Skip to main content
sharethis

ททท. จับมือ องค์กรนวัฒกรรมสังคม CreativeMOVE นำทีม 20 นักสร้างสรรค์มาร่วมออกแบบสื่อประชาสัมพันธ์ให้ 20 ชุมชนต้นแบบ นำร่องการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ สู่การส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบวิถีชุมชน

นางวิไลวรรณ ทวิชศรี     รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว - การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมด้วย นางภัทรพร  สิทธิวนิช      ผู้อำนวยการกองส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยว ททท. จัดงานแถลงข่าวโครงการส่งเสริมและพัฒนาสินค้าท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ของไทย (Creative Tourism Thailand) โดยจับมือกับ “องค์กรนวัฒกรรมสังคม CreativeMOVE” นำ 20 นักสร้างสรรค์มืออาชีพ  ร่วมออกแบบสื่อประชาสัมพันธ์ให้ 20 ชุมชนต้นแบบ นำร่องการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์  หวังต่อยอดการท่องเที่ยวของชุมชนให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย เชื่อมโยงประสบการณ์ความผูกพันระหว่างนักท่องเที่ยวกับชุมชน 

นางวิไลวรรณ ทวิชศรี รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท.  ได้กล่าวว่า “จากที่องค์การยูเนสโกได้ให้นิยามการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ (Creative Tourism) คือการท่องเที่ยวที่มุ่งเน้นให้นักท่องเที่ยวมีส่วนร่วมเรียนรู้   จากประสบการณ์ที่แท้จริงจากสถานที่นั้นๆ  เช่น เรียนรู้เกี่ยวกับศิลปะ ประเพณีท้องถิ่น และเอกลักษณ์เฉพาะของสถานที่ท่องเที่ยว อันจะก่อให้เกิดความเชื่อมโยงระหว่างนักท่องเที่ยวกับผู้คนในชุมชมที่อาศัยอยู่ในสถานที่นั้น   ซึ่งปัจจุบันนี้กว่า 30 ประเทศทั่วโลกมีการจัดทำโปรแกรมท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์อย่างเป็นจริงจัง  เช่น ไปทำน้ำหอมสูตรของตนเองที่ฝรั่งเศส    ไปเวิร์คช๊อปเพ้นท์ผ้าบาติกที่บาหลี-อินโดนีเซีย  ทำไวน์สูตรพิเศษพร้อมติดยี่ห้อตัวเองที่เคปทาวน์-อัฟริกาใต้   เรียนทำเมอแรงค์ขนมหวานพื้นเมืองที่นิวซีแลนด์      ยังมีประเทศอื่นๆ ที่ให้ความสนใจโปรโมทโปรแกรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ อาทิ ชิลี คิวบา จอร์แดน อียิปต์  เปรู ออสเตรเลีย เวียดนาม  เป็นต้น นอกจากนี้ ASEAN ยังได้กำหนดให้การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์" เป็นยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวสำหรับภูมิภาคอาเซียน    ด้วยเหตุนี้ทาง ททท. จึงจัดทำ “โครงการส่งเสริมและพัฒนาสินค้าท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ของไทย” หรือ Creative Tourism Thailand ขึ้นมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมข้อมูลสินค้าท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ของประเทศไทย ในการรองรับและส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมาย นำไปสู่การพัฒนายกระดับสินค้าการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ที่โดดเด่น และการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ของไทยให้สอดคล้องกับแนวโน้มตลาดการท่องเที่ยวโลก”

นางวิไลวรรณ ทวิชศรี กล่าวเพิ่มเติมว่า “โครงการนี้ชุมชนจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าท่องเที่ยวที่มีอยู่เดิม เป็นการต่อยอดภูมิปัญญาของชุมชนให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้น ผ่านรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ อีกทั้งเป็นการสร้างความผูกพันและประสบการณ์ตรง ระหว่างนักท่องเที่ยวกับชุมชนเจ้าวัฒนธรรมได้มากกว่าการท่องเที่ยวในรูปแบบเดิมๆ เพื่อมอบประสบการณ์ที่นักท่องเที่ยวไม่มีวันลืมเลือน ก่อให้เกิดบอกต่อและเดินทางกลับมาอีกครั้ง เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนให้กับชุมชนต่อไป” 

ด้าน นางภัทรพร  สิทธิวนิช      ผู้อำนวยการกองส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยว ททท. กล่าวเสริมว่า “โครงการ Creative Tourism Thailand นี้มีหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกชุมชนต้นแบบ โดยคณะกรรมการจะพิจารณาจากรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ของชุมชนนั้นว่ามีความโดดเด่นและมีความน่าสนใจ สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการเดินทางได้จริง มีศักยภาพสามารถนำไปพัฒนาเป็นสินค้าท่องเที่ยว เพื่อนำเสนอให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้  โดยในเบื้องต้นมีชุมชนที่ผ่านรอบแรก 58 ชุมชน  จากนั้นคัดเลือกเหลือ 30 ชุมชน  สุดท้ายคัดเหลือ 20 ชุมชนด้วยวิธีการโหวตที่เรียกว่า Traveler Choice Survey  ต่อจากนั้นชุมชนนำร่องจะถูกพัฒนาให้เป็นสินค้าท่องเที่ยวเชิงสรรค์อย่างเต็มรูปแบบ  โดยมีตัวอย่างชุมชนต้นแบบการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ จากทั้ง 5 ภูมิภาค   เช่น กลุ่มโฮมสเตย์เชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมบ้านเชียง จ.อุดรธานี กับกิจกรรมการปั้นหม้อเขียนสี ลายบ้านเชียง,

ชุมชนหมู่บ้านผ้าไหมบ้านต้อน จ.ชัยภูมิ เรียนรู้การทำผ้าไหมครบวงจร, ชุมชนคุ้มโฮงเหนือวัดฟ้าหยาด จ.ยโสธร สอนการร้อยมาลัยข้าวตอก, ชุมชนหมู่บ้านพัฒนาวัฒนธรรมหนองห้าง จ.กาฬสินธุ์ เรียนรู้การทำเครื่องจักสานจากไม้ไผ่, โรงเรียนฝึกควาญช้างบ้านช้างไทยแม่แตง จ.เชียงใหม่   มาการเรียนเป็นควาญช้าง, กลุ่มหัตถศิลป์แกะภาพหนังเมืองลุง  จ.พัทลุง  เรียนรู้การแกะตัวหนังตะลุง,  ชุมชนบ้านเกาะกลาง จ.กระบี่  กิจกรรมเรียนรู้การทำเรือหัวโทงจำลอง, ศูนย์ตุ๊กตาชาววังบางเสด็จ จ.อ่างทอง, ชุมชนวิสาหกิจชุมชนบ้านริมคลองโฮมสเตย์ จ.สมุทรสงคราม เรียนรู้การทำน้ำตาลมะพร้าว, ชุมชน บ้านหนองกระทุ่มไร่คุณมน จ.กาญจนบุรี กับกิจกรรมการเก็บข้าวโพดหวานในไร่ การแปรรูปข้าวโพดหวานและการทำลูกประคบงาดำบด เป็นต้น”

นางภัทรพร  สิทธิวนิช      กล่าวต่ออีกว่า       “หลังจากที่ได้ 20  ชุมชนต้นแบบการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์จากทั้ง 5 ภูมิภาคแล้ว ททท. ได้เชิญ องค์กรนวัฒกรรมสังคม CreativeMOVE นำทีม 20 นักสร้างสรรค์ มาร่วมออกแบบสื่อประชาสัมพันธ์ให้กับทั้ง 20 ชุมชน โดยครีเอทีฟอาสาสมัครมาจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ TDCC,   ครีเอทีฟ, โปรดิวเซอร์, เว็บ ดีไซเนอร์, นักเขียน, ช่างภาพ ฯลฯ และได้มีการลงพื้นที่เพื่อสำรวจและดำเนินการผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ให้กับ 20 ชุมชนดังกล่าว เพื่อถ่ายทอดกิจกรรมสร้างสรรค์ของแต่ละชุมชน สะท้อนถึงอัตลักษณ์ของแต่ละชุมชน ในสื่อรูปแบบต่างๆ อาทิ แผ่นพับ, เว็บไซต์รวบรวมข้อมูลสินค้าท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ของไทย, สื่อวีดีทัศน์ และคู่มือท่องเที่ยว (Guidebook) ภาษาอังกฤษและภาษาไทย เพื่อเป็นไอเดียให้กับนักเดินทางยุคใหม่ที่สนใจการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ โดยมีกำหนดการออกหนังสือราวเดือนพฤศจิกายน 2556 นี้ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดของโครงการนี้ได้ที่ www.mycreativetourismthailand.com”

นางวิไลวรรณ ทวิชศรี   กล่าวสรุปถึงประโยชน์ของโครงการนี้ว่า “คนที่เป็นเจ้าของพื้นที่หรือชุมชน จะได้รับการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าซึ่งเป็นสินค้าอันเป็นภูมิปัญญาของท้องถิ่น ซึ่งจะทำให้เป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น แพร่หลายมากยิ่งขึ้น  นักท่องเที่ยวเองก็จะรู้สึกผูกพันกับชุมชนมันมากกว่าการท่องเที่ยวทั่วๆไป ก่อให้เกิดการบอกต่อและเกิดการมาเที่ยวซ้ำ  รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน  ส่วนนักท่องเที่ยวก็จะได้ประสบการณ์ตรงหรือได้ทำกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ กับชุมชนที่เป็นเจ้าของวัฒนธรรม อันนี้คือประสบการณ์พิเศษที่นักท่องเที่ยวจะไม่มีลืมเลือน  ในแง่ของธุรกิจท่องเที่ยว บริษัททัวร์ต่างๆ  จะมีโปรแกรมท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์มานำเสนอทางเลือกใหม่ๆให้นักท่องเที่ยว รวมถึงอาจทำให้ขายทัวร์ได้ยาวนานยิ่งขึ้น ดึงให้นักท่องเที่ยว อยู่เที่ยวได้นานยิ่งขึ้น”

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net