Skip to main content
sharethis

'ก้าวไกล' แจงปม 'พิธา' ไม่ได้เป็นนายประกันให้ 'ตะวัน' แล้ว เหตุเจ้าตัวยื่นคำร้องขอถอนประกันตัวเองต้นปี 2566 'วิโรจน์' โพสต์เตือนสติ บีบแตร-รบกวนขบวนเสด็จ เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง 'พิธา' แจงปมเป็นนายประกันให้ต้องแยกเป็นกรณี วอนสังคมตั้งสติหาทางออกร่วมกัน ด้าน 'ชัยธวัช' ไม่อยากเห็นความรุนแรง หนุนทุกคนเปิดกว้างใจเย็น

 

 

10 ก.พ. 2567 พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุว่าจากกรณีที่มีการสอบถามถึงสถานะของพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะนายประกันของ ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ "ตะวัน" นักเคลื่อนไหวทางการเมืองกลุ่ม "ทะลุวัง" นั้น

พรรคก้าวไกลขอชี้แจงว่าแม้ปัจจุบัน ในแง่กฎหมายพิธาไม่ได้เป็นนายประกันของทานตะวัน เนื่องจากทานตะวันยื่นคำร้องขอถอนประกันตัวเองเมื่อต้นปี 2566 แต่พรรคก้าวไกลและพิธา ในฐานะนักการเมืองและในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่มีความห่วงใยบ้านเมืองและอนาคตของคนรุ่นใหม่ รู้สึกไม่สบายใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

พรรคก้าวไกลทราบว่าการแสดงออกของทานตะวัน อาจสร้างความไม่สบายใจต่อประชาชนจำนวนไม่น้อย รวมถึงทำให้เกิดข้อถกเถียงเกี่ยวกับขอบเขตของการแสดงออกและเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวิธีการต่าง ๆ ในการเพิ่มแนวร่วมในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง

'วิโรจน์' โพสต์เตือนสติ บีบแตร-รบกวนขบวนเสด็จ เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง

ด้านวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัวแสดงความคิดเห็นต่อกรณีดังกล่าว ระบุว่า

[ ความคิดเห็นของผมต่อกรณีการบีบแตรใส่ขบวนเสด็จ ]

กรณี การบีบแตรใส่ และการกระทำในลักษณะรบกวน #ขบวนเสด็จ ผมขออนุญาตให้ความเห็นอย่างตรงไปตรงมา ด้วยความปรารถนาดี ดังนี้ ยังไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงว่าการเดินทางดังกล่าวเป็นขบวนเสด็จ หรือไม่ก็ได้ แต่โดยปกติแล้วทุกประเทศย่อมต้องมีมาตรการในการอารักขาบุคคลสำคัญระหว่างการเดินทางทั้งสิ้น บุคคลสำคัญ อาจจะเป็นผู้แทนจากต่างประเทศ หรือพระราชอาคันตุกะ ก็ได้ ซึ่งรัฐจะปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ระหว่างเดินทางมิได้ จำเป็นต้องมีมาตรการมาตรฐานในการอารักขา

ดังนั้น การที่มีบุคคลใดเข้าไปรบกวน กระบวนการในการอารักขาบุคคลสำคัญ ที่ดำเนินการตามมาตรฐานของรัฐ ย่อมเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ผมเข้าใจดีว่า ความคิดเห็นของผมในครั้งนี้ บางท่านก็อาจจะไม่เห็นด้วย ซึ่งก็สามารถวิพากษ์วิจารณ์ผมได้ เช่นเดียวกัน แต่ในฐานะที่ผมมีความปรารถนาดีจริงๆ ผมจึงตระหนักอยู่เสมอว่า หากจำเป็นต้องสะท้อนถึงสิ่งที่ผมคิดว่ามันไม่ถูกต้อง ผมก็ต้องกล้าที่จะสะท้อนความคิดเห็นนั้น อย่างตรงไปตรงมา

แม้ว่าจะทราบดีว่าอาจจะเป็นความเห็นที่บางท่านไม่อยากฟังก็ตามผมเชื่อว่า หลายท่านจะรับรู้ความปรารถนาดีของผมได้ ความปรารถนาดี ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับทุกเรื่อง ในบางเรื่องที่เห็นต่าง ก็ควรจะต้องบอกกันตรงๆ โดยไม่อ้อมค้อม ถึงจะเป็นความปรารถนาดีที่แท้จริง

'พิธา' แจงปมเป็นนายประกันให้ต้องแยกเป็นกรณี วอนสังคมตั้งสติหาทางออกร่วมกัน

เว็บไซต์ Spring News รายงานว่าพิธา ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์กรณีที่เป็นนายประกันให้ทานตะวัน ว่าในฐานะที่เป็นนักการเมืองและคนไทยคนหนึ่ง ก็กังวลถึงสถานการณ์บ้านเมือง และอนาคตของคนรุ่นใหม่ด้วย จึงอยากเชิญชวนทุกคนตั้งสติเข้าใจว่ามีหลายฝ่ายไม่สบายใจ กังวลใจ และต้องการความเข้าใจ ตนก็อยากให้ทุกฝ่ายคลี่คลายสถานการณ์ไม่ให้แตกร้าวไปมากกว่านี้

ทั้งนี้มองว่าการผลักเยาวชนคนรุ่นใหม่ออกไป ไม่น่าจะเป็นผลดีต่อภาพรวม ตนอยากจะให้ร่วมมือกันหาทางออก พร้อมยํ้าว่าไม่อยากให้เกิดความรุนแรงไปมากกว่านี้

ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคก้าวไกล โดยเฉพาะพิธาสนับสนุนพฤติกรรมของเยาวชนกรณีขบวนเสด็จหรือไม่ พิธากล่าวว่าคงไม่ใช่สนับสนุน ส่วนเรื่องที่เกี่ยวกับนายประกัน เป็นเรื่องสิทธิการประกันตัวต้องแยกเป็นกรณี ควรใช้ความละมุนละม่อม หาทางออกร่วมกัน เพื่อทำให้สถานการณ์คลี่คลาย

เมื่อถามย้ำว่า จุดยืนของพิธา ต่อการกระทำของทานตะวัน เป็นอย่างไร พิธากล่าวว่า "กังวลใจ แต่เข้าใจ"

เมื่อถามว่าวันนี้กลุ่มเยาวชนมีการทำกิจกรรม และเกิดการปะทะกันเกิดขึ้น พิธากล่าวว่ารู้สึกกังวล ทุกฝ่ายควรตั้งสติและทุกภาคส่วนของสังคมต้องช่วยกัน หาทางออกจากความขัดแย้งในเรื่องนี้

เมื่อถามว่า จะมีการยื่นประกันตัวกลุ่มเยาวชนคดี มาตรา 112 หรือไม่ เพราะในพรรคก้าวไกล ก็มีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย พิธากล่าวว่าเรื่องนี้ต้องแยก สิทธิในการประกันตัว ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะถูกสันนิษฐานว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ไว้ก่อน ส่วนการอารักขาบุคคลสำคัญของประเทศ ก็เป็นอีกเรื่อง แต่การแสดงออกก็เป็นอีกเรื่องเช่นกัน อย่าไปผูกรวม จะทำให้การแก้สถานการณ์ไม่ได้ และแตกแยก ไม่เป็นผลดีต่อสังคมไทย

ด้านชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกลกล่าวถึงการตั้งคณะกรรมการศึกษาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ว่าเป็นประตูอีกบานที่จะคลี่คลายความเครียดและความขัดแย้งทางการเมือง เพื่อเปิดพื้นที่ให้ฝ่ายที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกันได้มีพื้นที่ปลอดภัยในการพูดคุยกัน หาจุดร่วมให้ได้โดยใช้กระบวนการทางประชาธิปไตย หวังว่าในคณะกรรมาธิการวิสามัญฯมีการพิจารณาอย่างรอบด้านทั้งข้อดีและข้อเสีย ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหากระบวนการในการนิรโทษกรรม 

ส่วนกรณีของทานตะวัน ที่ยังเป็นประเด็นอยู่ขณะนี้ ชัยธวัชย้ำว่าเป็นสิ่งที่ไม่ปรารถนามากที่สุดคือการปะทะกันอย่างรุนแรงไม่ว่าจะเป็นการไล่ล่า การล่าแม่มด โดยหากให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสุดขั้วขึ้นเรื่อย ๆ จะต้องตั้งสติให้ดี ใช้กระบวนการทางประชาธิปไตยและสติในการที่จะลดช่องว่างทางความคิด ความเข้าใจ โดยไม่ต้องใช้ความรุนแรง ซึ่งในกรณีนี้ก็เข้าใจในความคับข้องใจ แต่ก็ต้องช่วยกันดูว่าการสื่อสาร การแสดงความคิดให้สังคมได้มีความเข้าใจ และพร้อมที่จะพิจารณาสื่อสารประเด็นที่ดีที่สุดว่าควรจะเป็นอย่างไร

ชัยธวัช ยังกล่าวถึงกรณีที่วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับกรณีที่ทานตะวันทำคอนเทนต์เกี่ยวกับขบวนเสด็จว่า ยอมรับว่าในเรื่องนี้มีความคิดเห็นหลากหลาย เรื่องนี้ก็เป็นตัวอย่าง แม้ว่าจะมีคนหลายส่วนพร้อมที่จะเข้าใจประเด็นนี้อยากจะสื่อสาร แต่ก็อาจจะมีคนไม่เห็นด้วยกับวิธีการ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นที่จะเป็นเหตุผลที่จะผลักให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสุดขั้วมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ยอมรับ เพิ่มช่องว่างระหว่างกัน ยิ่งปะทะกันอย่างรุนแรงเป็นเหตุที่ไม่ควรเกิดขึ้น  และเห็นว่าเป็นเวลาที่จะต้องใช้สติมากขึ้น โดยไม่ใช้อารมณ์ ซึ่งการนิรโทษกรรมก็เป็นกระดุมเม็ดแรก และหวังว่าจะระบายความกดดัน พร้อมกันนี้ยังเห็นว่าจะต้องทำให้ทุกคนเย็นลงเพื่อจะได้นั่งพูดคุยกัน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net