ประชาไท-5 ก.ย. 48 "กอส ยืนยันจุดยืน ให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นแกนหลัก ในการรับผิดชอบกรณี คนไทยมุสลิม 131คน ลี้ภัยไปประเทศมาเลเซีย ส่วนการประชุมวันนี้ เพียงรับฟังข้อมูลจาก เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ "กอส."ในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศเท่านั้น"นาย
นายโคทมกล่าวว่า อยากฝากให้สื่อมวลชนช่วยติดตามสาเหตุการอพยพลี้ภัยของคนไทยมุสลิมที่แท้จริงให้ด้วย เนื่องจากข้อมูลที่ได้นั้นแตกออกเป็นหลายทาง และทาง กอส.ยังไม่ได้สรุปความเห็นในกรณีดังกล่าว จึงยังไม่สามารถชี้แจงวันนี้ได้ เพราะอาจสร้างความเข้าใจผิดตามมา
นาย
ทั้งนี้ ต้องทำให้ทางประเทศมาเลเซียมั่นใจด้วย ว่าหากดำเนินการให้คนที่ลี้ภัยไปกลับมาแล้ว คนเหล่านั้นจะไม่เผชิญความกดดันจนต้องกลับไปประเทศมาเลเซียอย่างซ้ำแล้วซ้ำอีก เพราะจะทำให้ปัญหาเรื้อรังต่อ โดยความต้องการความมั่นใจของมาเลเซียอยู่บนพื้นฐานหลักมนุษยธรรม คือไม่ผลักใสกลับไปสู่ภาวะที่เป็นอันตราย เหมือนที่ไทย ใช้หลักเดียวกันนี้ กับ กรณีของผู้อพยพชาวเวียดนาม พม่า และอื่นๆ ที่เรารับเข้ามา
นายโคทม กล่าวอีกว่า กอส. ได้หารือถึงกรณี ชาวบ้านที่บ้านละหาร ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ปิดทางเข้าหมู่บ้านไม่ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและทหารเข้า เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากมีความเชื่อว่า ฝ่ายเจ้าหน้าที่เป็นผู้ยิง นาย สะตอปา ยูโซะ โต๊ะอิหม่าม เสียชีวิต ว่าอาจทำให้เหตุการณ์ขยายตัวจนร้ายแรงขึ้น กอส.จึงมีข้อเสนอแนวทางสมานฉันท์ต่อรัฐบาลเป็นการเฉพาะหน้าว่า
ให้ถือว่าการชุมชนุมดังกล่าวเป็นการชุมนุมโดยสันติวิธีเนื่องจากประชาชนรู้สึกว่าเป็นเหยื่อของความรุนแรง ตามแนวทางที่รัฐบาลให้ไว้ในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 187/ 2546 และเร่งจัดตั้งคณะกรรมการสันติสุขชุมชน ตามหนึ่งในมาตรการ 14 ข้อ ที่ กอส.เคยเสนอ และ คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบในหลักการไปเมื่อวันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมา
โดยคณะกรรมการดังกล่าวควรจะมีส่วนในตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีนี้ และนำผลการตรวจสอบเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร็ว ทั้งนี้ องค์ประกอบของคณะกรรมการดังกล่าว ควรประกอบไปด้วยฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐ และภาคประชาสังคมในพื้นที่
นอกจากนี้ รองประธานกอส.ยังกล่าวถึงวาระอื่นอีกว่า กอส. มีมติเสนอให้รัฐบาลตั้ง "ศูนย์นิติธรรมสมานฉันท์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้" โดยทางกอส. จะสนับสนุนให้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และสภาทนายความเป็นแกนหลักในการจัดตั้ง เพื่อช่วยเหลือและให้ความยุติธรรมในด้านคดีความกับคนในพื้นที่
รวมทั้ง กอส.ยังได้กำหนดมาตรการป้องกันต่อกรณีครบรอบ 1 ปี เหตุการณ์ตากใบ โดยเน้นไปที่การฝึกเจ้าหน้าที่ในการควบคุมฝูงชน และทำความเข้าใจหลักการปฏิบัติตามหลักศาสนาอิสลามโดยเฉพาะในช่วงเดือน รอมฎอน ด้วย
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)