Skip to main content
sharethis

เครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชนจัดกิจกรรม “ส่งรักถึงสภา นิรโทษกรรมประชาชน” ปิดแคมเปญล่ารายชื่อเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชน ล่าสุดมีคนลงชื่อแล้ว 32,436 คน 'ปดิพัทธ์' ให้กำลังใจประชาชนที่ร่วมลงชื่อ และขอให้ทุกฝ่ายสร้างบทสนทนาที่สันติ ไม่ใช่ยุคที่ถือใบอนุญาตฆ่ากัน

14 ก.พ.2567 ที่ลานประชาชน หน้ารัฐสภา เกียกกาย เครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน จัดงาน “ส่งรักถึงสภา นิรโทษกรรมประชาชน” ซึ่งเป็นกิจกรรมสุดท้ายของการรณรงค์ล่ารายชื่อเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชน  ที่ล่าสุดมีผู้ร่วมลงชื่อแล้ว 32,436 คน

ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ขึ้นกล่าวเปิดกิจกรรม ว่าพลังในการเสนอร่างกฎหมายของประชาชนที่ผ่านมาเหมือนเป็นการทำเป็นเชิงสัญลักษณ์หรือยังสร้างความเปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่ก็อยากบอกว่ากฎหมายภาคประชาชนได้รับการเสนอประกบกับร่างกฎหมายของ สส.ในวาระที่หนึ่ง ก็จะมีตัวแทนของภาคประชาชนเข้าไปร่วมประชุมในวาระที่สอง ซึ่งกระบวนการนี้ก็กำลังเกิดขึ้นอยู่ในการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมฯ ในขณะนี้

ปดิพัทธ์ สันติภาดา

รองประธานสภาฯ กล่าวต่อว่า เมื่อมีประชาชนเข้าไปด้วยก็มีตัวแทนประชาชนเข้าไปร่วมถกเถียงในฐานะผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตัวจริง จึงไม่ใช่เพียงแค่ สส.ปิดห้องคุยกันแล้วมานั่งฟังความคิดเห็นของประชาชนไปเป็นไม้ประดับแต่เสียงของประชาชนจะได้ถูกนำไปถกเถียงกันในกรรมาธิการวิสามัญ ตนจึงอยากให้กำลังใจทุกคนที่เสนอร่างกฎหมายเข้ามาแม้ว่าร่างอาจจะถูกดองบ้างหรือถูกตีความว่าเป็นร่างกฎหมายการเงิน หรือว่าไม่ผ่านสภาบ้าง แต่เมื่อก็กฎหมายจากภาคประชาชนได้เสนอเข้าไปประชาชนก็จะได้ร่วมกันใช้อำนาจอธิปไตยในการตรากฎหมายด้วยตัวเอง จึงขอขอบคุณทุกคนที่ร่วมกันลงแรงล่ารายชื่อนี้

ปดิพัทธ์ส่วนเรื่องกรรมาธิการนิรโทษกรรมที่สภาตั้งขึ้นมาแล้วก็คงจะมีภาคส่วนต่างๆ เข้าไปแสดงความเห็นแล้วก็ร่างของภาคประชาชนก็คงจะถูกนำไปถกเถียงในกรรมาธิการเหมือนกัน

ทั้งนี้รองประธานสภาฯ ได้กล่าวถึงสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนที่ยังคงไม่ต่างจากยุครัฐบาลประยุทธ์ และยังได้กล่าวถึงการถกเถียงกันในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ด้วยว่ามีการถกเถียงกันอย่างมาก มีการใช้คำพูดอย่าง “หนักแผ่นดิน” “ล้มล้าง”

“เราไม่เรียนรู้อะไรเลยจากผังล้มเจ้าที่เป็นใบอนุญาตให้ยิงคนตายจำนวนมาก” ปดิพัทธ์กล่าวและเขาได้แสดงความรู้สึกว่าเขารู้สึกเครียดกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ และขอให้นักเคลื่อนไหวได้ช่วยกันสร้างบทสนทนาที่จะสร้างสันติภาพให้ได้ไม่ว่าจะมีความขัดแย้งกันอย่างไรเพราะไม่รู้ว่ากลุ่มผู้มีอำนาจกำลังฝันเห็นถึงเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ กันอยู่หรือไม่

นอจกากนั้นรองประธานสภาฯ ยังได้กล่าวฝากถึงทุกฝ่ายด้วยว่า ไม่ได้อยู่ในยุคที่ถือใบอนุญาตฆ่ากลางเมืองได้แล้ว เพราะฉะนั้นก็อยากให้ช่วยกันใช้พื้นที่ของลานประชาชนเรียกร้องสิ่งที่ต้องการไม่ว่าจะต้องการสิ่งใดด้วย ฝ่ายอนุรักษ์นิยมก็ขอมาใช้ได้เพื่อที่จะได้รับฟังเสียงกันมากขึ้น และทุกกลุ่มก็สามารถมาใช้ได้ไม่ว่าจะมีความคิดเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างไร

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net