กัณวีร์ เผย 'เพื่อไทย' ยังไม่ได้ติดต่อร่วมรัฐบาล อาจเพราะว่าพรรคฯ จุดยืนไม่เคยเปลี่ยน พร้อมยืนยัน พรรคฯ ยึดมั่นอุดมการณ์ ปชต.แบบตรงไปตรงมา ส่วนจะโหวตหนุนแคนดิเดตนายกฯ 'เพื่อไทย' หรือไม่ ขึ้นกับว่ามีพรรค พปชร. และ รทสช. ร่วมรัฐบาลหรือไม่ 

10 ส.ค. 2566 เพจเฟซบุ๊ก "The Reporters" รายงานวันนี้ (10 ส.ค.) กัณวีร์ สืบแสง เลขาธิการ พรรคเป็นธรรม กล่าวในการแถลงข่าวที่รัฐสภา แยกเกียกกาย ว่ายังยืนยันและยึดมั่นในอุดมการณ์ระบอบประชาธิปไตย และกฎระเบียบจารีตระบอบประชาธิปไตย อยากจะเห็นการเมืองของเราเป็นการเมืองที่ตรงไปตรงมา ไม่อยากจะให้การเมืองที่สร้างบรรทัดฐานระบอบการเมืองที่บิดเบี้ยว เพราะฉะนั้น หากเราจะต้องเปลี่ยนขั้ว และไปสนับสนุนพรรคการเมืองที่ได้เสียงข้างน้อยกว่าและไปจัดตั้งรัฐบาล มองว่าบรรทัดฐานตรงนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นในประเทศไทยอีกต่อไป ในอดีตหลายครั้งที่ใช้เสียงน้อยกว่า คนที่ได้ที่หนึ่งไม่เคยได้ตั้งรัฐบาลก็มี แต่ตอนนี้ประชาชนคนไทยทุกคนเห็นและควรจะยึดมั่นในอุดมการณ์ตรงนี้ต้องสร้างระบอบประชาธิปไตยอย่างตรงไปตรงมา

“จุดยืนของเรายังเหมือนเดิม ถ้าความชอบธรรม ถ้ามติมหาชน เสียงข้างมากให้กับพรรคใดพรรคหนึ่ง พรรคนั้นก็มีความชอบธรรมที่จะจัดตั้งรัฐบาล และเป็นผู้นำรัฐบาล เราก็เลยยืนยันจุดเดิมของเรา” กัณวีร์ กล่าว 

กัณวีร์ กล่าวต่อว่า ไม่มีการติดต่อพรรคเป็นธรรม อาจจะเป็นเพราะว่าจุดยืนของเราค่อนข้างจะมั่นคง และไม่เคยเปลี่ยนแปลงตั้งแต่วันแรกจนวันนี้ 

เลขาธิการ พรรคเป็นธรรม กล่าว ไม่อยากให้มองว่า การสลายขั้วแปลว่าเปลี่ยนขั้วใหม่ โดยคำนิยามจริงๆ แล้วไม่ใช่สลายขั้ว เป็นการจับกลุ่มก้อนของพรรคการเมือง และพรรคการเมืองทุกพรรคที่ประชาชนเลือกมา มีความชอบธรรม เพียงแต่ว่ากฎกติกาตรงนี้เราต้องยึดมั่นให้ได้ ถ้าเราผิด ทำให้มันบิดเบี้ยว ต่อไปอนาคตให้ทำยังไง ต่อไปประชาชนทั่วไปเขาจะรู้สึกยังไง เขาจะเลือกตั้งเพื่ออะไร เลือกตั้งฉันทามติของประชาชนเป็นส่วนมาก ไปเลือกพรรคนี้ เป็นพรรคเบอร์ 1 แต่พรรคเบอร์ 2 เบอร์ 3 เบอร์ 4 เป็นคนจัดตั้งรัฐบาลได้ ประชาชนต่อไปบอกว่าฉันไม่เลือกตั้ง แบบนี้ระบอบประชาธิปไตยมันจะไม่สามารถเจริญงอกงามได้

กัณวีร์ กล่าวว่า แนวทางยังยึดมั่นจุดเดิมว่าสูตรเขาเป็นยังไง แต่ยังไงก็ไม่ไปอยู่แล้ว เราเห็นแล้วว่า รูปแบบในการจัดตั้งรัฐบาลเป็นอย่างไร และยิ่งมีพรรค 2 ลุง อย่างพรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ เข้ามาร่วมด้วย แนวโน้มไปทางด้านนั้น เนื่องจากได้เสียงประมาณ 230 เสียง โอกาสจำเป็นจะต้องอีก 1 พรรค อีก 1 พรรคนี้ไม่ว่าจะเป็นพรรคใดพรรคหนึ่ง 1-2 พรรคนี้ ต้องมีเสียง ส.ว. เข้ามาสนับสนุนถึงจะได้เสียงถึง 376 เสียง เพราะฉะนั้น คงเป็นไปในทางนั้น เราไม่สามารถไปร่วมรัฐบาลได้

“ผมว่ายิ่งแย่ใหญ่เลยนะ ตอนที่เราหาเสียงเราหาเสียงในนามพรรค ตอนที่เราหาเสียงเราหาเสียงในนโยบายของพรรค แต่ตอนจัดตั้งรัฐบาล เราบอกว่าเราหาเสียงในฐานะปัจเจกของบุคคลในการพิจารณาตัดสินใจได้ แล้วระบอบประชาธิปไตยจะเดินต่อๆ ไปกันได้อย่างไร มันควรจะเป็นมติพรรค มันควรจะไปกันทั้งพรรค ผมเลยบอกว่า อยากจะเห็นการเมืองแบบตรงไปตรงมา ไม่อยากจะเห็นการเมืองที่พยายามบิดเบือนบิดเบี้ยว ทุกสิ่งทุกอย่าง ต่อไปประชาชนจะไม่เชื่อถือ ระบอบการเมืองในประเทศไทย และประชาชนจะไม่เชื่อถือนักการเมืองจริงๆ” 

“ขอเป็นคนเนื้อไม่หอมก็ได้ คือตอนนี้ถ้าจะไปร่วม ขอแสดงจุดยืนของเรา” กัณวีร์ กล่าว 

นอกจากนี้ กัณวีร์ กล่าวให้สัมภาษณ์กับสื่อหลังจากแถลงฯ ด้วยว่า ส่วนตัวยังอยากเห็น 8 พรรคร่วมรัฐบาลเดิม กลับมาจับมือกันใหม่อีกครั้ง ซึ่งตัวชี้วัดคือก่อนหน้านี้ พรรคเพื่อไทย เดินทางไปคุยกับพรรคก้าวไกล ที่อาคารไทยซัมมิต ใกล้ๆ กันซึ่งก็เป็นตัวชี้วัดอันหนึ่ง ที่ยังอยากมองเห็นว่า รัฐบาลที่ตั้งโดย 8 พรรคร่วมอันแรก MOU แม้ว่าจะฉีกไปแล้ว แต่ก็ปรินต์ออกมาใหม่ก็ได้ เป็นรัฐบาลของประชาชน

เลขาธิการ พรรคเป็นธรรม ระบุว่า ในเรื่องเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญเชื่อว่าทุกพรรคมีแนวคิดอย่างเดียวกัน ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญนี้ แก้ไขอย่างไร จะแก้ไขได้ด้วยกระบวนการการใด กลไกใดเข้ามาแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่การจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว โดยอ้างว่าเพื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเร็ว ผมว่าไม่ใช่ เพราะว่าจำเป็นต้องดูว่าอำนาจของประชาชนอยู่ตรงไหน เราจะคืนอำนาจให้ประชาชนได้อย่างไร เพราะถ้าเป็นรัฐบาลที่ไม่ใช่ของประชาชน ก็คงไม่สามารถคืนอำนาจให้กับประชาชนได้

ส่วนจะโหวตสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯ ให้พรรคเพื่อไทยไหม กัณวีร์ ย้ำว่าต้องดูว่าพรรครัฐบาลมีพรรคของ 2 ลุง หรือพรรครวมไทยสร้างชาติ หรือพรรคพลังประชารัฐ หรือไม่ ถ้ามีก็ไม่โหวต 

ในวันเดียวกัน พรรค เพื่อไทย ได้แถลงจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับ พรรคชาติไทยพัฒนา 10 เสียง และก่อนหน้านี้ เมื่อ 9 ส.ค. 2566 พรรคเพื่อไทย ได้แถลงร่วมกับ 5 พรรคการเมือง ได้แก่ พรรคประชาชาติ 9 เสียง, พรรคเสรีรวมไทย 1 เสียง, พรรคเพื่อไทรวมพลัง 2 เสียง, พรรคพลังสังคมใหม่ และพรรคท้องที่ไทย พรรคละ 1 เสียง รวม 14 เสียง ทำให้ตอนนี้ พรรคเพื่อไทย มีที่นั่ง ส.ส. สนับสนุนจัดตั้งรัฐบาล รวมทั้งสิ้น 238 เสียง