Skip to main content
sharethis

เปิดพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ปิยะมิตร ของพรรคคอมมิวนิสต์มาลายา อ.เบตง จ.ยะลา บอกเล่าเรื่องราวของพรรคคอมมิวนิสต์มาลายา และการจัดแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์และเครื่องใช้ต่าง ๆ ในอดีต

สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ รายงานเมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2567 ว่าที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ปิยะมิตร (หมู่บ้านปิยะมิตร 2) หมูที่ 2 ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตงจ.ยะลา พลโท ศานติ  ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธานเปิดพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ปิยะมิตร โดยมีนายอำพลพงศ์สุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วย พลเอก มณี จันทร์ทิพย์ ที่ปรึกษากองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า  นายอมร ชุมช่วย นายอำเภอเบตง นายวิรัต แซ่ตัน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตาเนาะแมเราะ นายวิเชียร ใบศิริกุล ที่ปรึกษาพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ปิยะมิตรและประธาน กิตติมศักดิ์ถาวรสมาคมปิยะมิตรไทย พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ  ประชาชนในพื้นที่ นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย เข้าร่วม

โดยภายในงาน จัดให้มีการแสดงจาก PERSATUAN SOSIAL DAN PERSAHABATAN PELANGI MALAYSIA และการแสดงจากสมาคมปิยะมิตรไทยและการจัดแสดงภาพถ่ายในอดีต บอกเล่าเรื่องราวของพรรคคอมมิวนิสต์มาลายาทางประวัติศาสตร์และเรื่องราวของยุคพรรคคอมมิวนิสต์มาลายาในอดีต และการจัดแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์และเครื่องใช้ต่าง ๆ ที่ถูกใช้ในค่ายที่พักคอมมิวนิสต์มาลายาในอดีต

นายโตหอง แซ่หลี่ ประธานฯ คณะกรรมการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ปิยะมิตร กล่าวว่า พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ปิยะมิตร ตั้งขึ้นมาเพื่อรวบรวมข้อมูล สิ่งของ ของอดีตที่เกี่ยวข้องกับพรรคคอมมิวนิสต์มาลายา และความเจริญก้าวหน้าของหมู่บ้านปิยะมิตร 2 ที่ในอดีตกว่า 100 ปีเพื่อให้คนรุ่นมาเรียนรู้และเป็นกระตุ้นเศรษฐกิจของอำเภอเบตงและในอนาคตพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ปิยะมิตรจะเปิดเป็นมูลนิธิ โดยจะเก็บค่าเข้าชม  คนไทย 60 บาทชาวต่างขาติ 90 บาทเพื่อดูแลสวัสดิการของสมาชิกชมรมปิยะมิตรไทยและสวัสดิการของสังคม โดยวันนี้เปิดชั้นล่างยังมีชั้น 2 ที่มีการจัดแสดงข้อมูลและสิ่งของอดีตพรรคคอมมิวนิสต์มาลายาตั้งแต่ปี 1930 ในช่วงเวลาสู้รบกับทหารญี่ปุ่นและอังกฤษและการสู้รบในประเทศมาลายา เพื่อประชาธิปไตยเพื่อให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2568

ด้านพลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ปิยะมิตร ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าสำคัญของพื้นที่จังหวัดชายชายแดนไทยภาคใต้ มาเลเซียและประเทศชาติที่มิอาจจะปล่อยให้เลือนหายไปตามกาลเวลาหลังจากได้มีการเจรจาสันติภาพไตรภาคีและมีการลงนามเพื่อยุติสถานการณ์การต่อสู้ด้วยกำลังอาวุธของพรรคคอมมิอมมิวนิสต์มาลาลายา เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2532 ที่ผ่านมา สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์มาลาลายาได้เข้าร่วมเป็นผู้พัฒนาชาติไทย ซึ่งสิ่งที่ตามมาคือสมาชิกทุกท่านได้ร่วมกันปฏิบัติตนเห็นเป็นรูปธรรม เช่น การพัฒนาพื้นที่ป่าเขาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นอุโมงค์ปิยะมิตร สวนหมื่นบุปผา สวนสัมโชกุนสวนทุเรียนสายพันธุ์ต่างๆ และการเลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจ เช่น ไก่เบตง ปลากือเลาะ ในธรรมชาติที่มีสายน้ำบริสุทธิ์ เกิดจากภูมิปัญญาที่กลายเป็นการพัฒนาอย่างยั่งยืน การสร้างคุณภาพชีวิต สร้างสังคมที่เข้มแข็ง สร้างแหล่งท่องเที่ยวจนมีชื่อเสียงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศ เป็นการขับเคลื่อน Soft Power อย่างแท้จริง และในอีกไม่นานก็จะมีพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ปิยะมิตร ที่เกิดจากความร่วมแรงร่วมใจ ความสามัคคีของพี่น้องประชาชนเพิ่มมาอีก 1 แห่ง ซึ่งจะสามารถเชื่อมต่อเรื่องราวจากอดีตที่ผ่านมาเกือบศตวรรษให้ลูกหลานรุ่นหลังได้มารับชม รับฟัง เกิดเป็นความภาคภูมิใจของคนในชาติ

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net