เมื่อวันที่ 31 ต.ค. ที่ผ่านมา พนักงานการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กว่า 394 คน ได้ลาหยุดพร้อมกัน ตามมติของสหภาพ แรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.ร.ฟ.ท.) เพื่อประท้วงการบริหารงานของกระทรวงคมนาคม ที่ไม่รักษาผลประโยชน์ของ ร.ฟ.ท.

รายงานข่าวแจ้งว่า มีประชาชนได้รับผลกระทบจากการหยุดงานของพนักงาน ร.ฟ.ท. กว่า 4 หมื่นคน และทำให้ ร.ฟ.ท.เสียหายมูลค่ากว่า 4 ล้านบาท

นายธนาศักดิ์ พวงประเสริฐ ผู้อำนวยการ รฟท.ภาคใต้ กล่าวว่า พนักงานรถไฟหยุดเดินรถ เพื่อประท้วงรัฐบาลจะแก้ พรบ.การรถไฟ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทราบเรื่องดังกล่าวเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา หลังจากรถไฟเคลื่อนขบวนออกไปแล้วและได้หยุดเดินรถที่สถานีทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งมีผู้โดยสารจาก 10 ขบวน กว่า 1,200 คนตกค้าง โดยเจ้าหน้าที่ ได้นำรถทัวร์โดยสารมารับผู้โดยสารทีตกค้างได้เพียง 3 ขบวน ส่งผลให้ผู้โดยสารเดินทางล่าช้าจากเวลาที่กำหนดและตกค้างที่สถานีทุ่งสง ส่วนทางภาคเหนือ รถไฟโดยสารทั้งขาขึ้นและล่อง ได้หยุดเดินรถที่สถานีปากน้ำโพ จ.นครสวรรค์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้จัดรถบัสโดยสารมารับผู้โดยสารที่ตกค้างเช่นกัน ในส่วนของภาคอีสานนั้น ที่จ.นครราชสีมา  กลุ่มสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย สาขานครราชสีมา กว่า 50 คน ได้ยึดชานชลาประท้วงหยุดการแปรรูปการรถไฟ พร้อมหยุดเดินรถ 40 ขบวน

อย่างไรก็ตาม เช้าวันที่ 1 พ.ย. เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของสถานีรถไฟหัวลำโพง ได้แจ้งให้ผู้โดยสารที่รอขบวนรถอยู่ภายในสถานีหัวลำโพง สามารถมาซื้อตั๋วเพื่อเดินทางไปตามจังหวัดต่างๆได้แล้ว สำหรับรถไฟที่ตกค้างอยู่ในสถานีหัวลำโพงสามารถปล่อยรถทุกขบวนได้ตามปกติ แต่บรรยากาศในสถานีรถไฟหัวลำโพง ยังเต็มไปด้วยผู้โดยสารที่ตกค้างอีกเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 22.00 น.คืนวันที่ 31 ตุลาคม นายศิวะ แสงมณี ประธานคณะกรรมการ ร.ฟ.ท. เปิดเผยหลังการประชุมกับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.ร.ฟ.ท.) ว่า ร.ฟ.ท.ได้ลงนามร่วมกับสหภาพ ยอมรับข้อเรียกร้องทั้ง 6 ข้อ ทำให้สหภาพรับปากว่าจะเปิดให้การเดินรถทันที คาดว่าการเดินรถคงเป็นไปตามปกติทุกเส้นทาง