Skip to main content
sharethis

เครือข่ายรักษ์พะโต๊ะ เครือข่ายรักษ์ระนอง และภาคีประชาชนภาคใต้ คัดค้านโครงการแลนด์บริดจ์ ชี้ใช้ทรัพยากรมากเกินจำเป็นและเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน

17 พ.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า เครือข่ายรักษ์พะโต๊ะ เครือข่ายรักษ์ระนอง และภาคีประชาชนภาคใต้ ออกคำประกาศเรียกร้องให้รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ยุติโครงการแลนด์บริดจ์ เพื่อรักษาที่ดินและฐานทรัพยากรไว้ให้ลูกหลาน โดยมีรายละเอียดดังนี้

คำประกาศ เครือข่ายรักษ์พะโต๊ะ เครือข่ายรักษ์ระนอง และภาคีประชาชนภาคใต้

เรื่อง ต้องหยุดโครงการแลนด์บริดจ์ เพื่อรักษาที่ดินและฐานทรัพยากรไว้ให้ลูกหลาน

“แลนด์บริดจ์” เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องประกอบด้วยโครงการย่อยอีกหลายโครงการ อย่างเช่น โครงการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกขนาดใหญ่ทั้งสองฝั่ง โครงการรถไฟรางคู่ โครงการมอเตอร์เวย์ โครงการนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ และยังมีโครงการด้านสาธารณูปโภคที่เกี่ยวเนื่องกัน เช่น โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้า โครงการสัมปทานแหล่งหิน ที่ต้องระเบิดภูเขาหลายลูก โครงการสร้างเขื่อน และเชื่อว่าจะมีโครงการอื่นๆตามมาอีกหลายโครงการ

การนำเสนอข้อมูลของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ทราบได้เบื้องต้นว่าภายใต้อภิมหาโปรเจคขนาดใหญ่นี้ จะต้องใช้ที่ดินในพื้นที่ทั้ง 2 จังหวัดหลายหมื่นไร่ ดังเช่น พื้นที่สร้างท่าเรือน้ำลึกอ่าวอ่างฝั่งระนองต้องใช้เนื้อที่ชายฝั่งและทะเลรวมกันเกือบ 7,000 ไร่ ท่าเรือแหลมริ่วฝั่งชุมพร ต้องใช้พื้นที่ชายฝั่งและทะเลรวมกัน 5,800 ไร่

เวนคืนและยึดคืนที่ดินสร้างรถไฟและมอเตอร์เวย์ จากท่าเรือทั้งสองฝั่งรวมระยะทางกว่า 90 กิโลเมตร รวมแล้วนับหมื่นไร่ ยังไม่นับรวมพื้นที่ก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมและโรงงานซ่อมบำรุงรถไฟทั้ง 2 จังหวัด ซึ่งยังไม่ได้ระบุพิกัดที่แน่ชัดอีกนับหมื่นไร่

และยังไม่นับร่วมพื้นที่การสร้างเขื่อนเพื่อจัดหาแหล่งน้ำจำนวนมากเพื่อรองรับกิจกรรมหรือโครงการอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ และทั้งหมดนี้คือการสูญเสียที่ดิน ทะเลชายฝั่ง ที่ทำกิน ที่อยู่อาศัย และแหล่งท่องเที่ยวครั้งใหญ่ของพี่น้องชาวจังหวัดระนอง,ชุมพร และของคนภาคใต้ ภายใต้โครงการแลนด์บริดจ์

รัฐบาลเศรษฐาประกาศชัดในคราวที่เดินทางไปขายโครงการนี้ให้กับนักธุรกิจและผู้นำประเทศต่างๆว่า ต้องการให้ประเทศเหล่านั้นเข้ามาลงทุนในโครงการ 100% ที่ต้องใช้เม็ดเงินทั้งหมด 1 ล้านล้านบาท (หนึ่งล้านล้านบาท) ซึ่งประเทศที่มาลงทุนจะได้สิทธิสภาพนอกอาณาเขตเหนือรัฐบาลไทย (สัมปทานพื้นที่โครงการทั้งหมด) ในช่วงเวลาดำเนินโครงการเฟสแรกจำนวน 50 ปี และสามารถต่อสัญญาได้หลังจากนั้นอีก 49 ปี นั่นหมายความว่า ที่ดิน และฐานทรัพยากรที่อยู่ในบริเวณโครงการทั้งหมดจะต้องตกเป็นของต่างชาติรวมทั้งสิ้น 99 ปี ซึ่งการดำเนินการในเรื่องนี้ รัฐบาลโดยพรรคภูมิใจไทย ได้ยื่นร่างพระราชบัญญัติเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ หรือกฎหมาย SEC ไว้กับรัฐสภาแล้วจำนวน 2 ฉบับ ที่จะช่วยเอื้อประโยชน์ให้มีการยกกรรมสิทธิ์ในที่ดินและฐานทรัพยากรเหล่านั้นให้กับประเทศที่มาลงทุนได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ข้อมูลเหล่านี้คือข้อเท็จจริงอันมีอยู่ในสารบบต่างๆ ที่สามารถค้นหาได้ไม่ยาก ทั้งนี้รัฐบาลพยายามอ้างว่าโครงการนี้จะนำพาความเจริญมาสู่ประชาชนภาคใต้และประเทศไทยอย่างมหาศาล ทั้งที่จริงแล้วคือการสมรู้ร่วมคิดของกลุ่มทุนและกลุ่มการเมือง ที่กำลังสร้างความหายนะให้กับพวกเราอย่างไม่เคยปรากฎมาก่อน แต่พวกเขาล่อลวงพวกเราด้วยผลประโยชน์เฉพาะหน้าในเรื่องราคาที่ดิน เพื่อให้หวังให้พวกเราขายที่ดินเหล่านั้นให้กับนายทุนอย่างไม่ลังเล ซึ่งในที่สุดแล้วผู้ที่ได้ประโยชน์แท้จริงทั้งหมดไม่ใช่พวกเรา แต่คือพวกเขาทั้งหลายและกลุ่มทุนต่างชาติ ที่สุมหัวกันขับเคลื่อนโครงการนี้อย่างเป็นระบบ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วพวกเราทั้งหลายต้องเป็นผู้ต้องเสียสละให้กับความเจริญในความหมายของพวกเขา

“หนทางเดียวที่จะรักษาทุกอย่างไว้ได้คือ ต้องไม่เชื่อคำหลอกลวงเหล่านั้นและตัดไฟเสียตั้งแต่ต้นลม ด้วยการหยุดโครงการแลนด์บริดจ์ระนอง - ชุมพร เพื่อรักษาที่ดินและฐานทรัพยากรไว้ให้ลูกหลานพวกเราดีกว่า”

ด้วยความเชื่อมั่นพลังของประชาชน

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net