ศูนย์ข่าวอิศรา สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

ตำรวจเตรียมแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับชาวบ้านใน จ.ปัตตานี อย่างน้อย 10 คน ปลายสัปดาห์นี้ หลังสอบสวนจนหลายคนรับสารภาพว่า มีส่วนรู้เห็นกับการฆ่าพระสงฆ์ และวางเพลิงในวัดพรหมประสิทธิ์ ตำรวจระบุ ทั้งหมดซัดทอดไปยังอุซตาสของโรงเรียนปอเนาะเป็นผู้สั่งการ โดยมี "อันนุงวา กาซอ" แนวร่วมค่าหัว 5 แสนอยู่เบื้องหลัง

พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงห์แก้ว รองผู้อำนวยการกองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุข จังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอ.สสส.จชต.) กล่าวว่า ถึงแม้แนวร่วมของกลุ่มผู้ก่อการบางส่วนในจำนวน 19 คน ที่ถูกควบคุมตัวมาสอบสวนตาม พ.ร.ก. สถานการณ์ฉุกเฉินฯ จะรับสารภาพว่าเป็นผู้ร่วมก่อเหตุฆ่าพระสงฆ์ เด็กวัด และวางเพลิงที่วัดพรหมประสิทธิ์ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี แต่ก็ต้องใช้เวลาสักระยะในการสอบสวนขยายผลไปให้ถึงตัวผู้ที่อยู่เบื้องหลัง ก่อนที่จะมีการแจ้งข้อหาดำเนินคดี ซึ่งคาดว่าจะแจ้งข้อหาได้ราวปลายสัปดาห์นี้

"เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีที่เกี่ยวกับความมั่นคงจึงต้องใช้เวลาสอบสวนและพิจารณาข้อหาที่จะแจ้งกับผู้ก่อเหตุ นอกจากนี้ต้องสืบสวนในเชิงลึก คดีนี้มันมีอะไรที่ลึกมากกว่าที่เราคิด" พล.ต.ท.อดุลย์กล่าว

แหล่งข่าวใน ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนหน้า (ศปก.ตร.สน.) กล่าวว่า คดีนี้มีความคืบหน้าไปมาก และเบื้องต้นมีผู้ที่ถูกควบคุมตัวตาม พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินฯ ให้การรับสารภาพแล้วอย่างน้อย 10 คนโดยคำให้การทั้งหมดเป็นประโยชน์มาก นอกจากนี้จากการเข้าตรวจค้นบ้านพักของผู้ถูกควบคุมตัวบางคนยังพบหลักฐานสำคัญจำนวนมาก เช่น เสื้อผ้าและมีดดาบเปื้อนเลือด ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ส่งไปตรวจสอบดีเอ็นเอแล้วที่กรุงเทพฯ หากพบว่าเป็นเลือดของพระหรือลูกศิษย์วัดที่เสียชีวิตก็สามารถแจ้งข้อหากับผู้เกี่ยวข้องได้ทันที

แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า ผู้ถูกควบคุมตัวที่ยอมรับสารภาพยังให้การซัดทอดด้วยว่า การก่อเหตุครั้งนี้ได้รับการสั่งการและว่าจ้างจาก "อุซตาส" หรือครูสอนศาสนาอิสลามของโรงเรียนปอเนาะแห่งหนึ่งใน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี โดยมีการวางแผนกันมานานหลายสัปดาห์ก่อนเกิดเหตุ ทั้งนี้อุซตาสดังกล่าวได้ถูกตำรวจควบคุมตัวตาม พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินฯ ไว้ที่โรงเรียนตำรวจภูธรภาค 9 อ.เมืองยะลาแล้วเช่นกัน แต่ยังคงปากแข็งให้การปฏิเสธว่าไม่รู้ไม่เห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตามเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาตำรวจได้เข้าค้นบ้านพักและโรงเรียนปอเนาะของอุซ

ตาสรายนี้ และได้เก็บหลักฐานไปหลายอย่างเพื่อประกอบสำนวนการสอบสวน

"แม้ว่าอุซตาสคนนี้จะปฏิเสธ แต่ตำรวจมีหลักฐานสำคัญหลายอย่างที่ยืนยันการกระทำความผิดรวมทั้งหลักฐานทางโทรศัพท์ที่พบว่ามีการใช้เชื่อมโยงระหว่างตัวอุซตาสกับแนวร่วมที่ลงมือก่อเหตุในช่วงเวลาดังกล่าวอีกด้วย" แหล่งข่าวกล่าว

ทั้งนี้ จากการสืบสวนในเชิงลึก ศปก.ตร.สน. พบว่า อุซตาสรายนี้จบการศึกษาศาสนาระดับ 10 ซึ่งเป็นขั้นสูงสุด เป็นแนวร่วมขบวนการแบ่งแยกดินแดนในเขต อ.ปะนาเระ มีหน้าที่ในการปลูกฝังความเชื่อในทางที่ผิดให้กับเด็กวัยรุ่นมุสลิม เพื่อปลูกฝังให้เป็นแนวร่วม "เปอมูดอ" หรือกลุ่มนักรบวัยรุ่น จากการสอบสวนยังพบด้วยว่า ปฏิบัติการครั้งนี้อยู่ภายใต้การบงการของ "นายอันนุงวา

กาซอ" หัวหน้าขบวนการแบ่งแยกดินแดนเขต อ.ปะนาเระ และเป็นผู้ต้องหาคดีความมั่นคงคนสำคัญที่ทางการไทยต้องการตัว

สำหรับนายอันนุงวา ถูกออกหมายจับเกี่ยวกับการก่อเหตุการณ์ความวุ่นวายใน 3 จังหวัดชายแดนใต้รวม 3 คดี ประกอบด้วย คดียิงผู้พิพากษาศาลจังหวัดปัตตานีเสียชีวิต คดีฆ่านักศึกษา มอ.ปัตตานี และคดีวางระเบิดหน้าบริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัด อ.เมืองปัตตานี จนทำให้เจ้าหน้าที่ชุดกู้ระเบิดเสียชีวิต 2 ศพ ทั้งนี้ นายอันนุงวามีค่าหัวหรือรางวัลนำจับจำนวน 5 แสนบาท เบื้องต้นพบว่ายังคงวนเวียนหลบหนีการจับกุมอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้