แถลงการณ์ส่วนตัวจากคอลัมน์ว่ายทวนน้ำ  "ใบตองแห้ง" ไทยโพสต์

ขอใช้เนื้อที่ออกแถลงการณ์ส่วนตัว เป็นตลกร้ายเนื่องจากเห็นใครต่อใครก็ออกแถลงการณ์กันเปรอะไปหมด

แถลงการณ์นี้ขอประณามนักออกแถลงการณ์โดยเฉพาะนักสิทธิมนุษยชน นักวิชาการที่เอียงไปเอียงมา (แถไปออกทีวีทุกช่อง) คนที่อ้างว่าเป็นกลางแต่เป็นอีแอบ ออกมาร้องแรกแหกกระเฌอว่ารัฐบาลใช้ความรุนแรงปราบปรามประชาชน

คือว่าถ้าสถานการณ์ครั้งนี้จบลงตามความมุ่งหมายของท่าน โดยเกิดรัฐประหารหรือความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองภายในวันเดียว ทำให้เกิดความสงบลง ก็แล้วไป ผิดหลักการหรือไม่ขี้เกียจพูด

แต่ถ้ามันไม่จบ ทั้งสองฝ่ายยังต่อสู้กัน ก็ต้องขอประณามนักประณามข้างเดียวว่า การที่ท่านทั้งหลายให้ท้ายพันธมิตรนั้นจะเป็นการสุมไฟให้เกิดความรุนแรงยิ่งขึ้น เกิดอาการได้ใจ เหมือนทำถูกทุกอย่าง

ผู้เป็นกลางและใฝ่สันติที่แท้จริง จะต้องประณามทั้งการที่พันธมิตรยกพลไปปิดล้อมรัฐสภา มุ่งหมายไม่ให้มีการแถลงนโยบาย ประณามการสลายการชุมนุมของตำรวจที่ทำให้มีผู้บาดเจ็บ แล้วก็ประณามพันธมิตรที่แทงตำรวจ ขับรถชนตำรวจ ไปพร้อมๆ กัน

ส่วนข้อเท็จจริงที่มีผู้บาดเจ็บก็ไม่ควรด่วนสรุป เช่น พันธมิตรที่ขาขาด แพทย์ยืนยันว่าไม่ใช่เพราะแก๊สน้ำตา แต่เพราะอะไร อย่าด่วนสรุปว่าตำรวจใช้ระเบิดเช่นกัน ตำรวจที่ถูกยิงก็ไม่ควรด่วนสรุปว่าเป็นฝีมือพันธมิตร ทั้งหมดต้องมีการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เป็นกลาง โดยเอาผู้สื่อข่าวสื่อมวลชนเป็นพยานสำคัญ

ทุกคนก็รู้ว่าพันธมิตรเดินเกมให้เกิดความรุนแรง จำลองออกไปให้จับ แล้วก็ระดมคนมาปิดล้อมรัฐสภา แน่นอน รัฐโดยตำรวจก็ใช้ความรุนแรง (จิ๋วสั่งเองแล้วจิ๋วลาออก โอ้ ขงเบ้ง) แต่เปรียบได้เหมือนคนกลุ่มหนึ่งในซอยไม่พอใจคนคนหนึ่งเชื่อว่าไอ้นี่มันชั่วมันเลว มาตะโกนด่ามัน เอาขี้มาปาหน้าบ้านมัน จอดรถปิดประตูบ้านมัน พอมันเหลืออด ต่อยปากโป้งเข้าให้ นักสิทธิมนุษยชนก็โดดเข้ามาประณามทันทีว่าใช้ความรุนแรง

นั่นเท่ากับคุณสนับสนุนให้มีการยั่วยุมากขึ้น จนไอ้บ้านนั้นมันสติแตก ชักปืนยิงเปรี้ยงๆ ตาย 3 เจ็บ 5 แล้วมันก็เข้าคุกสมใจ

จึงขอประณามด้วยความสะอิดสะเอียนทั้งหัวหงอกหัวดำ ที่ออกมาพูดหมาๆ ว่าเพราะประชาชนไม่พอใจระบบรัฐสภา เอ้า ไม่พอใจแล้วทำได้ทุกอย่าง สิทธิมนุษยชนประเทศไหน

ขอแสดงความเศร้าเสียใจต่อผู้บาดเจ็บเสียชีวิตทุกฝ่าย ไม่ว่าตำรวจ หรือประชาชน เพราะเหตุการณ์นี้ไม่ควรจะเกิดขึ้น ถ้ายึดหลักอหิงสาสันติวิธีจริงๆ

ใบตองเหี่ยว

แถลงการณ์ประณามการกระทำความรุนแรงของรัฐบาลที่มีต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์

จากเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น เมื่อเวลา 06.20 น. วันอังคารที่ 7 ตุลาคม พ.ศ.2551 ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมยิงแก๊สน้ำตานับ 100 นัด เข้าใส่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ชุมนุมอย่างสงบอยู่ด้านข้างรัฐสภาบริเวณ ถ.ราชวิถี และ ถ.พิชัย เพื่อสลายการชุมนุมและเปิดทางให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและคณะรัฐมนตรีสามารถเข้าร่วมประชุมการแถลงนโยบายของรัฐบาลที่รัฐสภา ในเวลา 09.00 น.นั้น ส่งผลให้มีประชาชนบาดเจ็บจำนวนมากและมีประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนขาขาด 1 ราย ซึ่งส่งผลกระทบทั้งทางด้านร่างกาย และจิตใจต่อผู้บาดเจ็บและครอบครัวอย่างรุนแรงยิ่ง

ทางเครือข่ายองค์กรทำงานด้านเด็ก เยาวชน และครอบครัว ขอประณามการกระทำความรุนแรงของรัฐบาลที่มีต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ทั้งที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลได้ออกมาแสดงท่าทีว่าต้องการเจรจาสมานฉันท์กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แต่การกระทำที่เกิดขึ้นในวันนี้ แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลไม่ได้มีความจริงใจในการจะแก้ไขปัญหาบ้านเมืองอย่างแท้จริง

นอกจากนี้ ทางเครือข่ายฯ ขอแสดงและประกาศจุดยืนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว บนเหตุผลสำคัญอย่างยิ่ง 2 ประการคือ

หนึ่ง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี หมดความชอบธรรมในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากปล่อยให้เกิดการกระทำความความรุนแรงต่อประชาชน เพียงเพื่อจะเปิดทางให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและคณะรัฐมนตรีเข้าไปประชุมแถลงนโยบายของรัฐบาลเท่านั้น

สอง การที่รัฐบาลปล่อยข่าวเป็นเท็จว่า ประชาชนที่บาดเจ็บขาขาดนั้นไม่ได้เกิดจากการกระทำของตำรวจ แสดงถึงการปัดปัญหาให้พ้นตัว โดยยังไม่มีความพยายามตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนแต่อย่างใด ซึ่งการกระทำเช่นนี้เป็นการย้อนรอยปัญหาอันจะก่อให้เกิดความรุนแรงที่บานปลายตามมาได้

ดังนั้นทางเครือข่ายฯ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยยุติบทบาทในฐานะผู้บริหารประเทศ ทั้งนี้เพื่อคืนความสงบเรียบร้อยให้แก่บ้านเมือง

เครือข่ายองค์กรทำงานด้านเด็ก เยาวชน และครอบครัว