โดย นิตยสารรายสัปดาห์พลเมืองเหนือ
เมืองน่าน จมน้ำหนักสุดรอบ 50 ปี
จากสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดน่าน ถือเป็นอุทกภัยที่สร้างความเสียหายมากที่สุดจังหวัดหนึ่งในภาคเหนือที่ดำเนินมาหลายวันติดต่อกัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.เป็นต้นมา ทำให้ชาวบ้านหลายครัวเรือน หลายชีวิตได้รับความเดือดร้อนตลอดทั้งวันทั้งคืน ชาวบ้านในจังหวัดน่านหลายอำเภอไม่มีจิตใจทำอะไร เนื่องจากระดับน้ำแม่น้ำน่านยังคงล้นตลิ่ง ทะลักเข้าท่วมพื้นที่อยู่อาศัย-พื้นที่การเกษตร รวมแล้วกินพื้นที่ 5 อำเภอ 19 ตำบล ประกอบด้วย อ.ท่าวังผา 5 ตำบล, สองแคว 2 ตำบล, เชียงกราง 6 ตำบล, กิ่ง อ.ภูเวียง 4 ตำบล, อำเภอเมืองน่าน 2 ตำบล และกำลังทะลักเข้าท่วมพื้นที่อำเภอเวียงสา อีก 2 ตำบล เฉพาะอำเภอท่าวังผา พื้นที่เกษตรกร เสียหาย 20,000 ไร่ และประชาชนเดือดร้อน 26,490 ราย
เหตุการณ์น้ำท่วมเมืองน่านครั้งนี้ ถือว่าหนักสุดในรอบเกือบ 50 ปี หลังจากที่เคยเกิดน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2506 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองน่านถูกตัดขาดจากภายนอกอย่างสิ้นเชิงแล้ว ถนนทุกสายถูกน้ำท่วมหมด ไม่สามารถสัญจรเข้า-ออกได้ ถนนหลายสายถูกน้ำกัดเซาะพังทลายไม่สามารถใช้งานได้ ชาวบ้านต่างพากันนำรถยนต์มาจอดทิ้งไว้บนสะพานต่างๆ ที่น้ำยังไม่ท่วม ขณะที่ย่านเศรษฐกิจ-ที่อยู่อาศัยน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร หลายหมู่บ้านระหว่าง อ.เมือง - ท่าวังผา คือ บ้านแฮะ บ.ตอนต้น บ.ซบย่าง เชียงแล วิกฤติสุด ทุกบ้านไม่สามารถเข้าออกได้ น้ำท่วมมิดหลังคา
หลายหลังคาพึ่งเทียนแทนไฟฟ้า
หลายหมู่บ้านที่น้ำท่วม ทางกรมไฟฟ้าจะตัดการจ่ายกระแสไฟทุกพื้นที่ เพื่อป้องกันอันตรายจากกระแสไฟ ทำให้กลางคืน ไฟมืดทั้งเมือง เจ้าหน้าที่ต้องแจกจ่ายเทียนเะพื่อให้ชาวบ้านใช้จุดในตอนกลางคืน เพื่อรอให้ปริมาณน้ำลด จึงจพสามารถจ่าบยไฟฟ้าให้ใช้ตามปกติได้
ทัพภาค3 เตรียมกำลัง รุดช่วยน่าน
พล.ท.สพรั่ง กัลยาณมิตร แม่ทัพภาคที่ 3 ที่เดินทางไปบัญชาการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่จทบ.น่าน โดยสั่งตั้งศูนย์บัญชาการช่วยเหลือที่จทบ.น่าน พร้อมกับแบ่งกำลังทหารเข้ารับผิดชอบให้การช่วยเหลือประชาชน ในเขตท่าวังผา รวม 200 นาย, อ.เมือง 80 นาย, เวียงสา อีก 65 นาย พร้อมกับจะระดมเฮลิคอปเตอร์เข้ามาสนับสนุนการช่วยเหลือ 1 กองร้อย ซึ่งขณะนี้ได้ระดมเฮลิคอปเตอร์เข้ามาบางส่วนแล้ว คือ ฮ.ท.1 จำนวน 4 ลำ, ฮ.ลำเลียง 1 ลำ, ชีนุก, แบล็กฮอว์ก ,เรือท้องแบนจากทหารช่าง ตลอดจนชุดกู้ภัยต่างๆ พร้อมกับแจ้งให้ชุมชนที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ ให้ใช้สัญลักษณ์ผ้าสีแดงผูกไว้บนหลังคา หรือที่สูง เพื่อให้เจ้าหน้าที่สังเกตเห็นได้ชัด
ย้าย 500 นักโทษน่านหนีน้ำฝากขังเรือนจำแพร่
เจ้าหน้าที่เรือจำจังหวัดน่านและกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากทั้งจังหวัดน่านและจังหวัดแพร่ ต้องช่วยกันควบคุมและลำเลียงตัวนักโทษจำนวน 510 คน จากเรือนจำจังหวัดน่าน เพื่อไปอยู่ที่เรือนจำจังหวัดแพร่ ร่วมกับนักโทษอีก 750 คน เป็นการชั่วคราว เนื่องจากที่บริเวณเรือนจำจังหวัดน่าน ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1.5 เมตร โดยการขนย้ายในครั้งนี้ต้องใช้รถทั้งหมด 6 คัน มีการควบคุมการเดินทางอย่างเข้มงวด ขณะเดียวกันทางเรือนจำก็จะมีการให้ข้อมูลข่าวสารสถานการณ์น้ำท่วมของจังหวัดน่านให้นักโทษได้รับทราบอย่างต่อเนื่องด้วย เพื่อให้นักโทษได้รับสถานการณ์ของญาติพี่
ตัวเมืองน่านคลี่คลาย น้ำลงใต้เอ่อท่วมเวียงสา
ขณะนี้ระดับน้ำที่ท่วมในเขตเทศบาลเมืองน่าน อำเภอเมือง จ.น่าน เริ่มลดระดับลง ขณะเดียวกันสภาพอากาศก็เริ่มแจ่มใส ไม่มีฝนตกลงมา และมีแดดออก ทำให้เชื่อว่าสถานการณ์น้ำท่วมขังในเขตตัวเมืองน่าจะดีขึ้นโดยลำดับ โดยเจ้าหน้าที่ได้เร่งเข้าให้ความช่วยเหลือในส่วนของการฟื้นฟูสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เช่น ไฟฟ้า น้ำประปา ให้กลับมาใช้งานได้เหมือนเดิมแล้ว และอำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน ซึ่งถูกน้ำท่วมหนักที่สุด แม้ว่าจะยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่ในบางพื้นที่ เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มทำให้การระบายน้ำช้า แต่ระดับน้ำที่ท่วมขังก็เริ่มลดลงตามลำดับ ส่วนเส้นทางเข้าไปยังทั้ง 41 หมู่บ้านที่ถูกน้ำท่วมนั้น สามารถใช้งานได้แล้ว ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถลำเลียงความช่วยเหลือเข้าไปถึงมือผู้ประสบภัยได้ทั้งหมดและไม่มีผู้ประสบภัยตกค้างอยู่ในพื้นที่
ด้านอำเภอเวียงสา ที่อยู่ทางใต้ของอำเภอเมืองน่าน น้ำได้ล้นตลิ่งเข้าพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้ทางจังหวัดได้มีการประกาศแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ไปแล้ว ให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ขนย้ายทรัพย์สินมีค่า และจำเป็นไปไว้ที่อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่ติดลำน้ำน่าน ได้มีการสั่งอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว พร้อมทั้งส่งอาหารและเครื่องดื่มไปให้ประชาชนเตรียมพร้อมสำรองไว้แล้วเผื่อกรณีถูกตัดขาด ซึ่งจังหวัดเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาความเสียหายได้มากพอควร และจะไม่มีผู้เสียชีวิต
ประเมินน้ำท่วมน่านเสียหายยับกว่า 100 ล้าน
จากความเสียหายที่เกิดขึ้นทุกพื้นที่ หลังจากปริมาณน้ำลด เจ้าหน้าที่ได้นำ น้ำดื่ม อาหาร ยารักษาโรค ไปแจกประชาชนที่เดือดร้อน โดยได้นำงบประมาณจังหวัดเป็นเงินประมาณ 50 ล้านบาท ออกให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย
ด้านนายธนกร รัชตานนท์ ประธานหอการค้าจังหวัดน่าน กล่าวว่า เหตุการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ของจังหวัดน่าน นับว่าเป็นครั้งที่มีความรุนแรงและสร้างความเสียหายหนักที่สุดในรอบ 40 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการที่น้ำในแม่น้ำน่านล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมในเขตเทศบาลเมืองน่าน ซึ่งเป็นย่านการค้าและเศรษฐกิจที่สำคัญ ทำให้ประเมินเบื้องต้นว่าน่าจะมีมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท และคงจะต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูอีกหลายเดือน กว่าเศรษฐกิจและการค้าจะกลับสู่ภาวะปกติ
สิ่งที่อยากให้หน่วยงานรัฐ เร่งเข้าให้ความช่วยเหลือ หลังสถานการณ์น้ำกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว อันดับแรก ต้องเร่งทำการซ่อมแซมถนนหนทาง และเส้นทางคมนาคมที่ชำรุดเสียหายโดยเร็ว เพื่อให้การฟื้นฟูช่วยเหลือด้านต่างๆ สามารถทำได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันอยากให้เร่งให้ความช่วยเหลือชาวบ้าน โดยเฉพาะเกษตรกรที่พื้นที่เพาะปลูกได้รับความเสียหาย และให้ความช่วยเหลือด้านสาธารณสุข เนื่องจากเกรงโรคภัยที่จะมากับน้ำท่วม
ครม.ควัก 150 ล้าน ช่วยผู้ประสบภัยน่าน
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมครม. เมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยพื้นที่ภาค ขอขยายอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการให้ครอบคลุมไปถึงการดูแลช่วยเหลือในพื้นที่จ.น่าน และจะของบฉุกเฉิน ซึ่งเป็นงบกลางจากรัฐบาล 150 ล้านบาท เพื่อลงไปดำเนินการช่วยเหลือในจ.น่านทันที
เสียชีวิต 1 สูญหาย 1
แม้ยังมีน้ำท่วมขังบางจุด แต่พบว่าโบราณสถานหลายแห่งรอดจากน้ำท่วมอย่างหวุดหวิด ขณะที่อำเภอเวียงสา ได้รับผลกระทบหนักจากน้ำเหนือ และปริมาณน้ำที่ อ.ท่าวังปริมาณน้ำได้ลดลงจากระดับวิกฤติ แต่บ้านเรือนที่อยู่ริมแม่น้ำน่าน ยังมีน้ำท่วมขังเป็นบริเวณกว้าง
ขณะที่พิพิธภัณฑ์สถานของจังหวัดน่าน น้ำได้เอ่อเข้าท่วมตัวอาคารแต่ไม่มากนักและกลับสู่สภาพปกติแล้ว เช่นเดียวกับวัดพระธาตุช้างค้ำ ซึ่งตั้งอยู่บนที่สูงแม้น้ำเข้าท่วมแต่ได้ลดลงแล้ว ส่วนวัดภูมินทร์กลายที่เป็นจอดรถของประชาชนใกล้เคียง โดยความเสียหายที่เกิดขึ้น ตั้งแต่วันที่ 21 - 23 ส.ค. มีพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมมีทั้งหมดประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และสูญหาย 1 ราย ส่วนบ้านเรือนเสียหายบางส่วน มีผู้บาดเจ็บจากการขนย้ายของหนีน้ำ 3,545 ราย ในจำนวนนี้แขนขาหัก 45 ราย และยังมีผู้ที่มีโรคประจำตัว คือ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง 50 คน หอบหืด 2 ราย อาการกำเริบ และหญิงใกล้คลอดอีก 2 ราย รับตัวเข้ารักษาในโรงพยาบาลทั้งหมดแล้ว
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)