ภาคใต้—30 มิ.ย. 2549 สงขลาผวาภัยบึ้ม สายข่าวรายงานพบ "มือผลิตระเบิด" ป้วนเปี้ยนแถวหาดใหญ่ สั่งตรวจสอบ "ชาวอินโดฯ" เข้ามากบดานที่จะนะ - สะบ้าย้อย พบมีทั้งเข้าเมืองผิดกฎหมาย - ถูกกฎหมายนับร้อยคน ค้นสายฟ้าแลบ 2 จุด รามัน - ระแงะ จับ 8 ผู้ต้องสงสัยร่วมวงป่วนเมือง

มือผลิตระบิดเข้าหาดใหญ่

รายงานข่าวจากจังหวัดสงขลาแจ้งว่า ล่าสุดมีสายข่าวรายงานว่ามีผู้พบนายไฟซอล หะยีสะมะแอ ครูฝึกประกอบระเบิด ซึ่งเคยก่อวินาศกรรมสนามบินหาดใหญ่ เมื่อปี 2547 เข้ามาเคลื่อนไหวอยู่ในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ทางจังหวัดจึงได้กำชับไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้ระมัดระวังดูแลสถานที่สำคัญเป็นกรณีพิเศษ

พร้อมกันนี้ ทางจังหวัดสงขลา ยังได้ตรวจสอบชาวอินโดนีเซีย ที่เข้ามาอาศัยอยู่ในจังหวัด โดยเฉพาะในอำเภอจะนะ และอำเภอสะบ้าย้อยนับร้อยคน มีทั้งเข้าเมืองถูกต้อง และลักลอบเข้าเมือง ส่วนใหญ่มีภรรยาเป็นคนพื้นที่ เนื่องจากเกรงว่าบางคนอาจจะเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

รวบ 8 ชาวบ้านต้องสงสัยเอี่ยวระเบิดใต้

เวลา 05.30 น. วันที่ 29 มิถุนายน 2549 พล.ต.ต.ธานี ทวิชศรี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ได้นำกำลังกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา และกองปราบปราม 210 นาย เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายในตำบลบือมัง ตำบลเนินงาม ตำบลอาซ่อง ตำบลท่าธง ตำบลเกะรอ อำเภอรามัน จังหวัดยะลา รวม 19 จุด ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย และอุปกรณ์ประกอบวัตถุระเบิดได้จำนวนหนึ่ง

ทั้งนี้ ผู้ต้องสงสัยที่ถูกนำตัวมาซักถามขยายผลมี 8 คน ประกอบด้วย นายดอเลาะ มะลี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 อยู่บ้านเลขที่ 64/1 หมู่ 6 ตำบลท่าธง อำเภอรามัน นางสาวฟารีซะ สาเม็ง อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48/1 หมู่ 6 ตำบลท่าธง อำเภอรามัน นายคอเลค สาและมะ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105/2 หมู่ 6 ตำบลเนินงาม อำเภอรามัน นายหาเซ็ง มาหะมะ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62/1 หมู่ 1 ตำบลเนินงาม อำเภอรามัน นายมะลาวี เด็งสะเม็ง อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 หมู่ 5 ตำบลเนินงาม อำเภอรามัน นายซัมสูดิง ปะนะ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85/2 หมู่ 2 ตำบลอาซ่อง อำเภอรามัน มีหมายจับคดียิง นายมานะ มาละโซ๊ะ ผู้ใหญ่บ้าน 2 ตำบลอาซ่อง นายอุสมาน มะลาเต๊ะ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 หมู่ที่4 ตำบลบาลอ อำเภอรามัน นายบัสรี มะหามะ อายุ 20 ปี ลูกชายนายหาเซ็ง นายลาเต๊ะ มะมิง อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75/3 หมู่ 5 ตำบลอาซ่อง อำเภอรามัน ในเบื้องต้นได้นำตัวทั้งหมด ไปซักถามที่สถานีตำรวจอำเภอรามัน

สำหรับการตรวจค้นครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า จังหวัดยะลา ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์มือถือ ที่ใช้ในการก่อเหตุวางระเบิดและยิงอาสาสมัครรักษาดินแดน และทหารชุดคุ้มครองครู ที่บ้านบูเกะบือราแง หมู่ 3 ตำบลอาซ่อง อำเภอรามัน เป็นเหตุให้อาสาสมัครรักษาดินแดนสียชีวิต 4 นาย บาดเจ็บ 1 นาย ทหารเสียชีวิต 1 นาย เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2549

บุกค้นสายฟ้าแลบหมู่บ้านสีแดงระแงะ

เวลา 14.30 น. วันเดียวกัน ตำรวจภูธร ตำรวจตระเวนชายแดน ทหาร และฝ่ายปกครอง ได้สนธิกำลังกว่า 200 นาย เข้าปิดล้อมหมู่บ้านลูโบ๊ะกาเด็ง หมู่ 12 ตำบลตันหยงมัส อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งเคยยึดอาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 ได้ 5 กระบอก เมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา

เนื่องจากได้รับรายงานว่า กลุ่มกองกำลังติดอาวุธ อาร์.เค.เค. ได้นำอาวุธสงครามเอ็ม 16 และอาร์ก้า 3 กระบอก เข้ามาเคลื่อนไหว เพื่อเตรียมก่อเหตุลอบโจมตีชุดรักษาความปลอดภัยครูในอำเภอระแงะ และใกล้เคียง

จากการเข้าตรวจค้นหมู่บ้านเป้าหมาย 2 จุด กว่า 50 หลังคาเรือน พบเพียงผู้หญิงและเด็กอยู่ในหมู่บ้าน ส่วนผู้ชายหายไป เชื่อว่าน่าจะหลบหนีการตรวจค้น พร้อมกับยึดรูปถ่ายชาวบ้านบางคนที่แต่งกายชุดทหาร พร้อมกับถืออาวุธปืน เอ็ม 16 ไปใช้ประกอบการสืบสวน

นอกจากนี้ ยังพบรถจักรยานยนต์ต่างพื้นที่อีกหลายคัน จึงยึดไปตรวจสอบประวัติเจ้าของ และจากการตรวจสอบพบว่า ตามเสาไฟฟ้ารอบบริเวณหมู่บ้านมีสัญลักษณ์ต่างๆ มีกิ่งไม้ปักไว้ตามรู ลักษณะเหมือนบอกเส้นทางไว้ 3 ทิศ น่าจะเป็นสัญลักษณ์ระบุว่า มีการปิดล้อม 3 ทิศทางจากเจ้าหน้าที่ ส่วนเป้าหมายที่ต้องการตัว 3 ราย หลบหนีไปได้ ในระหว่างตรวจค้นมีผู้หญิงบางคน คอยสังเกตการณ์ตลอดเวลา

ยิงพนักงานไฟฟ้าสายบุรี

เวลา 08.50 น. วันเดียวกัน ขณะที่นายสมาน แสงคุ้ม อายุ 32 ปี พนักงานบริษัท อดิศรซับพลาย จำกัด รับจ้างติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าในพื้นที่ อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี ขับจักรยานยนต์ส่วนตัวออกจากบ้านพักเลขที่ 50/6 ถนนสะพานม้า อำเภอสายบุรี เพื่อไปทำงาน เมื่อถึงหน้าสำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อำเภอสายบุรี ถนนท่าเสด็จ เขตเทศบาลตำบลสายบุรี มีคนร้าย 2 คน ขับจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียนตามประกบ ใช้อาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบชนิดยิงใส่ 2 นัด เข้าที่บริเวณสะโพกขวา 2 นัด อาการสาหัส ผู้ประสบเหตุได้นำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรี

ยิงลูกจ้างสถานีรถไฟสุไหงโก-ลกสาหัส 1 ราย

เวลา 07.00 น. วันเดียวกัน ขณะที่นายการียา เยาะ อายุ 58 ปีอยู่บ้านเลขที่ 50/2 หมู่ 4 ตำบลโต๊ะเด็ง อำเภอสุไหงปาดี หัวหน้าช่างซ่อมบำรุงทางสถานีรถไฟสุไหงโก - ลก ขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นเมท สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ไปส่งหลานชายที่โรงเรียนอิสลามบำรุง อำเภอสุไหงปาดี แล้วตรงไปยังที่ทำงาน มาตามถนนจารุเสถียร (นราธิวาส-สุไหงโก-ลก) ถึงบริเวณบ้านต้นไม้สูง หมู่ 2 ตำบลโต๊ะเด็ง อำเภอสุไหงปาดี มีคนร้าย 2 คน ขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ไม่ทราบรุ่น สี และป้ายทะเบียน ไล่ยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 หลายนัด แต่กระสุนเฉี่ยวบริเวณกกหูขวาเพียงนัดเดียว นายการียาต้องหลบลงข้างทางแกล้งทำเป็นตาย คนร้ายจึงหลบหนีไป ผู้ประสบเหตุจึงนำส่งโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก

ระเบิดรถทหาร

เมื่อเวลา 14.30 น. วันเดียวกัน ขณะที่ส.อ.สมพร วิโนทัย พร้อมทหาร 5 นาย และนายสมพร จินดารา ผู้ใหญ่บ้านบ้านปิเหล็ง ตำบลมะรือโบออก อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส บริเวณบ้านกูแบปูยู หมู่ 8 ตำบลมะรือโบออก อำเภอเจาะไอร้อง ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อเชฟโรเลต สีดำ ของกองร้อยทหารราบ 1013 หน่วยเฉพาะกิจที่ 31 ค่ายสมเด็จพระศรีสุริโยทัย อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตั้งฐานอยู่ที่วัดปิเหล็ง กลับจากส่งพระที่วัดตันติการาม หรือวัดตอหลัง ตำบลตันหยงลิมอ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส มาถึงบ้านกูแบปูยู หมู่ 8 ตำบลมะรือโบออก ห่างจากค่ายกองพันพัฒนาที่ 4 ประมาณ 800 เมตร มีชายขับรถจักรยานยนต์ 2 คั นตามหลังมาแล้วทำทีเบียดรถทหารให้เข้าข้างทาง พร้อมกับจุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่นำมาฝังเอาไว้ข้างทาง ก่อนล่วงหน้า แรงระเบิดทำให้เกิดหลุมกว้างประมาณ 1 เมตร ลึกประมาณ 40 เซนติเมตร รถยนต์กระบะทหารถูกสะเก็ดระเบิด 2 รู บริเวณหลังคา ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

สาดอาก้ายิงคนสะบ้าย้อยเจ็บสาหัส1ราย

เวลา 18.00 น. วันเดียวกัน ขณะที่นายมะรูดิง มะเลาะ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10/1 หมู่ 1 ตำบลเพียร อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ขับรถจักรยานยนต์กลับบ้านพัก มาตามถนนสายบ้านบ่อทอง มาถึงบริเวณเชื่อมต่อบ้านสวนโอน หมู่ 4 ตำบลสะบ้าย้อย อำเภอสะบ้ายย้อย จังหวัดสงขลา ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวน ดักซุ่มอยู่ข้างทางและใช้อาวุธอาก้ายิงใส่เข้าบริเวณลำตัว 2 นัด รถจักรยานยนต์เสียหลักล้มลงข้างทาง ผู้ประสบเหตุนำตัวส่งโรงพยาบาลสะบ้าย้อย

จ่อยิงอดีตผู้ใหญ่บ้านดับอีก1

เวลา 18.20 น. วันเดียวกัน คนร้าย 2 คน ใช้อาวุธปืนอาก้าประกบยิงอดีตผู้ใหญ่บ้าน ในอำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส ขณะขับรถจักรยานยนต์อยู่บนถนนบ้านโคกปริเม็ง หมู่ 1 ตำบลปะลุรู อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส กระสุนปืนเข้าที่บริเวณศีรษะ 1 นัด โหนกแก้ม 1 นัด และหน้าอกซ้าย 1 นัด เสียชีวิตคาที่

ยิงกลางร้านคาราโอเกะดับ1สาหัส5

กลางดึกวันที่ 28 มิถุนายน 2549 คนร้าย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า รุ่น เวฟ สีดำ ไม่ทราบเลขทะเบียน มาจอดที่หน้าประตูทางเข้าร้านเดียร์คาราโอเกะ" เลขที่ 65/3 หมู่ 2 เขตเทศบาลตำบลรือเสาะ ตำบลรือเสาะออก อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส จากนั้น คนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายสวมหมวกกันน็อกปกปิดใบหน้า ได้เดินเข้าไปเปิดประตูร้าน พร้อมชักอาวุธปืนจ่อยิงใส่ลูกค้าที่นั่งดื่มอยู่ในร้าน 6 คน แล้วหลบหนีไป ภายในร้าน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นายซาเหาะ อูมา อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74/2 หมู่ 8 ตำบลรือเสาะ อำเภอรือเสาะ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้น ที่บริเวณศีรษะและลำตัวหลายนัด

ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ประกอบด้วย นายดะแซ ดือเร๊ะ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98 หมู่ 8 ตำบลรือเสาะ อำเภอรือเสาะ นายยูหารี สือรี อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส นายอาซือมัน หะแว อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83 หมู่ 8 ตำบลรือเสาะ อำเภอรือเสาะ นายยะโก๊ะ อาแด อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 86 หมู่ 8 ตำบลรือเสาะ นายมะนาวี สือรี อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 312/2 หมู่ 10 ตำบลรือเสาะ แต่ละคนถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มิลลิเมตร ตามร่างกายหลายแห่ง ทั้งหมดถูกนำส่งโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ในเวลาต่อมา

ร.ต.ท.กูมะแอน สัญญา ร้อยเวร สถานีตำรวจภูธรอำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายบุกเข้าไปในร้าน "เดียร์คาราโอเกะ" ซึ่งตั้งอยู่ที่เลขที่ 65/3 หมู่ 2 เขตเทศบาลตำบลรือเสาะ ตำบลรือเสาะออก อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส จึงระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครอง รุดเดินทางไปตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุ

ในที่เกิดเหตุพบมีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บหลายราย จึงลำเลียงผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลรือเสาะ ทราบชื่อ คือ 1. นายดะแซ ดือเร๊ะ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98 หมู่ 8 ตำบลรือเสาะ อำเภอรือเสาะ 2. นายยูหารี สือรี อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 ตำบลบางนาค อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส 3. นายอาซือมัน หะแว อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83 หมู่ 8 ตำบลรือเสาะ อำเภอรือเสาะ 4. นายยะโก๊ะ อาแด อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 86 หมู่ 8 ตำบลรือเสาะ อำเภอรือเสาะ และ 5. นายมะนาวี สือรี อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 312/2 หมู่ 10 ตำบลรือเสาะ อำเภอรือเสาะ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 ม.ม. ตามร่างกายหลายแห่งได้รับบาดเจ็บสาหัส และถูกลำเลียงส่งโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ในเวลาต่อมา

ภายในร้านโต๊ะ เก้าอี้ ขวดเบียร์ เศษแก้วกระจายเกลื่อนพื้น มีรอยเลือดกองอยู่กับพื้นเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะที่บริเวณประตูทางออกหลังร้าน นอกจากนี้ ยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มิลลิเมตร ตกกระจาย 13 ปลอก โดยก่อนหน้านี้ มีข่าวออกมาเป็นระยะว่า กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ ต้องการจะบุกยิงร้านค้าจำหน่ายเหล้า เบียร์ และร้านคาราโอเกะ ที่มีผู้หญิงบริการ

อาการครูจูหลิงไม่ดีขึ้น

วันเดียวกัน โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 41 เกี่ยวกับอาการครูจูหลิง ปงกันมูล ครูโรงเรียนกูจิงลือปะ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ที่ถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัสว่า ยังไม่รู้สึกตัว สัญญาณชีพไม่คงที่บางช่วง ความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์เกือบปกติ ไม่สามารถหายใจได้ด้วยตัวเอง จำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจควบคุมการหายใจทั้งหมด สามารถรับอาหารทางสายยางได้ดี แพทย์ยังคงให้ยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาการติดเชื้อจากการบาดเจ็บและรักษาอาการปอดติดเชื้อ พร้อมให้ยากระตุ้นหัวใจเพื่อปรับการเต้นของหัวใจ

มอบเงินเยียวยา63ตำรวจ

เวลา 11.00 น. วันเดียวกัน ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า จังหวัดยะลา พล.ต.ท.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานมอบเงินสวัสดิการสงเคราะห์ แก่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ และทายาทตำรวจที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งที่ 2 จำนวน 63 ราย ครอบครัวละ 2,000 บาท ที่เหลือจะมอบผ่านธนาคารทุกเดือน เดือนละ 2,000 บาท ไปตลอด สำหรับทายาทตำรวจที่เสียชีวิต จะให้เงินดำรงชีพแก่บิดามารดาและคู่สมรสเป็นรายเดือน พร้อมกับมอบเงินช่วยเหลือการศึกษาบุตรเป็นรายเดือนจนบรรลุนิติภาวะ

ปัตตานีมอบทุนผู้รับผลกระทบไฟใต้

วันเดียวกัน นายวินัย ครุวรรณพัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นประธานพิธีมอบเงินยังชีพรายเดือน และเงินสงเคราะห์ทุนการศึกษาช่วยเหลือบุตรผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดปัตตานี มีครอบครัวผู้รับผลกระทบเข้ารับเงินช่วยเหลือ 322 ราย เป็นเงิน 2,647,000 บาท แยกเป็น ระดับก่อนวัยเรียน 32 คน เดือนละ 1,500 บาท, ระดับอนุบาลถึงประถมศึกษา 172 คน เดือนละ 1,000 บาท, ระดับมัธยมศึกษาถึงระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ 90 คน เดือนละ 1,500 บาท และระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง - ปริญญาตรี 22 คน เดือนละ 2,500 บาท