Skip to main content
sharethis

“เพื่อไทย-ก้าวไกล-เป็นธรรม” ออกมารับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชน ปิดแคมเปญคนร่วมลงชื่อ 35,905 รายชื่อ “ขัตติยา” ย้ำที่มี กมธ.หวังให้เกิดการพูดคุยไม่อยากให้การนิรโทษกรรมครั้งนี้ไม่เห็นแสงที่ปลายทาง “ชัยธวัช” ย้ำพรรคพร้อมหนุนร่างประชาชน

14 ก.พ.2567 14 ก.พ.2567 ที่ลานประชาชน หน้ารัฐสภา เกียกกาย เครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน จัดงาน “ส่งรักถึงสภา นิรโทษกรรมประชาชน” มีตัวแทนจากพรรคการเมืองมาร่วมรับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชนที่สามารถรวบรวมรายชื่อเสนอร่างเข้าสภาได้ 35,905 รายชื่อ โดยพรรคที่มาร่วมวันนี้มีพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล และพรรคเป็นธรรม

พูนสุข พูนสุขเจริญ จากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวในฐานะตัวแทนเครือข่ายฯ กล่าวว่า 14 วันของกิจกรรม มี 107 จุดลงชื่อใน 31 จังหวัด เครือข่ายสามารถรวมรายชื่อได้ 35,905 รายชื่อ จำนวนดังกล่าวสะท้อนถึงคนที่รู้สึกเดือดร้อน รู้สึกว่าคดีทางการเมืองไม่ควรเกิดขึ้นและดำรงอยู่ในสังคมไทย แต่ไม่ว่าจะมีจำนวนรายชื่อเท่าไหร่แต่ที่จำนวนที่สำคัญที่สุดคือ3 คนที่ต้องอดอาหารเพื่อเรียกร้องต่อกระบวนการยุติธรรม  จำนวน 18 วันคือวันที่บุ้ง เนติพรอดอาหาร จำนวน 40 คือผู้ต้องขังทางการเมือง จำนวน 263 คือจำนวนคนที่ถูกดำเนินคดีด้วยมาตรา 112 ตั้งแต่ 2563

พูนสุขกล่าวต่อว่า 1947 คือจำนวนคนที่ถูกดำเนินคดีมาตลอดตั้งแต่ 2563 และ 5027 คือจำนวนคนที่ถูกดำเนินคดีมาตั้งแต่ 2549 แต่จำนวนเหล่านี้ยังไม่ได้รวมผู้บาดเจ็บหลักพัน ผู้เสียชีวิตหลักร้อยระหว่างทางของความขัดแย้งทางการเมือง ความขัดแย้งที่ดำเนินมายาวนานไม่จบลงโดยง่ายจนถึงวันนี้ก็ยังเห็นความขัดแย้ง แต่เราก็อยากหยุดความขัดแย้ง ปลดพันธนาการคืนความยุติธรรมและคืนความปกติให้แก่ประชาชนและกลับมาพูดคุยกันอย่างมีวุฒิภาวะ ไม่ใช้กฎหมายปิดปากประชาชน ไม่ใช้กระบวนการยุติธรรมเพื่อจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน

ตัวแทนเครือข่ายกล่าวต่อว่า หวังว่าพรรคการเมืองที่มีที่มาโดยชอบธรรมจากประชาชน จะยอมรับว่าสังคมนี้มีปัญหาอะไร แล้วแก้ไขอย่างความขัดแย้งอย่างระมัดระวัง ไม่เลือกปฏิบัติไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เหตุของความขัดแย้งในปัจจุบันที่อาจรุนแรงมากขึ้นในอนาคตควรได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงที

พูนสุขกล่าวทิ้งท้ายว่า ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชนจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกหนึ่งในการคลี่คลายความขัดแย้ง พวกเราเครือข่ายนิรโทษกรรมพร้อมยืนเคียงข้างพรรคการเมืองที่ยืนเคียงข้างประชาชน

ขัตติยา สวัสดิผล ตัวแทนจากพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า ในที่สุดสังคมไทยก้มีการพูดเรื่องนิรโทษกรรมอีกครั้งหนึ่ง จากที่เคยมีการพูดกันไปก่อนหน้านี้กว่าสิบปีที่แล้วและการพูดครัง้นั้นเป้นเงื่อนไขให้เกิดการรัญประหารในเวลาต่อมา ดังนั้นสิบปีผ่านไปเมื่อมีการพูดอีกครั้งและมีการเสนอร่างกฎหมายจากหลายพรรคการเมือง แล้ววันนี้ยังผู้ร่วมเสนอร่างกฎหมายอีก 35,905 รายชื่อ ซึ่งจะเห็นถึงความแตกต่างของร่างกฎหมายที่แต่ละฝ่ายเสนอเข้ามา จึงเป็นเหตุที่พรรคเพื่อไทยเสนอให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อพิจารณาการออกกฎหมายนิรโทษกรรม

ตัวแทนพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า จุดหมายปลายทางของการตั้ง กมธ.ชุดนี้ขึ้นมาคือการหาแนวทางที่เป็นสารตั้งต้นให้หลายพรรคการเมืองและหลายฝ่ายได้ไปร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมขึ้นมาเพื่อไม่ให้นำไปสู่ความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นอีกในอนาคต และ กมธ.ชุดนี้ได้มีการประชุมนัดแรกไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว และจะมีการประชุมอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ โดยตั้งใจที่จะพูดคุยกับทุกฝ่ายทั้งฝ่ายที่อยากให้มีการนิรโทษกรรมเกิดขึ้นรวมถึงฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย และยังรวมไปถึงการจะนิรโทษกรรมคดีใดบ้าง การพูดคุยรับฟังความเห็นทุกฝ่าย เพราะไม่อยากให้การนิรโทษกรรมครั้งนี้ไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายทางและเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งในอนาคต

ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่าถึงร่างกฎหมายเท่าที่มีอยู่ตอนนี้อาจจะมีจุดที่ยังเห็นไม่ตรงกันอยู่ทั้งเนื้อหาและกรบวนการวิธีการ ก็หวังว่า กมธ.ที่ตั้งขึ้นมาที่สภาตั้งมาจะเป็นเวทีสำคัญในการรวบรวมความเห็นมาศึกษาเปรียบเทียบในการตัดสินใจของ สส.ได้

อย่างไรก็ตาม ตนในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกลก็สนับสนุนการนิรโทษกรรมอยู่แล้วก็ใช้หลายโอกาสในการผลักดันเรื่องนี้ แต่ก็ยืนยันว่าการนิรโทษกรรมไม่ได้หมายความว่าต้องการสร้างบรรทัดฐานที่ผิด เพราะหลายคนอาจไม่เห็นด้วยแล้วมองว่าถ้าสนับสนุนการนิรโทษกรรมเท่ากับสนับสนุนคนให้ทำผิดไปเรื่อยๆ

“ผมยอมรับว่ามีคนกระทำผิดและคนที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิด แต่ผมคิดว่าถ้าจะหาทางออกให้กับบ้านเมือง เราไม่สามารถมองคดีความเหล่านี้ซึ่งมีความเกี่ยวพันกับความขัดแย้งทางการเมืองมีเหตุจูงใจทางการเมืองอย่างแยกไม่ออก เราไม่สามารถมองคดีเหล่านี้เป็นอาชญากรรมปกติได้ มันต้องมองว่าเป็นปัญหาทางการเมืองเป็นความขัดแย้งทางความคิด” ชัยธวัชกล่าวยืนยันว่าเขาสนับสนุนการนิรโทษกรรมในฐานะที่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการคลี่คลายความขัดแย้งที่สืบเนื่องมา 2 ทศวรรษ

ชัยธวัชกล่าวอีกว่า วันแห่งความรักคือการเมืองที่อยู่บนฐานของการเข้าอกเข้าใจกันและความปรารถนาดีต่อส่วนรวมด้วยกันแม้ว่าเราจะไม่ได้เห็นตรงกันทุกเรื่อง และอยากให้ทุกฝ่ายสร้างความเปลี่ยนแปลงด้วยการสร้างวันแห่งความรัก และถ้าร่างกฎหมายนิรโทษกรรมเข้าสภาก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุนและพิจารณารวมกับอีกหลายร่าง แล้วก็หวังว่าเมื่อ กมธ.มีรายงานออกมาแล้วจะเห็นร่างของฝั่งรัฐบาลที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนเสนอเข้ามาในสภาเพิ่มเติม

กัณวีร์ สืบแสง จากพรรคเป็นธรรมกล่าวว่าแม้พรรคจะไม่ได้อยู่ใน กมธ. แต่ก็จะขอฝากไว้การนิรโทษกรรมถือเป็นการเมืองในช่วงที่จะให้อภัยกันและเป็นการเปลี่ยนผ่านของกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องการ ก็ขอฝากไปถึง กมธ. ว่าจะต้องตั้งเป้าหมายปลายทางว่าการนิรโทษกรรมมีใครเป็นเป้าหมายที่จะนิรโทษกรรม ใครที่ทำผิดต้องรับผิดแต่ใครที่ไม่ผิดแต่ดดนบบังคับใช้กฎหมายไม่ถูกต้อง ต้องได้รับการปล่อยตัวออกมา

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net