุบัน หากจับมือกับพรรคเพื่อไทย และก้าวไกลเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก ตนก็พร้อมเป็นายกรัฐมนตรี พร้อมยืนยันคำเดิม “มีลุงไม่มีเรา มีเราไม่มีลุง” ไม่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (15 พ.ค.) จะเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อทำตามที่สัญญาไว้กับประชาชน

ต่อคำถามที่ว่า หากจับมือกับพรรคเพื่อไทย จะส่งผลถึงการกลับมของ ทักษิณ ชินวัตร หรือไม่ โดยพิธา บอกว่าเรื่องจับมือพูดมานานแล้ว หาก “ทักษิณ” จะกลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี ไม่ใช่เฉพาะ “ทักษิณ” เท่านั้น แต่กับทุกคน ไม่คิดว่าจะทำให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้น แต่มองว่าเป็นการก้าวข้ามความขัดแย้ง ใครผิดก็ว่าไปตามผิด

พิธา ยืนยันพร้อมเข้าทำเนียบรัฐบาล แต่เป็นการพร้อมทำเพื่อประโยชน์ประชาชน เมื่อเลือกมาแล้วได้ใครเป็นนายกฯ ก็ไปตามนั้น ไม่มีใครที่เป็นนายกฯ เหนือเมฆมาก ตอนนี้หลับสบายทุกวัน เมื่อบริหารตัวเองได้ ก็รู้สึกแข็งแรงขึ้นทุกวัน

หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวตอบนักข่าวต่างชาติประเด็นการแก้ไขมาตรา 112 ที่เคยพูดไว้ช่วงหาเสียงว่า นี่เป็นคำสัญญาที่เราให้ไว้กับสาธารณชนชาวไทย และมันเป็นกฎหมายที่ต้องได้รับการแก้ไขผ่านรัฐสภา เราจะผลักดันการแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 ผ่านรัฐสภาไม่ว่ายังไงก็ตาม ดังนั้น นี่ไม่ใช่คำถามว่าเราจะทำมันหรือไม่ เราจะผลักดันมัน

‘เพื่อไทย’ ประกาศพร้อมให้พรรคอันดับ 1 จัดตั้งรัฐบาล ยืนหยัดกติกาประชาธิปไตย ชี้คะแนนยังสูสีระหว่าง 2 พรรค ชี้ ส.ว.ยังเป็นประเด็นสำคัญ 

ขณะที่ทีมสื่อพรรคเพื่อไทย รายงานต่อสื่อมวลชนว่า เวลา 23.05 น. แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย และแกนนำพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวความคืบหน้าการนับคะแนนการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ที่ศูนย์รายงานข่าวการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย ชั้น 7  โดยพรรคเพื่อไทยได้ขึ้นป้าย ‘ขอบคุณทุกคะแนนเสียง ที่มอบความไว้วางใจให้พรรคเพื่อไทย เราจะมุ่งมั่นทำงานต่อไป’ 

แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ยืนยันว่ายังมีความพร้อม หากนับออกมาแล้วใครเป็นที่หนึ่งหรือสอง คนนั้นต้องเป็นคนจัดตั้งรัฐบาล เป็นกฎกติกาอยู่แล้ว  ใครที่ได้รับเสียงจากประชาชนมาก จะได้เป็นฝ่ายที่จัดตั้งรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังมั่นใจหรือไม่ ว่าพรรคเพื่อไทยจะได้ อันดับหนึ่ง แพทองธาร กล่าวว่า ตอนนี้นับคะแนนเสียงไปได้ 60%  ยังมีโอกาสเป็นไปได้ทั้งอันดับ 1 หรือ 2 ทั้งคู่  แต่หากพรุ่งนี้คะแนนเป็นเอกฉันท์ พรรคก้าวไกลนำพรรคเพื่อไทย  ก็พร้อมน้อมรับเสียงของประชาชน  เพราะเสียงของประชาชนคือเสียงที่สำคัญที่สุด ประชาชนไว้ใจใครเป็นอันดับหนึ่ง คนนั้นได้จัดตั้งรัฐบาล  และพรรคนั้นก็ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอน 

เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้คะแนนยังใกล้เคียงกันอยู่ คิดว่าคอยให้ผลทางการออกมาก่อนแล้วค่อยมีการแถลงเพราะว่าคะแนนใกล้เคียงกันเหลือเกิน ตอนนี้มีการนับคะแนนไปแล้วประมาณ 60% ไปในทิศทางนี้ แต่อาจยังพลิกไปมาได้อีกนิดหน่อย

ผู้สื่อข่าวถามถึงพรรคภูมิใจไทยที่มีคะแนนมาเป็นอันดับ 3 ในขณะนี้ เศรษฐา กล่าวว่า ยังพูดไม่ได้ เพราะยังไม่รู้ว่าเป็นที่ 1 หรือไม่ แต่จุดยืนเราเหมือนเดิม ทั้งนี้ เรายึดโยงตามระบอบประชาธิปไตย ต้องเป็นพรรคที่ได้รับคะแนนและความไว้วางใจเป็นอันดับ 1 ขอให้คอยผลออกมาเป็นทางการก่อน แล้วเราจะไปคุยกัน ต้องให้เกียรติทางพรรคก้าวไกลเป็นคนติดต่อมา เป็นหน้าที่เขา  เพราะเขาได้เป็นอันดับ 1 ตามมารยาทแล้วต้องให้ก้าวไกลจัดก่อน เรายึดตามหลักประชาธิปไตยอยู่แล้ว เราต้องให้เกียรติพรรคที่ได้คะแนนสูงสุดอย่างเป็นทางการเป็นคนเริ่มต้น เป็นหน้าที่ของพรรคที่ได้เลือกอันดับ 1 ที่จะมีการฟอร์มรัฐบาล 

ส่วน เรื่อง ส.ว.เป็นประเด็นสำคัญอยู่แล้ว ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับคณิตศาสตร์ ขอดูตัวเลขทั้งหมดก่อน เพราะตัวเลขอย่างเป็นทางการยังไม่ออก คอยดูผลทางการก่อน เรายังมีลุ้นอีกนิดหน่อย

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีจุดยืนอย่างไรในกรณีที่รวมคะแนนในการจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ 376 เสียงเพื่อโหวตนายกรัฐมนตรี และอาจมีการรวมเสียงจากพรรคพลังประชารัฐมารวมอยู่ด้วย เพื่อให้ได้คะแนน เศรษฐาตอบว่า ยังไกลเกินไป คอยผลทางการออกมาก่อนจะดีกว่า เพราะถ้าพรรคก้าวไกลมาที่ 1  ต้องให้เขาเป็นคนพูดเรื่องนี้ไป แต่ถ้าเพื่อไทยมา จุดยืนเราชัดเจนอยู่แล้ว พูดไปหลายเวทีแล้ว เดี๋ยวค่อยว่ากันก็แล้วกัน

'ประยุทธ์' กลับบ้านขอบคุณทุกคะแนนเสียง 

ขณะที่ สำนักข่าวไทยรายงานด้วยว่า เวลา 22.04 น. ที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ให้สัมภาษณ์ด้วยสีหน้าเรียบเฉย ว่า “ขอขอบคุณประชาชนคนไทยทุกคน ทุกคะแนนเสียงที่ให้มากับ ส.ส.เขต และพรรค ผมยืนยันจะทำหน้าที่ต่อไปให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่อะไรก็ตาม และตัวผมเองนั้นผมพยายามทำเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ตลอดชีวิตของผม และอุดมการณ์ของพรรคก็เช่นเดียวกัน ขอให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย มีความเจริญก้าวหน้า ผมเคารพในวิถีประชาธิปไตย และการเลือกตั้ง ขอบคุณครับ”

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ พยายามเดินออกจากที่ทำการพรรค ท่ามกลางการรุมล้อมของช่างภาพและสื่อมวลชน ทั้งไทยและต่างประเทศ โดยมีการพยายามตั้งคำถามถึงจุดยืนของพรรคกรณีที่พรรคเพื่อไทยได้มาเป็นพรรคอันดับ 1 ได้จัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ และคำถามพรรคก้าวไกลได้คะแนนขนาดนี้จะนำไปสู่การปฏิวัติหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตอบคำถามดังกล่าว โดยพยายามแหวกวงล้อม ไปขึ้นรถเดินทางกลับทันที