ศาลรัฐธรรมนูญตีตกคำร้องของ ‘ณฐพร’ ที่ขอให้วินิจฉัยว่า 3 พรรค ก้าวไกล ประชาชาติ และเป็นธรรมมีการกระทำที่เป็นการล้มล้างการปกครองหรือไม่ ศาลยกเหตุถ้าการแก้เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 1 หรือ 2 หากกระทำโดยชอบด้วยกฎหมายก็ไม่ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 49 และไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าทั้งสามพรรคมีการกระทำที่เป็นการล้มล้างการปกครอง
13 ก.ย.2566 แฟนเพจของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเผยแพร่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในคดีที่ณฐพร โตประยูรเป็นผู้ร้องให้ศาลวินิจฉัยว่าการกระทำของ 3 พรรคการเมืองได้แก่ พรรคก้าวไกล พรรคประชาชาติและพรรคเป็นธรรมที่มีความพยายามแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะหมวด 1 และ 2 และมีส่วนร่วมในกิจกรรมของบุคคลและกลุ่มบุคคลที่มีอุดมการณ์หรือแนวคิดในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐโดยสนับสนุนให้ดินแดนอันเป็นเขตอธิปไตยของราชอาณาจักรมีสิทธิปกครองตัวเองหรือแยกตัวเป็นเอกราชในลักษณะของการแบ่งแยกดินแดนเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่งหรือไม่
ศาลรัฐธรรมนูญมีผลคำวินิจฉัยต่อคำรอ้องของณฐพรนี้ว่า การดำเนินการของทั้ง 3 พรรคการเมืองเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญตามที่ระบุในคำร้องนั้น หากเป็นการกระทำโดยชอบด้วยกฎหมายแล้วเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพที่ไม่ต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 อีกทั้งข้อกล่าวอ้างเรื่องการแบ่งแยกดินแดนก็ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานอื่นใดที่แสดงให้เห็นว่าทั้ง 3 พรรคมีพฤติการณ์หรือการกระทำที่เกี่ยวข้องกับการล้มล้างการปกครองตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่ง ศาลจึงไม่รับคำร้องไว้วินิจฉัย
- 'ขบวนการ นศ.แห่งชาติ' แจงบัตรถามประชามติจำลองสิทธิกำหนดชะตาชีวิตตนเอง ไม่มีแนวคิดแบ่งแยกดินแดน
- เลขาฯ เป็นธรรม ยันพรรคไม่เกี่ยวข้องจำลองการลงประชามติ ระบุพร้อมใช้เอกสิทธิ์ ส.ส.ปกป้อง
- กอ.รมน. แจ้งความนักศึกษาปาตานี-พรรคการเมือง-นักการเมือง ปมจัดประชามติจำลองกำหนดอนาคตตนเอง
- ศปปส.ยื่นหนังสือถึง 'ประยุทธ์' เหตุ นศ.ม.อ.ปัตตานีชูประเด็นประชามติแยกดินแดน
- นักวิชาการมอง 3 มุม 'สันติภาพ-ความมั่นคง หรือ ปั่นกระแสการเมือง' ปมประชามติกำหนดชะตากรรมตนเองจำลอง
คดีที่ณฐพรมายืนคำร้องนี้เกี่ยวข้องกับกิจกรรมของ "ขบวนการนักศึกษาแห่งชาติ" (Pelajar Bangsa) เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2566 ตามที่ปรากฏเป็นข่าวกรณีการจัดทำประชามติที่เกี่ยวข้องกับเอกราชปาตานี ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ซึ่งนอกจากกิจกรรมดังกล่าวยังมีการเวทีปาฐกถาพิเศษ “สิทธิในการกำหนดอนาคตตนเอง (Right to Self Determination : RSD) กับสันติภาพปาตานี” โดย มารค ตามไท รองศาสตราจารย์และอาจารย์สาขาการสร้างสันติภาพ มหาวิทยาลัยพายัพ จ.เชียงใหม่ ด้วย
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)