ชาวลำปางกลุ่ม “พิราบขาวเพื่อมวลชน” ร่วมจุดเทียนอาลัยการจากไปของ "บุ้ง ทะลุวัง" ที่เสียชีวิตจากการอดอาหารประท้วงเรียกร้องเพื่อเรียกร้องการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมและยุติการคุมขังนักโทษการเมือง

เมื่อเย็นวานนี้ (14 พฤษภาคม 2567) กลุ่มนักกิจกรรมลำปาง “พิราบขาวเพื่อมวลชน” จัดกิจกรรม "ร่วมจุดเทียนแสดงความอาลัยต่อสิทธิมนุษยชนไทย" ณ ห้าแยกหอนาฬิกาลำปาง (ข่วงนคร) หลังจากที่ได้ทราบข่าวการเสียชีวิตของ เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง ทะลุวัง นักกิจกรรมทางการเมืองที่อดอาหารประท้วงเเพื่อเรียกร้องการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมและยุติการคุมขังนักโทษการเมือง

นักกิจกรรมลำปางรายหนึ่งให้สัมภาษณ์ว่า กิจกรรมครั้งนี้วันนี้เป็นวันสำคัญทางประวัติศาสตร์การเมืองไทยเพราะเป็นวันครบรอบ 1 ปีที่มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่กลับเกิดเหตุการณ์ที่มีนักกิจกรรมทางการเมืองต้องสังเวยชีวิตให้กับความไม่ยุติธรรมของกระบวนการทางกฎหมายจากการดำเนินคดีการเมือง

"เราทุกคนต่างวาดหวังว่าสังคมไทยจะกลับเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์ ระยะเวลาที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่า สิทธิมนุษยชนในไทยก้าวถอยหลัง ความไม่ปกติของสังคมเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งที่ประเทศไทยเปิดตัวสมัครเป็นคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ แต่สถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในไทยกลับเป็นที่น่ากังวล" หนึ่งในนักกิจกรรมลำปางกล่าว

นักกิจกรรมอีกคนหนึ่งกล่าวเสริมว่า ประชาชนในเมืองเล็กอย่างลำปางยังมองว่าสิทธิมนุษยชนเป็นเรื่องไกลตัวและเป็นชนวนสร้างความขัดแย้งให้กับสังคมด้วยความเข้าใจว่าสิทธิมนุษยชนคือเรื่องคาบเกี่ยวกับการเมือง วันนี้ที่บุ้งจากไปควรเป็นสิ่งที่ถอดบทเรียนเพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันว่า ปัญหาสิทธิมนุษยชนไม่ว่าจะเกิดขึ้นในเมืองใหญ่หรือเมืองเล็ก ล้วนส่งผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนเหมือนกัน

"ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนประเทศไทยจะกลับสู่เส้นทางประชาธิปไตยอย่างที่ควรจะเป็น ประชาชนควรมีสิทธิมีเสียง ได้รับรู้และเข้าใจสิทธิมนุษยชนอย่างเสมอภาค และเคารพความแตกต่างซึ่งกันและกัน แต่วันนี้เรากำลังกลับสู่ยุคที่มีคนสังเวยชีวิตเพื่อเข้าถึงสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน เช่น สิทธิในการประกันตัวเพื่อต่อสู้คดี อีกครั้ง เพียงเพราะเห็นต่างจากรัฐจนถูกมองว่าเป็นเรื่องผิดกระบวนการยุติธรรมที่ไม่เสมอภาค" หนึ่งในประชาชนผู้ร่วมกิจกรรมได้แสดงความคิดเห็น

กิจกรรมดังกล่าวมีการชูป้ายข้อความต่าง ๆ เพื่อรำลึกถึงการจากไปของบุ้ง และจบลงด้วยการจุดเทียนไว้อาลัยพร้อมอ่านบทกวีเป็นเวลา 1 นาที โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามถ่ายภาพตลอดการทำกิจกรรม