Skip to main content
sharethis


 


พีท เพิ่มแสงงาม เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสาม ซึ่งเป็นครูฝึกตำรวจแอลเอ เผยสอนแม่ไม้มวยไทย "เตะ-ศอก-เข่า" ให้นักเรียนตำรวจแอลเอ เพราะสามารถ "หยุด" ผู้ต้องสงสัยได้ดีกว่าศิลปะป้องกันตัวแขนงอื่น ชี้นักเรียนตำรวจกระตือรือร้นที่จะเรียน เพราะรู้จักพิษสงของ "มวยไทย" ดีอยู่แล้ว


ไทยทาวน์ยูเอสเอนิวส์ รายงานว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้รับอนุญาตให้เข้าไปสังเกตการณ์การสอนมวยไทยให้กับนักเรียนตำรวจ ที่สถาบันฝึกสอนตำรวจลอส แอนเจลิส (LAPD Recruit Training Center) บนถนนแมนเชสเตอร์ ซึ่งเป็นสถาบันที่นักเรียนตำรวจจะต้องเรียนภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติในส่วนของเทคนิคการต่อสู้ป้องกันตัวในรูปแบบต่างๆ เป็นเวลาประมาณ 8 เดือน ก่อนที่จะย้ายไปเรียนเรื่องการยิงปืนและการขับรถไล่ผู้ร้ายที่สถาบันสาขาอื่น


 


พีท เพิ่มแสงงาม เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสาม ซึ่งเป็นครูฝึกตำรวจ (Training instructor) เปิดเผยว่า ตนได้นำมวยไทยมาสอนนักเรียนตำรวจของลอส แอนเจลิส ตั้งแต่ปี 1996 และสอนเรื่อยมาจนถึงปี 2000 ที่ตนขอย้ายมาเป็นครูฝึกหน่วยกลยุทธ (In-service Tactical Training Instructor) มีหน้าที่ฝึกอบรมเทคนิคต่างๆ ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ได้นำมวยไทยมาสอนให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน เพราะเห็นว่ามวยไทยเป็นศิลปะป้องกันตัวที่สามารถใช้ได้จริง และอาจช่วยชีวิตตำรวจได้ในสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ


 


"อย่างเตะของมวยไทยมันได้ผลกว่าเตะแบบคาราเต้ และเตะมวยไทยนี่ไม่จำเป็นต้องเตะสูง เตะขาพับ ก็อยู่แล้ว และมวยไทยมันใช้ประโยชน์ได้เยอะ ถ้าอยู่ระยะห่างก็เตะ เข้ามาระยะใกล้ อย่างถูกรุมหรือผู้ร้ายเข้ามากอดรัด ก็ใช้ศอกใช้เข่าได้"


 




พิทย์ พึ่งแสงงาม


 


นายตำรวจเชื้อสายไทย กล่าวอีกว่า การสอนมวยไทยได้รับการตอบรับจากนักเรียนตำรวจ และตำรวจทั่วไปเป็นอย่างมาก เพราะส่วนใหญ่จะรู้จักพิษสงของมวยไทยดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะจากกีฬาการต่อสู้ที่เรียกว่า Ultimate Fighting Championship (UFC) ที่โด่งดังในอเมริกา เพราะผู้เข้าแข่งขันมักนำมวยไทยไปประยุกต์ใช้อย่างได้ผล


 


"เขากระตือรือร้นที่จะเรียน อย่างเราสาธิตการเตะให้เขาดู เขาก็เห็นเลยว่า เตะอย่างนี้ทีเดียว อยู่เลย แล้วอีกอย่างคือเราเป็นคนไทยด้วย มันเหมือนกับเจ้าของวิชามาสอนเอง เขาก็ยิ่งชอบ และก่อนสอนผมบอกเสมอว่า นี่คือศิลปะของชาติไทยนะ ผมภูมิใจมากที่จะเอาสอนให้พวกคุณ เพราะสักวันหนึ่ง มันจะช่วยชีวิตพวกคุณได้" นายตำรวจไทยกล่าว และว่าในอดีต ตนเคยใช้การเตะแบบไทย เตะคนร้ายที่เข้ามาทำร้ายจนขาหักมาแล้ว


 


"ตอนปี 1991 ก่อนจะมาเป็นครูฝึก ผมเป็นสายลับ ปลอมตัวไปซื้อกัญชากับแม็กซิกันแถวถนนพิโก้ ก็ให้แบงก์ 20 สองใบที่ทำเครื่องหมายเอาไว้ แต่เขาให้กัญชาผมมาถุงใหญ่ เป็นร้อยเหรียญ ได้ของเสร็จก็เดินออกมา ส่งสัญญาณให้กับตำรวจที่ส่องกล้องดูอยู่ แต่ก่อนตำรวจจะมา คนร้ายมันนับเงิน ก็รู้ว่าให้ของมาเยอะกว่า 40 เหรียญ ก็เลยวิ่งกันมาสามคน จะเอาเงินเพิ่ม ผมก็บอกไม่มีแล้วๆ ตาก็มองแบ๊กอัพอยู่ว่ามาหรือยัง ระหว่างนั้นเขาผลักผม คิดว่าถ้าล้มก็คงถูกรุมกระทืบแหละ พอตั้งตัวได้ เห็นช่วงขาเปิดนะ พับนอกพับใน ก็เลยเตะเปรี้ยงเข้าให้ เมืองไทยเขาเรียกเจาะยาง ลงไปกอง อีกสองคนเห็นก็วิ่งหนี แต่ตำรวจจับได้หมด พอพาคนเจ็บไปโรงพยาบาล ปรากฎว่ากระดูกแตก ไม่ถึงกับหัก แต่พวกตำรวจก็เขาพูดกันว่า โห ยูเตะคนร้ายขาหักเลยนะ ทุกคนรู้จักผมจากวันนั้น"


 


พีท เพิ่มแสงงาม กล่าวด้วยว่า การสอนมวยไทยให้กับตำรวจนั้น เป็นการสอนขั้นพื้นฐาน โดยตนได้ศึกษาข้อมูลจากรายงานของตำรวจท้องที่ต่างๆ ก่อนว่า การขัดขืนหรือต่อสู้เจ้าหน้าที่ของผู้ต้องหาส่วนใหญ่มีลักษณะเช่นไร และจะแก้ไขสถานการณ์อย่างไรจึงจะเหมาะสม โดยสรุปว่า การเตะขาพับ ฟันศอก และขึ้นเข่า คือวิธีที่ได้ผลที่สุด


 


พีท เพิ่มแสงงาม เคยได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณครูฝึกยอดเยี่ยมของแอลเอพีดี สองปีซ้อน คือปี 1997 และ 1998 จากการโหวตของบรรดานักเรียนตำรวจ โดยเขากล่าวว่า น่าจะมีสาเหตุมาจากการสอนมวยไทย เพราะนักเรียนตำรวจทราบดีว่ามีประโยชน์ สามารถช่วยชีวิตตำรวจได้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน จึงโหวตให้ตนเองเพื่อเป็นการขอบคุณ


 


นายตำรวจไทยกล่าวอีกว่า ตนได้รับเชิญจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เดินทางมาสอนและบรรยายถึงประสบการณ์ของการเป็นตำรวจลอส แอนเจลิส และสอนกลยุทธต่างๆ ให้กับนักเรียนตำรวจของไทย โดยจะเดินทางไปในราวเดือนมกราคม 2550 นี้.


 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net