Skip to main content
sharethis

ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) เผยผลสำรวจ เรื่อง การทำบุญของคนไทยในสภาวะปัจจุบัน เพื่อสะท้อนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมไทยเกี่ยวกับการทำบุญ โดยเก็บข้อมูลจากประชาชน อายุ 18 ปีขึ้นไป ในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 808 คน เมื่อวันที่ 12-14 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 พบว่า  


 


วิธีการทำบุญทำทานของประชาชนในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา นิยมการตักบาตรร้อยละ 32.8 การไหว้พระตามวัดต่างๆ ร้อยละ 20.5 ถวายเครื่องสังฆทาน/ถวายปัจจัย ร้อยละ 16.4 ส่วนการบริจาคเงิน/สิ่งของ บริจาคเลือด บริจาคอวัยวะร้อยละ 17.9 รักษาศีล ปฏิบัติธรรมร้อยละ7.7 ไม่ได้ทำบุญด้วยวิธีใดเลย ร้อยละ 2.7 อื่นๆ เช่น ปล่อยนกปล่อยปลา ช่วยเหลือผู้อื่นร้อยละ 2.0


 


สำหรับผู้ที่ระบุว่าเคยตักบาตรในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมานั้น เมื่อสอบถามจำนวนครั้งของการตักบาตร พบว่า ประชาชนกลุ่มใหญ่ที่สุด คือร้อยละ 44.7 ตักบาตร 1-3 ครั้ง (เฉลี่ยเดือนละไม่เกิน 1 ครั้ง) ตักบาตร 4 - 6 ครั้ง ร้อยละ 24.2 ตักบาตรมากกว่า 6 ครั้ง (เฉลี่ยเดือนละ 2 ครั้งขึ้นไป) ร้อยละ 22.1 ส่วนคนที่ตักบาตรทุกวันคิดเป็นร้อยละ 9.0


 


เมื่อสอบถามว่า ในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันส่งผลกระทบต่อการทำบุญตักบาตรของประชาชน หรือไม่ พบว่าร้อยละ 56.6 ระบุว่า ส่งผลกระทบโดยแบ่งออกเป็นต้องลดจำนวนครั้งและจำนวนเงินในการทำบุญลง ร้อยละ 13.5 เลือกของใส่บาตรที่ราคาไม่แพงร้อยละ 11.8 ถวายปัจจัย (เงิน) ในจำนวนน้อยลงร้อยละ 11.0 ใส่บาตรเป็นอาหารแห้ง/บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแทนข้าวร้อยละ 8.1 ลดจำนวนครั้งของการตักบาตรลงร้อยละ 6.8 ลดปริมาณข้าวหรือของใส่บาตรให้น้อยลงร้อยละ 4.1 อื่น ๆ เช่นทำบุญตามวันหรือโอกาสสำคัญ ๆ เท่านั้นร้อยละ 1.3 ทั้งนี้พบผู้ที่ระบุว่าไม่ส่งผลกระทบร้อยละ 43.4 ระบุว่า


 


ส่วนกิจกรรมที่ประชาชนตั้งใจจะทำในวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา คือตักบาตรร้อยละ 22.9 เวียนเทียนร้อยละ 18.9 ถวายสังฆทาน/ผ้าอาบน้ำฝนร้อยละ 9.9 ถวายเทียนพรรษาร้อยละ 9.1 รักษาศีล/ ปฏิบัติธรรมร้อยละ 9.1 ฟังเทศน์ฟังธรรม ร้อยละ 8.2 พักผ่อนอยู่กับบ้านร้อยละ 6.8 ปล่อยนกปล่อยปลาร้อยละ 6.1 ทานข้าวนอกบ้านกับครอบครัว/เพื่อนฝูงร้อยละ 3.7 เดินทางไปเที่ยวร้อยละ 3.2 อื่น ๆ เช่น การบริจาคโลหิต ไหว้พระตามวัดต่างๆ ร้อยละ 2.1


 


ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับผลสำรวจในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว พบว่า จำนวนประชาชนที่ตั้งใจจะไปตักบาตรในเทศกาลเข้าพรรษา มีจำนวนลดลง ร้อยละ 24.1 (จากเดิมคือร้อยละ 47.0)


 


เรื่องที่ประชาชนตั้งใจจะทำหรือปฏิบัติเป็นกรณีพิเศษตลอดระยะเวลา 3 เดือนของการเข้าพรรษานี้ ในอันดับแรก คือ งดเหล้า งดบุหรี่ งดการพนัน ร้อยละ 22.4 ต่อมารักษาศีล นั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรม ร้อยละ 16.9 หมั่นไปทำบุญที่วัด ถวายสังฆทาน ร้อยละ 12.8 เข้าวัดไหว้พระ ฟังธรรมให้มากขึ้น ร้อยละ 5.8 คิดดี พูดดี ร้อยละ 5.4 ตักบาตรทุกวันพระ ร้อยละ 4.9 ให้เวลากับตัวเอง ครอบครัว และพ่อแม่มากขึ้น ร้อยละ 2.8 ตั้งใจทำงาน ตั้งใจเรียนให้มากขึ้น ร้อยละ 2.7 อื่นๆ เช่น กินมังสวิรัติ ทำความสะอาดวัด บริจาคทาน ร้อยละ 4.7 ส่วนอีกร้อยละ 21.6 ใช้ชีวิตตามปกติโดยไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษ           


 


จากสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ ประชาชนร้อยละ 78.0 คิดว่าการทำบุญตักบาตรสามารถเป็นที่พึ่งทางใจให้กับตนได้   โดยให้เหตุผลว่า ช่วยให้สบายใจขึ้น จิตใจสงบ และไม่เครียด ในขณะที่ร้อยละ 22.0 คิดว่า การทำบุญตักบาตรเป็นที่พึ่งทางใจให้กับตนไม่ได้ เพราะสถานการณ์บ้านเมือง และเศรษฐกิจส่งผลกระทบรุนแรงเกินไป แม้จะทำบุญตักบาตรแล้วก็ยังไม่ช่วยให้สบายใจขึ้น


 


ในช่วงวันสำคัญทางศาสนานี้  ประชาชนต้องการให้นักการเมืองไทยเน้นปฏิบัติตามศีล 5 ข้อ ที่ว่าด้วยการ ไม่ลักทรัพย์ ฉ้อโกง หรือทุจริต คอร์รัปชัน มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 58.0 อันดับต่อมาไม่โกหก พูดปด หลอกลวง พูดหยาบคาย                       ร้อยละ 33.7 ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ไม่ดื่มสุรา ของมึนเมา ร้อยละ 4.8 ไม่ฆ่าสัตว์ หรือทำร้ายสิ่งมีชีวิตทุกประเภท ร้อยละ 2.7 ส่วนไม่ประพฤติผิดทางชู้สาว ร้อยละ 0.8                


 

ต่อคำถามที่ว่า ถ้าขอพรหรืออธิษฐานได้ สิ่งที่ประชาชนอยากจะอธิษฐานขอพร คือ ขอพรในเรื่องที่เกี่ยวกับตนเองและครอบครัว ร้อยละ 55.5 เช่น ขอให้ตนและคนในครอบครัวมีสุขภาพแข็งแรง ประสบความสำเร็จในชีวิต อีก ร้อยละ 39.6 ขอพรในเรื่องที่เกี่ยวกับสถานการณ์การเมือง เศรษฐกิจ สังคมรอบตัว เช่น ขอให้บ้านเมืองสงบสุข เกิดความสามัคคี เศรษฐกิจฟื้นตัว นักการเมืองทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และร้อยละ 4.9 ไม่มีเรื่องใดที่จะขอพรหรืออธิษฐาน
สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net