Skip to main content
sharethis

ประชาชนในย่างกุ้งเปิดเผยว่า เด็กที่รอดชีวิตจากพื้นที่ประสบภัยเข้ามาขโมยอาหารในกรุงย่างกุ้งเพิ่มมากขึ้น แม้แต่เด็กวัย 10 ขวบ เนื่องจากความอดอยากหิวโหย เช่นเดียวกับที่ประชาชนในกรุงย่างกุ้งกำลังหวั่นวิตกกับข่าวลือที่ว่าจะเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติในประเทศอีกครั้ง


 


เจ้าของห้างสรรพสินค้าในกรุงย่างกุ้งเปิดเผยว่า มีเด็กเข้ามาขโมยของในเวลากลางวันเป็นจำนวนมาก โดยก่อนหน้านี้เขาได้จับตัวเด็กชายวัย 13 ปีที่เข้ามาขโมยของในห้าง แต่เมื่อทราบว่าเด็กชายคนดังกล่าวมาจากหมู่บ้านแห่งหนึ่งในเมืองหล่ายตะยาซึ่งประสบภัยนาร์กีส เข้ามาย่างกุ้งเพื่อหางานทำ แต่เข้ามาขโมยของในห้างเพราะความหิว จึงเกิดความสงสารและนำอาหารไปให้เด็กชายแทน


 


เจ้าของห้างฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า มีเด็กเป็นขอทานตามเมืองต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้นบางส่วนเข้าไปขโมยของในบ้านของชาวบ้าน โดยจะขโมยของทุกอย่างที่ขายได้


 


องค์กการยูนิเซฟและกลุ่มบรรเทาทุกข์กลุ่มอื่น ๆ ต่างเป็นห่วงอนาคตของเด็กที่ได้รับผลกระทบจากไซโคลนนาร์กีสเป็นอย่างมาก โดยกล่าวว่า การที่รัฐบาลพม่าออกคำสั่งให้ผู้ประสบภัยกลับไปยังหมู่บ้านของตน เป็นการคุกคามทั้งร่างกายและด้านจิตใจของเด็ก เนื่องจากพวกเขาต้องกลับไปยังบ้านซึ่งถูกไซโคลนนาร์กีสทำลายอย่างย่อยยับ ซึ่งเด็กที่สูญเสียพ่อแม่และญาติพี่น้องกำลังอยู่ในภาวะอ่อนแอทางด้านจิตใจจึงควรที่ได้รับการเอาใจใส่เป็นพิเศษในเวลานี้ โดยพบว่าเด็กที่สูญเสียพ่อแม่ส่วนใหญ่จะตามไปอยู่กับคนที่เขาพบในระหว่างที่มีการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์


 


นอกจากนี้ประชาชนในกรุงย่างกุ้งเปิดเผยว่า มีเด็กที่มาจากพื้นที่ประสบภัยจำนวนมากมาทำงานในร้านน้ำชาและร้านอาหาร โดยได้รับอาหารและเงินเดือนจำนวนน้อยนิดเป็นค่าตอบแทน ผู้หญิงคนหนึ่งกล่าวว่า "ฉันรู้สึกไม่ดีเวลาที่เห็นคนใช้งานเด็กกำพร้า ก่อนหน้านี้ ฉันเห็นเด็กผู้ชายสองคนจากเขตอิระวดีและเด็กผู้หญิงอีกคนที่มีอายุแค่ 8 ขวบทำงานในร้านน้ำชา"


 


เด็กชายวัย 9 ขวบคนหนึ่งที่สูญเสียพ่อแม่จากไซโคลนนาร์กีสและเข้ามาเป็นขอทานใกล้กับสถานีรถไฟในกรุงย่างกุ้งเปิดเผยว่า เพื่อนวัย 14 ปีสูญเสียพ่อแม่เหมือนกันได้ชักชวนให้มาอยู่ด้วยกัน


 


ทั้งนี้ แถลงการณ์จากยูนิเซฟระบุว่า ยูเอ็นได้อนุมัติเงินเพื่อสร้างศูนย์ช่วยเหลือเด็กกว่า 30 แห่งและบ้านพักเด็กกำพร้าอีก 60 แห่งให้กับเด็กที่ประสบภัยจากนาร์กีส แต่ก็ยังไม่เพียงพอกับจำนวนของเด็กที่ต้องการความช่วยเหลือ


 


ด้านผู้สังเกตการณ์กล่าวว่า รัฐบาลพม่าได้ให้ความช่วยเหลือแก่เด็กไร้บ้านแบบตามมีตามเกิด โดยไม่ให้ความสำคัญกับเด็กพวกนี้มากนัก และรัฐบาลเองก็ยังคงไม่รับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากกลุ่มบรรเทาทุกข์ต่างชาติ


 


ข้อมูลจากยูนิเซฟระบุว่า ไซโคลนนาร์กีสทำให้ประชาชนกว่า 2.4 ล้านคนได้รับผลกระทบ โดยจำนวน 1 ล้านคนในจำนวนนั้นคาดว่าเป็นเด็ก


 


ในขณะเดียวกัน ประชาชนในกรุงย่างกุ้งกำลังหวั่นวิตกกับข่าวลือว่าจะเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติรอบใหม่ หลังมีข่าวลือว่าเจ้าอาวาสวัดชื่อดังสามแห่งนิมิตตรงกันว่า จะมีพายุลูกใหม่หรือแผ่นดินไหวในพม่าอีกครั้ง และจะเกิดน้ำท่วมหนักที่เจดีย์ชเวดากอง


 


โดยประชาชนในย่างกุ้งคนหนึ่งกล่าวว่า ข่าวลือดังกล่าวทำให้คนในกรุงย่างกุ้งระส่ำระส่าย เนื่องจากผู้คนยังไม่สามารถลืมเหตุการณ์ไซโคลนนาร์กีสที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนก่อน


 


ทั้งนี้ ประชาชนต่างคิดว่าข่าวลือจะเป็นจริงมากขึ้น หลังเจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศด้านทะเลอันดามันและทางอ่าวเบงกอลระบุว่า มีฝนตกและมีลมซึ่งมีความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเคลื่อนที่เข้ารัฐมอญและชายฝั่งตะนาวศรี (ที่มา/Irrawaddy 16 มิถุนายน 51)

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net