กลุ่มเฮซบอลลาห์ประกาศเตรียมเข้าสู่ 'เฟสใหม่' ของการเผชิญหน้ากับอิสราเอล ขณะที่ฮามาสยืนยันการเสียชีวิตของยาห์ยา ซินวาร์ ผู้วางแผนโจมตี 7 ต.ค. พร้อมปฏิเสธปล่อยตัวประกัน อิสราเอลระดมกำลังทหารสำรองทางเหนือ เตรียมรับมือสถานการณ์ที่อาจรุนแรงขึ้น ท่ามกลางวิกฤตมนุษยธรรมในกาซ่าที่ทวีความรุนแรง

19 ต.ค. 2567 VOA รายงานว่า กลุ่มเฮซบอลลาห์ประกาศว่าจะยกระดับการทำสงครามกับอิสราเอล หลังจากทางการเทลอาวีฟประกาศว่าได้สังหารผู้นำฮามาสยาห์ยา ซินวาร์ ผู้ซึ่งวางแผนการโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. และก่อให้เกิดชนวนของสงครามในกาซ่า

กองทัพอิสราเอลระบุเมื่อวันที่ 17 ต.ค. ว่าทหารพบซินวาร์ วัย 61 ปีน่าจะโดยบังเอิญในตึกแห่งหนึ่งทางใต้ของฉนวนกาซ่าและได้ยิงเข้าใส่เขา

คาลิล เฮย์ยา ผู้นำอีกคนหนึ่งของฮามาสในกาซ่า ออกแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์ยืนยันการเสียชีวิตของซินวาร์ และบอกด้วยว่าฮามาสจะไม่ปล่อยตัวประกันในกาซ่า จนกว่าอิสราเอลจะหยุดโจมตีและถอนทหารออกไป

ส่วนเฮซบอลลาห์ประกาศในเเถลงการณ์ว่า ในอีกไม่กี่วันจากนี้จะเดินหน้าเข้าสู่ "ช่วงการเชิญหน้ากับศัตรูชาวอิสราเอลเฟสใหม่ที่ยกระดับขึ้น"

ในคำประกาศของเฮซบอลลาห์ ไม่มีการพูดถึงการเสียชีวิตของซินวาร์

กองทัพอิสราเอลเเถลงในวันศุกร์ว่ากำลังระดมทหารกำลังสำรองในทางตอนเหนือของประเทศ เพื่อเดินหน้าต่อสู้กับเฮซบอลลาห์และเพื่อให้ประสบความสำเร็จในเป้าหมายของสงคราม ซึ่งรวมถึงนำประชาชนอิสราเอลกลับสู่ที่อยู่อาศัยเดิมทางตอนเหนือของประเทศ

กองทัพอิสราเอลระบุในวันศุกร์ว่า ทหารกองพลน้อยที่ 118 ของตนยังคงปฏิบัติการภาคพื้นดินเข้าไปในตอนใต้ของเลบานอน และว่าสามารถทำลายสถานที่ซึ่งฝ่ายตรงข้ามใช้เก็บกระสุนและมีระบบโครงสร้างพื้นฐานอยู่

นอกจากนั้นอิสราเอลรายงานว่าการโจมตีทางอากาศทำลายศูนย์ภูมิภาคของเฮซบอลลาห์

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ปีที่เเล้ว นักรบฮามาสสังหารผู้คนไปราว 1,200 คนและจับตัวประกันไปประมาณ 250 รายในการบุกอิสราเอล

อิสราเอลเชื่อว่าฮามาสยังคงมีตัวประกันในมืออยู่ 101 คน ซึ่งรวมถึง 35 รายที่น่าจะเสียชีวิตเเล้ว ตามข้อมูลของกองทัพเทลอาวีฟ

การตอบโต้ของอิสราเอลที่ดำเนินมากว่า 1 ปี ทำให้ชาวปาเลสไตน์ในกาซ่าเสียชีวิตไปกว่า 42,500 คนตามข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขกาซ่า

ตัวเลขดังกล่าวไม่ได้เเยกระหว่างพลเรือนเเละนักรบฮามาส แต่อิสราเอลระบุในบรรดาผู้เสียชีวิต มีนักรบฝ่ายตรงข้ามถูกปลิดชีพหลายพันคน

กลุ่มฮามาสและเฮซบอลลาห์ถูกระบุโดยสหรัฐฯและประเทศโลกตะวันตกหลายแห่งว่าเป็นขบวนการก่อการร้าย

เกือบ 3 ใน 4 ของประชากร 2.3 ล้านคนในกาซ่ากลายเป็นคนพลัดถิ่นเนื่องจากความขัดเเย้งที่เกิดขึ้น และผู้คนในดินเเดนดังกล่าวเกือบทั้งหมดมีความเสี่ยงต่อภาวะอดอยากรุนเเรงตามข้อมูลของสหประชาชาติ