Skip to main content
sharethis

ปานปรีย์ ลงพื้นที่ อ.แม่สอด พบปะภาคธุรกิจ ตรวจเยี่ยมจุดช่วยเหลือมนุษยธรรมชายแดน ย้ำเรื่องสแกมเมอร์-ค้ามนุษย์ ต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศแก้ปัญหา

9 ก.พ. 2567 ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และคณะ เดินทางลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ระหว่างวันที่ 8-9 ก.พ. เพื่อพบปะภาคธุรกิจและสำรวจพื้นที่ตั้งจุดช่วยเหลือมนุษยธรรมชายแดน 

โดยวานนี้ (8 ก.พ.) กระทรวงการต่างประเทศระบุว่า ปานปรีย์ ร่วมรับฟังการบรรยายสรุปและร่วมหารือกับหน่วยงานในพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เกี่ยวกับสถานการณ์ด้านความมั่นคง เศรษฐกิจและสาธารณสุขบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา  ที่ด่านศุลกากรแม่สอด บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2

นอกจากนี้ ยังมีการตรวจเยี่ยมพื้นที่สำหรับพิธีส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ประชาชนเมียนมา ระหว่างสภากาชาดไทยและสภากาชาดเมียนมา โดยข้อริเริ่มนี้ได้รับการสนับสนุนจากที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนว่าเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของอาเซียนในการผลักดันการดำเนินการตามฉันทามติ 5 ข้อ

สำหรับวันนี้ (9 ก.พ.) เฟซบุ๊กกระทรวงการต่างประเทศระบุว่า ปานปรีย์ เดินทางลงพื้นที่ตลาดริมเมย ใกล้สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 เพื่อรับฟังข้อคิดเห็นของผู้ประกอบการรายย่อยและสิ่งที่ต้องการรับการสนับสนุนจากภาครัฐเพื่อส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา

ที่มาภาพ: กระทรวงการต่างประเทศ

เฟซบุ๊กกระทรวงการต่างประเทศระบุด้วยว่า ในวันเดียวกัน รมว.ปานปรีย์ ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับสมาคมนักธุรกิจไทยในเมียนมา (TBAM) ที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เพื่อรับฟังข้อคิดเห็นต่อแนวทางการส่งเสริมการค้าการลงทุนไทย-เมียนมา โดยเฉพาะการค้าชายแดน

โดย ปานปรีย์ ชื่นชมบทบาทของ TBAM ในการสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของไทยในเมียนมาและเน้นย้ำถึงความพร้อมของกระทรวงการต่างประเทศในการให้การสนับสนุนนักลงทุนไทยในเมียนมาอย่างเต็มที่

ที่มาภาพ: กระทรวงการต่างประเทศ

ด้านสื่อเดอะรีพอร์ตเตอร์รายงานว่า ปานปรีย์ แสดงความเป็นห่วงถึงปัญหาอาชญากรรมในแนวชายแดน ทั้งการลักลอบค้ายาเสพติด และการหลอกลวงของมิจฉาชีพออนไลน์ที่ฝังตัวอยู่ตามแนวชายแดน 

โดยระบุว่า​ ไทยให้ความสำคัญเรื่องสแกมเมอร์​ โดยต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศ​ ซึ่งไม่ใช่เป็นเรื่องที่ประเทศไทยจะทำได้เพียงประเทศเดียว​ เวลานี้ไทยก็พยายามทำอยู่ ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ว่าราชการจังหวัด และฝ่ายทหาร ทุกฝ่ายทราบถึงปัญหานี้และพยายามอย่างเต็มที่ที่จะกำจัด ไม่ใช่เฉพาะให้หมดไป แต่ต้องกำจัดให้พ้นจากแผ่นดินไทยไป ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทยประเทศเดียว เพราะเทคโนโลยีข้ามประเทศแล้ว ยอมรับว่าการควบคุมได้ยากจึงต้องแก้ไขกันระหว่างประเทศ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net