ในประเทศ

"สนธิ" ย้ำอัยการศึกไม่กระทบเลือกตั้ง

กรุงเทพธุรกิจ : พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่ นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการ การเลือกตั้ง (กกต.) ระบุว่าเหตุที่สหภาพยุโรป (อียู) ขอเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้งของไทย เกิดจากการผลักดันจากกลุ่มอำนาจเก่า ว่า จากการติดตามข่าวว่าเป็นเช่นนั้น คงต้องมีการตรวจสอบกันอีกครั้ง ส่วนจะเป็นอย่างนั้นหรือไม่ ยังไม่ทราบ

ส่วนกรณีที่พรรคชาติไทยเรียกร้องให้ยกเลิกกฎอัยการศึกในบางพื้นที่ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าไม่เข้าใจว่ากฎอัยการศึกนั้นไม่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ประธาน คมช. กล่าวว่า กฎอัยการศึกไม่มีปัญหากับคนดี การมีกฎอัยการศึกอยู่ คนดีจะมีความปลอดภัย ซึ่งถ้าหัวหน้าพรรคใดไม่เข้าใจหรือไม่เห็นด้วย เขาจะชี้แจงด้วยตนเอง

คมช.เตรียมส่งมอบภารกิจดูแลการตรวจสอบการทุจริตของรัฐบาลทักษิณให้กับรัฐบาลชุดใหม่

กรมประชาสัมพันธ์  : พันเอกสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช.เปิดเผยว่า ในที่ประชุม คมช.สัปดาห์หน้า จะมีการสรุปผลการทำงานในรอบ 1 ปีของ คมช.และอาจมีการทบทวนการจัดงานแถลงผลงาน 1 ปี คมช. ขึ้นหารือเนื่องจากอาจรอแถลงควบรวมในโอกาสการพ้นหน้าที่ของ คมช.ในคราวเดียวกันซึ่งานอาจต้องเลื่อนออกไปจากเดิม คือ วันที่ 19 กันยายน ส่วนการตรวจสอบการทุจริตคอรัปชั่นของรัฐบาลภายใต้การนำของพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร ซึ่งถูกตำหนิว่าการจัดการกับการทุจริตไม่มีความคืบหน้านั้น ได้ชี้แจงว่า เป็นเพราะไม่ต้องการมุ่งล้างแค้น โดยต้องการให้ทุกอย่างดำเนินการไปตามขั้นตอนและกระบวนการของกฎหมาย และคงจะไม่เป็นการดีหากเข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม โดยสั่งให้มีการดำเนินการที่รวดเร็วกว่าปกติ แบบพลิกหน้ามือเป็นหลังมือเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก ทั้งนี้ หลังการเลือกตั้งและมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ คมช.ก็จะพ้นหน้าที่ ดังนั้น ก็จะส่งมอบภารกิจดงกล่าวให้รัฐบาลใหม่สานต่อซึ่งมั่นใจว่าจะดูแลงานต่อจาก คมช.ได้

คมช. ประชุมสรุปผลงานครบ 1 ปีรัฐประหาร 3 ก.ย.

เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น : พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเหนิด โฆษคมช. กล่าวว่าในวันที่ 3 ก.ย.จะมีการประชุมคมช. ซึ่งในที่ประชุมจะมีการรวบรวมผลงานและข้อมูลของคมช.ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาเพื่อเตรียมนำมาแถลงผลงานในวันที่ 19 ก.ย. แต่ทั้งนี้การทำงานของคมช.ครบรอบ 1 ปีและการสิ้นสุดเป็นภารกิจที่ใกล้เคียงกันซึ่งอาจจะมีการแถลงผลงานขึ้นอีกครั้ง แต่อาจเป็นหลังวันที่ 19 ก.ย.ก็ได้

รมว.สธ. เร่งสร้างเครือข่ายบริการการแพทย์ฉุกเฉินตั้งเป้าปี 54 ครอบคลุมทั่วประเทศ

ศูนย์ข่าวแปซิฟิค : นายแพทย์มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขกำลังเสนอร่างพระราชบัญญัติการแพทย์ฉุกเฉิน เพื่อใช้สำหรับการให้บริการประชาชนที่เจ็บป่วยอย่างกระทันหัน รวมทั้งบาดเจ็บจากอุบัติเหตุต่างๆ ไม่ว่าจะอยู่ในเมืองหรือชนบท โดยบุคลากรที่มีความรู้ นำส่งจากจากจุดเกิดเหตุจนถึงโรงพยาบาลอย่างรวดเร็วและปลอดภัยที่สุด โรงพยาบาลต่างๆ ไม่มีการปฏิเสธรับคนไข้จากข้ออ้างเตียงเต็มอีกต่อไป คาดว่าจะออกใช้ทันในปลายปีนี้แน่นอน

สำหรับ การพัฒนาเครือข่ายระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินนั้น จะขยายบริการให้ครอบคลุมถึงระดับตำบลทั่วประเทศภายในปี 2554  ส่วนผลการดำเนินงานขณะนี้ ทั่วประเทศมีศูนย์กู้ชีพประจำตำบลแล้ว 3,386 หน่วย มีอาสาสมัครกู้ชีพระดับตำบล 80,045 คน ในภาพรวมการปฏิบัติการกู้ชีพทั้งในเขตเมืองและตำบล ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 29 สิงหาคม 2550 หน่วยกู้ชีพออกปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนทั้งหมด 280,323 ราย โดยแจ้งเหตุขอความช่วยเหลือทางหมายเลข 1669 จำนวน 111,728 ราย คิดเป็นร้อยละ 40 ที่เหลือเป็นการแจ้งเหตุผ่านช่องทางอื่น เช่น เครือข่ายตำรวจ อาสาสมัคร หน่วยกู้ภัย วิทยุสื่อสารประชาชน

"อภิสิทธิ์" แนะกกต.ดึงภาคปชช.จับตาโกงเลือกตั้ง

ผู้จัดการออนไลน์ : นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเรียกร้องคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ที่จำเป็นต่อการเลือกตั้ง 3 ฉบับ รับฟังความคิดเห็นของบรรดาพรรคการเมืองต่างๆ นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ได้เสนอความคิดเห็นไปแล้ว ซึ่งบางเรื่องเห็นว่าน่าจะปล่อยให้เป็นเรื่องของข้อบังคับพรรค ไม่ควรกำหนดรายละเอียดในร่างกฎหมาย เช่น การระบุถึงวิธีการลงคะแนนเลือกกรรมการบริหารพรรค เป็นต้น ส่วนกรณีที่รัฐบาลและ กกต. กำหนดให้วันที่ 23 ธ.ค.50 เป็นวันเลือกตั้งนั้น พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีปัญหา และคาดว่าทุกพรรคก็คงเตรียมพร้อมไว้แล้ว

"ส่วนตัวผมเห็นว่า เรื่องของกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ยังไม่น่าเป็นห่วงเท่ากับการที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะต้องเร่งรับมือกับการแข่งขันทางการเมือง ซึ่งคาดว่าจะมีการกระทำผิดหรือหมิ่นเหม่ต่อกฎหมายเพิ่มขึ้น ดังนั้น กกต.ต้องพยายามสร้างแนวร่วมจากภาคประชาชนให้หันมาช่วยตรวจสอบมากขึ้นด้วย" หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุ

ต่างประเทศ

มะกันตำหนิกฎหมายใหม่จีนแทรกแซงทิเบต ให้รัฐบาลจีนมีอำนาจตั้งบิชอป

กรุงเทพธุรกิจ : คณะที่ปรึกษาด้านเสรีภาพในการนับถือศาสนาของรัฐบาลสหรัฐ ได้ออกแถลงการณ์วานนี้ (1ก.ย.) ประณามกฎหมายใหม่ที่มีผลบังคับใช้แล้ว ที่ให้สิทธิรัฐบาลจีน เข้าไปก้าวก่ายการคัดเลือกบุคคลที่จะเป็นองค์ทะไล ลามะ ผู้นำทางจิตวิญญาณของชาวทิเบต ซึ่งชาวทิเบตส่วนใหญ่เชื่อว่าองค์ทะไล ลามะจะกลับชาติมาเกิดใหม่ หลังจากเสียชีวิตแล้ว

ทั้งนี้ มาตราหนึ่งของกฎหมายใหม่จีน ระบุว่า ไม่มีองค์กรหรือปัจเจกบุคคลใดจากภายนอก ที่จะมีอิทธิพล หรือสามารถควบคุมการกลับชาติมาเกิดของพระพุทธเจ้า คณะรัฐมนตรีจีนเท่านั้นที่เป็นผู้อนุมัติ

มีความชัดเจนมากขึ้นว่า จีนต้องการใช้กฎหมายใหม่นี้ควบคุมการคัดเลือกองค์ทะไล ลามะ องค์ต่อไป โดยทะไล ลามะ องค์ปัจจุบันเป็นองค์ที่ 14 มีอายุ 72 ปี ขณะนี้ทรงลี้ภัยอยู่ต่างประเทศ หลังจากลุกฮือต่อต้านรัฐบาลจีนแล้วล้มเหลวเมื่อปี 2502 โดยทะไล ลามะองค์ปัจจุบัน ได้แต่งตั้งผู้ที่จะสืบทอดตำแหน่งนี้ต่อจากพระองค์แล้ว ในขณะที่รัฐบาลจีนได้แต่งตั้งเด็กอีกคนหนึ่งเตรียมเข้ารับตำแหน่งนี้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากประเด็นที่เกี่ยวข้องกับทิเบตแล้ว กฎหมายใหม่ฉบับนี้ของจีน ยังกำหนดให้รัฐบาลจีนมีสิทธิที่จะแต่งตั้งบิชอป-นักบวชในศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ซึ่งสำนักวาติกัน ได้คัดค้านและยืนยันว่า ไม่มีองค์กรใดอื่นนอกเหนือจากวาติกันที่มีสิทธินี้

"ลอรา บุช" จี้เลขาฯยูเอ็น ประณามรัฐบาลทหารพม่า

กรุงเทพธุรกิจ : นางลอรา บุช สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐ ได้ออกมาเรียกร้องให้นายบัน คี-มูน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประณามรัฐบาลทหารพม่าที่ใช้กำลังเข้าปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงการปรับขึ้นราคาน้ำมันของทางการ พร้อมทั้งเตรียมผลักดันให้คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น ดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดเกี่ยวกับเรื่องนี้

เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวคนหนึ่ง ซึ่งไม่เปิดเผยชื่อให้เหตุผลที่นางลอรา บุช ออกมาเรียกร้องผ่านไปยังเลขาธิการยูเอ็นครั้งนี้ว่า เพื่อให้จับตามองพม่าเพิ่มขึ้น และเพื่อย้ำให้เห็นถึงกิจกรรมด้านการทหารของรัฐบาลพม่าที่เพิ่มขึ้นในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน องค์การนิรโทษกรรมสากล ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลทหารพม่า ปล่อยตัวกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงการขึ้นราคาน้ำมันของทางการ ที่ถูกจับกุมตัวไว้ประมาณ 150 คน

แถลงการณ์ขององค์การนิรโทษกรรม ระบุว่า มีความเสี่ยงสูงที่ผู้ถูกจับกุมตัวทั้งหมด จะถูกทรมานและถูกกดขี่ในรูปแบบต่างๆ ซึ่งรัฐบาลทหารพม่าควรรับรองว่า จะไม่มีการทรมานหรือกดขี่ใดๆ ต่อบรรดาผู้ถูกจับกุม และควรรักษาบรรดาผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุรุนแรงในช่วงที่ผ่านมาด้วย--จบ--

จีนเริ่มใช้ระบบตำรวจตรวจเวบไซต์ สกัดเวบไม่เหมาะสม

สำนักข่าวเนชั่น จีนเริ่มใช้โปรแกรมตำรวจตรวจเวบไซต์เพื่อเตือนไม่ให้นักท่องอินเตอร์เน็ตเข้าไปดูเวบไซต์ที่ไม่เหมาะสมแล้วในวันนี้ โดยผู้ใช้อินเตอร์เน็ตจะเห็นภาพตัวการ์ตูนที่เป็นตำรวจชายและหญิงปรากฏขึ้นบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีทั้งรูปเดิน ขี่จักรยาน หรือขับรถไปตามหน้าจอทุกครึ่งชั่วโมง เพื่อเตือนให้ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตรู้ว่า ตำรวจกำลังเฝ้าจับตาดูพวกเขาอยู่ และไม่อนุญาตให้เข้าไปดูเวบไซต์ที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสมทั้งทางการเมืองและทางศีลธรรม โดยเริ่มแรกนี้จะมีการตรวจตราตามเวบไซต์ของเวบท่า 13 แห่ง เช่น โซหู และซิน่า และจะสามารถครอบคลุมเวบไซต์ทั้งหมดที่จดทะเบียนไว้กับเซิร์ฟเวอร์ในกรุงปักกิ่งได้ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งภาพการ์ตูนตำรวจนี้เขียนขึ้นโดยเวบท่า โซหู

หากผู้ใช้อินเตอร์เน็ตต้องการความช่วยเหลือจากตำรวจ ก็สามารถคลิกไปที่รูปตัวการ์ตูนของตำรวจ ซึ่งจะทำให้สามารถลิงค์เข้าไปยังเวบไซต์ของตำรวจได้ หรือจะเข้าไปดูคำแนะนำเกี่ยวกับความปลอดภัยได้

กรีซหวังว่าจะควบคุมไฟป่าครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ได้ภายใน 4 วัน

กรมประชาสัมพันธ์ : หน่วยดับเพลิงของกรีซหวังว่า จะสามารถควบคุมไฟป่าครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ได้โดยสิ้นเชิงภายใน 4 วันข้างหน้า หลังเกิดไฟป่าทั่วประเทศมานานกว่า 1 สัปดาห์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 63 คน และทำให้ประชาชนหลายพันคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังเหลือเมืองหน้าด่านอีก 2 เมืองทางตอนใต้ของคาบสมุทรเปลโลปอนนีซัส ที่ยังมีการลุกไหม้อย่างรุนแรง อย่างไรก็ตามโฆษกหน่วยดับเพลิงเชื่อว่าจะสามารถควบคุมเพลิงในบริเวณดังกล่าวได้ภายในไม่กี่วันนี้

องค์การอนามัยโลกยืนยันมีผู้ติดเชื้อไข้หวัดนก 5 คน ในเวียดนาม

กรมประชาสัมพันธ์ : องค์การอนามัยโลกยืนยันว่า มีผู้ติดเชื้อไข้หวัดนก 5 คน ในเวียดนาม โดย 4 คนในจำนวนนี้ เสียชีวิตระหว่างวันที่ 21 มิถุนายนถึงวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา ส่วนคนที่ 5 เป็นชายวัย 29 ปี หายจากอาการป่วยแล้ว

แถลงการณ์ขององค์การอนามัยโลกระบุด้วยว่า ผู้ติดเชื้อทั้ง 5 คน มาจากทางภาคเหนือของประเทศ ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อทั้งหมดในเวียดนามตั้งแต่ปี 2544 เพิ่มเป็น 100 คน ในจำนวนนี้เสียชีวิต 46 คน ทางด้านกระทรวงเกษตรของเวียดนามรายงานว่า 3 จังหวัดจาก 64 จังหวัดยังคงถูกประกาศให้เป็นเขตเฝ้าระวัง และมีผู้ติดเชื้อแล้วทั้งหมด 7 คนนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ และคาดว่าไวรัสเอช 5 เอ็น 1 อาจจะกลับมาระบาดอีกครั้งในช่วงฤดูหนาว ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน