Skip to main content
sharethis

การเมือง


 


"แม้ว" โฟนอินปทุมฯ อัดรบ.อยากมีอำนาจแต่ไร้ฝีมือ นัด "เสื้อแดง" ชุมนุมพร้อมแฉครั้งใหญ่ 22 มี.ค.
มติชนออนไลน์ - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 20.00 น.เมื่อวันที่ 18 มี.ค. พ.ต.อ.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โฟนอินเข้าที่ชุมนุมปราศรัยของกลุ่มเสื้อแดงประมาณ 400 คน ที่ตั้งเวทีบริเวณซอยพระสิทธิ ต.คูคต จ.ปทุมธานี ซึ่งมีนายสมบุญ ขุนทองไทย แกนนำกลุ่มเสื้อแดงรักประชาธิปไตย พร้อมด้วยนายอดิศร เพียงเกษ อดีตกรรมการบิรหารพรรคไทยรักไทย และนายชูชาติ หาญสวัสดิ์ ว่าที่ ร.ต.สุเมธ ฤทธาคนี นางพรพิมล ธรรมสาร ส.ส.เพื่อไทย ปทุมธานี ทั้ง 3 คน กล่าวทักทาย



พ.ต.อ.ทักษิณ กล่าวท่ามกลางเสียงปรบมือ ใจความว่า ตนตกเป็นเหยื่อของความไม่ถูกต้อง แต่จะอดทนและอยากบอกชาวโลกว่า ประชาธิปไตยนี่ใครก็พูดได้ แต่เค้าไม่เชื่อ พอไม่เชื่อความเสียหายทางเศรษฐกิจก็เกิดขึ้น คนไม่ลงทุน เพราะมองไม่เห็นอนาคตของประเทศไทย วันนี้ต้องยืนหยัดและเรียกร้องหาประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ถ้าไม่เช่นนั้น ความสุขของพี่น้องก็ไม่ได้กลับคืนมา



พ.ต.ท.ทักษิณยังกล่าวโจมตีองค์กรอิสระ ทหาร ศาลปกครอง และองคมนตรี รวมทั้งกล่าวถึงกลุ่มเสื้อเหลือง ตราบใดสองมาตรฐานเป็นอยู่อย่างนี้ ประเทศไทยไปไม่รอด และยังกล่าวโจมตีรัฐบาลประชาธิปัตย์ที่เริ่มไปกู้อีกและอีก 2-3 ปีจะอัดฉีดเงินเป็นล้านๆ จะไปกู้จากไหน อยากมีอำนาจแต่ไม่มีฝีมือ ในวันที่ 22 มีนาคม เสื้อแดงจะชุมนุมใหญ่ที่ จ.เชียงใหม่ จะพูดถึงปัญหาบ้านเมืองและพรรค เรื่องความเป็นจริงทั้งหลายที่ต้องพูด จากเชียงใหม่ก็มาต่อที่กรุงเทพฯ เรื่องที่ใครทำอะไรไว้ก็จะพูด ใครแน่จริงช่วยสวนกลับมา จะสวนกลับไปได้ถูก ตนสุภาพมานานแล้ว แต่วันนี้ยิ่งตนรู้ว่ายิ่งเงียบยิ่งถูกใส่ร้าย ต้องเอาความเป็นจริงมาสู่ประชาชนให้ได้


 


"ชุมพล" เชื่อวางบึ้มที่สุราษฎร์ฯ เพื่อดิสเครดิสรัฐบาล


เว็บไซต์แนวหน้า - ที่รัฐสภา นายชุมพล กาญจนะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี และประธานส.ส.พรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงการลอบวางระเบิดถึง 4 จุดในวันเดียวที่ จ.สุราษฎร์ว่า เท่าที่ได้รับรายงานเชื่อว่าเป็นการสร้างถานการณ์จากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่รู้ว่าต้องการหรือมีวัตถุประสงค์ใด แต่เชื่อว่าเป็นการส่งสัญญาณบางอย่าง ซึ่งบังเอิญว่ามาคาบเกี่ยวกับช่วงที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล แต่ยังไม่อยากมองไปไกลว่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์ทางการเมืองหรือไม่ ซึ่งตำรวจเองก็ทำหน้าที่เต็มที่อยู่แล้ว โดยยังไม่ได้ปักใจว่าจะเป็นฝ่ายไหน


 


เมื่อถามย้ำว่าเป็นการดิสเครดิตรัฐบาลเพื่อบั่นทอนความเชื่อมั่นโดยเฉพาะด้านความมั่นคง เพราะลักษณะการประกอบวัตถุระเบิดคล้ายกับที่มีการใช้ใน 3 จังหวัดภาคใต้ นายชุมพล ตอบว่า ยังไม่มองไปถึงขั้นนั้น แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นการประสงค์ที่จะดิสเครดิตรัฐบาล เพราะรัฐบาลกำลังแก้ไขปัญหาความเดือนร้อนของประชาชนอยู่ ยังไม่ได้ทำอะไรที่มีเงื่อนไขหรือการสร้างศัตรูในกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด


 



วันนี้ ส.ส.ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ได้บอกกับนายกฯและนายสุเทพไปแล้วว่า ควรต้องมีมาตรการเข้มงวดมากขึ้น และเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบเองก็ต้องทำงานหนักมากขึ้น ทั้งนี้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯด้านความมั่นคงและเป็นส.ส.เจ้าของพื้นที่เองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้ตำรวจและเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องได้เข้มงวดกวดขันและเร่งหาพยานหลักฐาน


 



เมื่อถามว่า ได้ประเมินหรือไม่ว่า การดำเนินการครั้งนี้เพื่อล้มรัฐบาล นายชุมพลตอบว่า พรรคไม่ได้มองไปไกลขนาดนั้นแต่เป็นการทำเพื่อดิสเครดิตอะไรบางอย่าง เมื่อถามว่า หลายฝ่ายมองว่ารัฐบาลสร้างสถานการณ์เอง นายชุมพลตอบว่า ไม่มีรัฐบาลไหนที่จะทำเรื่องเช่นนี้ โยเฉพาะรัฐบาลนี้ไม่เคยคิดในเรื่องเหล่านี้เลย และไม่คิดที่จะแบ่งแยกฝ่ายด้วยซ้ำเห็นได้จากความพยายามที่นายกฯสั่งการให้รัฐมนตรีเร่งลงพื้นที่เพื่อพบปะรับฟังปัญหาเยี่ยมเยียนประชาชน เพราะถือเป็นหน้าที่โดยไม่หวั่นวิตกว่าอะไรจะเกิดขึ้น ทอย่างไรก็ตามในขณะนี้ส.ส.เจ้าของพื้นที่ได้แต่สอบถามทางโทรศัพท์เพราะติดเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจฯ คิดว่าหลังการอภิปรายฯจะเร่งลงพื้นที่เพื่อพบชาวบ้านต่อไป


 


น้องหน. "เพื่อไทย" ยัน1000% เสื้อแดงไม่เกี่ยวบึ้มสุราษฏร์ธานี
มติชนออนไลน์ - นายสมพล วิชัยดิษฐ์ ประธานสาขาภาคใต้ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีเหตุระเบิดใกล้กับสาขาพรรคประชาธิปัตย์ ที่ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ว่า ขอยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่มีเสื้อแดงเข้ามาเกี่ยวข้องพันเปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ ตนก็เป็นคน อ.กาญจนดิษฐ์ เป็นน้องชายของหัวหน้าพรรค จึงไม่มีเหตุผลใด ๆ ที่จะไปทำให้บ้านวุ่นวาย จึงเห็นว่าเป็นปัญหาภายในของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ เพราะว่ามีหลานของนักการเมืองใหญ่ แถวปากกะแดะ ไปรุกล้ำป่าชายเลน เพื่อสร้างร้านอาหารและอาจจะไปขอให้ผู้มีอำนาจดำเนินการให้ แต่ไม่รับการตอบสนอง จึงสร้างความวุ่นวายขึ้น



"เรื่องความสงบแค่นี้ ยังไม่สามารถดูแลได้ แล้วจะไปดูแลบ้านเมืองได้อย่างไร พวกเรารู้ว่าปัญหาบ้านเมืองมีมากมาย จึงไม่อยากซ้ำเติม คิดว่า คนร้ายบังอาจวางระเบิดในเวลากลางวัน ถ้าไม่ใช่คนในพื้นที่แล้วจะเป็นใคร และคนที่ทำได้ขนาดนี้ จึงเป็นมืออาชีพ"


 


"ปธ.สภาฯ" ไฟเขียว ฝ่ายค้านขยายเวลาอภิปรายเพิ่มได้
มติชนออนไลน์ - นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยเมื่อวันที่ 18 มี.ค. ว่า หากฝ่ายค้านใช้เวลาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และ 5 รัฐมนตรีที่กำหนดไว้ ระหว่างวันที่ 19 - 20 มีนาคมนี้ไม่เเล้วเสร็จ ก็สามารถขยายเวลาการอภิปรายเพิ่มเติมได้ ซึ่งต้องเป็นไปตามมติของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรส่วนวันลงมติ ให้ที่ประชุมตกลงกันว่าจะเป็นวันไหน


 


เพื่อไทย นำรายชื่อ 140 ส.ส.พท. ยื่นให้ศาลฎีกาถอดถอน ป.ป.ช. กล่าวหา "สมชาย"


เว็บไซต์แนวหน้า - ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย นำรายชื่อ 140 ส.ส. พรรคเพื่อไทย ยื่นให้กับศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ผ่าน ประธานวุฒิสภา เพื่อขอให้ถอดถอน กรรมการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทั้ง 9 คน โดยเห็นว่า ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามกฎหมายอาญามาตรา 157


 



กรณีที่ ป.ป.ช. กล่าวหา นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ปลัดกระทรวงยุติธรรม ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีสั่งระงับเรื่องไม่ดำเนินคดีกับ อธิบดีกรมบังคับคดีและ รองอธิบดีกรมบังคับคดี ที่สั่งคืนเงินจำนวน 70 ล้านบาท ที่ได้จากการขายทอดตลาดของ ศาลจังหวัดธัญบุรี โดยมิชอบด้วยกฎหมาย โดยเห็นว่า ป.ป.ช. มุ่งหวังทำให้เสียหายแก่ประวัติการรับราชการ และทำลายความน่าเชื่อถือตลอดจนชื่อเสียงทางการเมืองของ นายสมชาย



"ชวรัตน์" ปัดข่าว "เจ๊หน่อย" เข้าภูมิใจไทย

มติชนออนไลน์ - ที่กระทรวงมหาดไทย นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.) และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่าคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และน.ส.ศิลัมพา เลิศนุวัฒน์ เข้าพรรคภูมิใจไทย ว่า ยังไม่ได้รับรายงาน โดยเบื้องต้นมี น.ส.ศุภมาศ อิสระภักดี อดีต ส.ส.ไทยรักไทย เข้ามาร่วมกับพรรคแล้วเพียงคนเดียว โดยจะมอบหมายให้ทำหน้าที่รองโฆษกพรรค ยืนยันว่าพรรคไม่คิดสู้กับพรรคการเมืองใด จะเดินหน้าทำงานเพื่อประเทศชาติเท่านั้น ส่วนจะมีส.ส.คนใดมาร่วมกับพรรคเพิ่มเติมอีกหรือไม่ยังไม่ทราบ อย่างไรก็ตาม เป็นไปได้ว่าหลังการอภิปรายเสร็จสิ้นจะมีส.ส.บางส่วนสมัครเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคเพิ่มขึ้นอีก


 


ส่วนการที่พรรคภูมิใจไทยตั้ง 12 ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ให้ช่วยดูแลข้อมูลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น นายชวรัตน์ กล่าวว่า เป็นเรื่องมติของที่ประชุมพรรค ส่วนตัวมั่นใจว่าสามารถชี้แจงได้ทุกประเด็น เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการทำหน้าที่ของตน ไม่น่ามีปัญหาอะไรที่ต้องกังวล ส่วนสส.พรรคจะยกมือโหวตอย่างไรนั้น ให้ถือเป็นเอกสิทธิ์ของสส.แต่ละคน ไม่มีการสั่งการใดๆเป็นพิเศษ


 


เมื่อถามถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะนัดชุมนุมเร็วขึ้น นายชวรัตน์ กล่าวว่า ไม่น่าจะมีผลใดๆ เพราะช้าหรือเร็วกลุ่มเสื้อแดงก็มีการชุมนุมอยู่แล้ว โดยตนได้กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเข้าไปติดตามความเคลื่อนไหวและรายงานให้ทราบ เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา โดยจะไม่มีการสกัดกั้น แต่จะเน้นทำความเข้าใจกับประชาชน ส่วนเรื่องการจัดโซนนิ่งกลุ่มเสื้อแดงนั้น ก็เป็นการพูดกันในเบื้องต้น ซึ่งต้องดูว่าได้ผลแค่ไหน


 


ดีเอสไอส่งข้อมูลเงินปชป.ให้กกต.แล้วเชื่อยืมมือหาข้อมูลเพิ่ม


เว็บไซต์คมชัดลึก - นางสดศรี สัตยธรรม กกต. กล่าวว่า ในวันนี้ เจ้าหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้นำสำนวนกรณีเงินบริจาค 258 ล้านบาท และกรณีการใช้จ่ายเงินกองทุนพัฒนาพรรคการเมืองจำนวน 23 ล้านบาท


 


ในปี 2548 ของพรรคประชาธิปัตย์ จำนวนสองกล่อง มามอบให้กับนายทะเบียนพรรคการเมืองแล้ว ซึ่งทราบว่า นายทะเบียนจะให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบว่า กกต. มีอำนาจในการพิจารณาคดี ที่ทางดีเอสไอส่งมาให้หรือไม่ เพราะบางเรื่องเกี่ยวข้องกับความผิดตาม พรบ.หลักทรัพย์ ซึ่ง กกต. มีหน้าที่ดูแลความผิดเฉพาะ ที่เกี่ยวกับ พรบ.พรรคการเมืองเท่านั้น


 


"เช่นดูว่า การใช้เงินกองทุนใช้ผิดวัตถุประสงค์ การรับเงินบริจาคมีการเปิดเผยถูกต้องหรือไม่ ระยะเวลาการตรวจสอบคงไม่นาน และเมื่อนำเข้าที่ประชุม กกต.ในสัปดาห์หน้า คงเป็นดุลยพินิจว่า จะตั้งอนุกรรมการขึ้นมาสอบสวนหรือไม่"


 


ผู้สื่อข่าวถามว่า การมอบข้อมูลในครั้งนี้ เป็นการยืมมือ กกต.ในการหาข้อมูลเพิ่มเติมหรือไม่ นางสดศรี กล่าวว่า ก็แปลกเหมือนกัน แต่จากที่ดีเอสไอเคยเข้าพบ ก็บอกว่า ดีเอสไอดำน้ำมาใกล้ก้นทะเลแล้ว ให้ กกต.ดำน้ำต่อ


 


เมื่อถามต่อว่า การยื่นครั้งนี้ ดีเอสไอไม่ได้เป็นผู้เสียหาย จะมีสิทธิยื่นคำร้องตามกฎหมายหรือไม่ นางสดศรีกล่าวว่า ในเมื่อเงินกองทุนเป็นเงินหลวง ก็เป็นเรื่องที่ตำรวจดำเนินการได้ ดีเอสไอก็เป็นตำรวจ ซึ่งเขาบอกว่า เขาสืบสวนมาก่อนที่รัฐบาลนี้ จะเข้ามาบริหารด้วยซ้ำ


 


นางสดศรี กล่าวด้วยว่า หากการสืบสวน พบว่า พรรคไม่ได้นำเงินกองทุนฯ ไปใช้จ่ายตามแผนงานโครงการ ที่ขออนุมัติ กฎหมายก็กำหนดให้เรียกเงินคืน และเป็นเหตุให้นายทะเบียน ยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค ซึ่งเหตุเช่นนี้ เกิดขึ้นมาแล้วกับ 40 พรรคการเมือง แต่หากได้รับเงินบริจาค แล้วไม่เปิดเผยหรือรายงานให้ กกต.ทราบ กฎหมายก็กำหนดให้ กรรมการบริหารและหัวหน้าพรรค ต้องถูกดำเนินคดีอาญา


 


"DSI.-..ท.-..ง." เตรียมส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบการบริหารงาน "กบข."


เมื่อวันที่ 18 มี.ค.นายธาริต เพ็งดิษฐ์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กล่าวว่า ยังไม่ได้รับกรติดต่อจากเลขาฯ ก.บ.ข.หรือประธานบอร์ด กบข.เข้าใจว่าคงต้องรอผลการประชุมของบอร์ด กบข.ในวันที่ 20 มี.ค.ว่าจะเห็นชอบให้ ป.ป.ท.เข้าไปตรวจสอบหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าทาง กบข.จะให้ ป.ป.ท.เข้าตรวจสอบหรือไม่ ป.ป.ท.ในฐานะมีหน้าที่ตามกฎหมายจะเข้าไปตรวจสอบแน่นอน ได้หารือกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม ถึงการเชิญกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 7 หน่วยงาน ส่วนแนวทางการทำงาน ป.ป.ท.จะเป็นเหมือนเจ้าภาพ เมื่อดีเอสไอ ปปง.เข้ามาจะเป็นการตรวจสอบในคราวเดียวกันเป็นทีมใหญ่ ส่วนประเด็นการตรวจสอบต้องหารืออีกครั้ง เบื้องต้นจะตรวจสอบการบริหารทั้งหมด



 


นายธาริต กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีเพียงข้อมูลการลงทุนในภาคเอกชนเสียหายจำนวนมาก รวมทั้งข้อมูลอื่นอีกจำนวนหนึ่ง ต่อข้อถามว่า กบข.แย้งว่ากองทุนข้าราชการในต่างประเทศ ก็ขาดทุนในลักษณะเดียวกับ กบข.เหมือนกันจากเศษรฐกิจโลกตกต่ำ



 


นายธาริต กล่าวว่า อยากถามว่ากองทุนประกันสังคมของไทยทำไมถึงได้กำไร 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการลงทุนลักษณะเดียวกัน ต่อข้อถามว่า เครือข่าย กบข.ยื่นข้อเสนอให้รัฐบาลยกเลิกกองทุนและคืนเงินรวมทั้งชดใช้ค่าเสียหายให้สมาชิก กบข.


 



นายธาริต กล่าวว่า เป็นความคิดเห็นของสมาชิกที่จะแสดงออกได้ ขณะนี้นายกรณ์ จติกวณิช รมว.คลัง กำลังตั้งกรรมการ 2 ส่วน คือ1.ตรวจสอบการบริหาร 2.ตรวจสอบข้อร้องเรียน ส่วนของ ป.ป.ท.ได้หารือแนวทางเบื้องต้นกับ รมว.ยุติธรรม ท่านก็เห็นชอบตามหลักการ


 


 


เศรษฐกิจ


 


เงินในประเทศเหลือเฟือ "มาร์ค" ปรับเงินช่วยประเทศเพื่อนบ้าน


เว็บไซต์แนวหน้า - นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (กพบ.) นัดแรก ได้เห็นชอบให้เดินหน้าการให้ความช่วยเหลือกับประเทศเพื่อนบ้านต่อไปแม้จะมีปัญหาด้านรายได้จากภาวะวิกฤต แต่ให้ปรับปรุงรายละเอียดให้เหมาะสม เช่น อาจขยายเวลาการให้เงินกู้ออกไปให้นานขึ้น เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในช่วงที่การจัดเก็บรายได้มีปัญหา โดยในช่วง 3 ปี (ปีงบประมาณ 53-55) ไทยเตรียมให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษ กับเพื่อนบ้านใน 6 โครงการ วงเงินกว่า 3,000 ล้านบาท และเป็นเงินให้เปล่าประมาณ 600 ล้านบาท


 



นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้มีการบูรณาการระหว่างภาครัฐและเอกชน ในการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านโดยภาครัฐต้องสร้างโอกาสให้เกิดการเชื่อมโยงให้เอกชนเข้าไปลงทุน รวมทั้งต้องเชื่อมโยงทั้งด้านการค้า การลงทุน สาธารณูปโภคระหว่างกันด้วยการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ คุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม สังคมและเศรษฐกิจในเชิงสร้างสรรค์ร่วมกันในภูมิภาค


 



สำหรับ 6 โครงการที่ไทยเตรียมให้เงินกู้กว่า 3,000 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการก่อสร้างเส้นทางรถไฟไทย-ลาว ระยะที่ 2 (ท่านาแล้ง-เวียงจันทน์) ระยะทาง 10 ก.ม. วงเงินรวม 1,004 ล้านบาท, โครงการพัฒนาเส้นทางภูดู่-เมืองปากลาย สปป.ลาว ระยะทาง 33 ก.ม.และเห็นชอบให้ยกระดับจุดผ่อนปรนภูดู่ จ.อุตรดิตถ์ เป็นด่านถาวร ,โครงการก่อสร้างเส้นทางหมายเลข 11 (สามแยกสีไค-น้ำสังและเมืองสังทอง) แขวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ระยะทาง 92 ก.ม. วงเงินกู้ 684 ล้านบาท ,โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่โขง (เชียงของ-ห้วยทราย) วงเงิน 1,414 ล้านบาท แยกเป็นวงเงินกู้ และเงินให้เปล่าอย่างละ 50% ,โครงการพัฒนาเส้นทางเมียวดี-กอกะแรก ระหว่างไทย-พม่า ระยะทาง 18 ก.ม. วงเงิน 812 ล้านบาท และโครงการพัฒนาเส้นทางหมายเลข 68 (ช่องจอม-โอเสม็ด-สำโรง-กลอรันห์) วงเงิน 1,400 ล้านบาท


 


รมว.ท่องเที่ยวฯ เสนอรัฐชะลองดเหล้าช่วงสงกรานต์
มติชนออนไลน์ - นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เห็นว่า รัฐบาลควรจะชะลอมาตรการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์อย่างน้อย 1 ปี เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันจำเป็นต้องนำรายได้จากภาคท่องเที่ยวมาชดเชยรายได้จากภาคการลงทุนและการส่งออก เนื่องจากเป็นรายได้ที่ฟื้นตัวหลังเกิดวิกฤตต่างๆ ได้ง่ายกว่าภาคอื่น และสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้เร็วที่สุด ขณะที่การลงทุนและการส่งออกนั้นฟื้นตัวยาก
 


ก่อนหน้านี้ ในการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายแอลกอฮอล์แห่งชาติ ไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้ เนื่องจากเห็นว่าอาจจะกระทบกับพฤติกรรมการท่องเที่ยวของต่างชาติ และกระทบต่อรายได้จากการท่องเที่ยว ซึ่งหากจำเป็นต้องมีการศึกษาให้ละเอียดถี่ถ้วนหากมีการประกาศใช้จริง เพราะอาจทำให้เกิดการกักตุนมากกว่าการลดอุบัติเหตุ


 


การบินไทยย้ายกลับสุวรรณภูมิตามแผน


เว็บไซต์เดลินิวส์ - นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.ไม่ได้หารือเรื่องการย้ายสนามบิน ซึ่งประเด็นเกี่ยวกับสนามบินต้องแยกเป็น 2 ประเด็น คือ เรื่องสายการบิน โดยในส่วนของสายการบินไทย ขึ้นอยู่กับสายการบินไทยว่าจะตัดสินใจอย่างไร ที่ผ่านมาครม.เศรษฐกิจได้ให้ข้อคิดเห็นไปแล้ว ส่วนนโยบายเกี่ยวกับสนามบิน ยังไม่มีข้อสรุป โดยต้องรอให้กระทรวงคมนาคม ส่งรายละเอียดมาให้พิจารณาอีกครั้งภายใน 2 สัปดาห์นี้


 



นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ที่ประชุมครม.ได้รับทราบถึงแผนการย้ายสายการบินไทยจากสนามบินดอนเมืองไปยังสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว ซึ่งที่ประชุมไม่ได้มีใครโต้แย้งแต่อย่างใด ส่วนแผนการใช้สนามบินเดียวและสนามบินคู่ รวมทั้งการใช้ประโยชน์จากสนามบินดอนเมืองนั้น ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมารับผิดชอบ มีนายสุรชัย ธารสิทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานทำหน้าที่รวบรวมข้อดีข้อเสียของการใช้สนามบินเดียวและจะเสนอให้นายกรัฐมนตรีรับทราบภายใน 2 สัปดาห์หรือในช่วงปลายเดือนมี.ค.หรือต้นเดือนเม.ย.ให้รับทราบ


 



อย่างไรก็ตามเรื่องการย้ายสายการบินไทยไปสุวรรณภูมิ ถือเป็นการพิจารณาของฝ่ายบริหารการบินไทยเป็นแผนการลดต้นทุนที่ต้อง การให้องค์กรประหยัดค่าใช้จ่ายและได้รับประ โยชน์มากที่สุด ซึ่งไม่จำเป็นต้องรอเข้าบอร์ดบริษัทชุดใหม่มาพิจารณา เป็นสิ่งที่ดำเนินการได้รวมถึงไม่ต้องรอให้ครม.ตัดสินใจ ซึ่งที่ผ่านมาครม.ก็มีนโยบายให้บริษัทเป็นฝ่ายตัดสินใจเอง


 



สำหรับรายชื่อบอร์ดชุดใหม่คาดว่า คณะกรรมการสรรหาเสนอรายชื่อมายังตนในวันที่ 18 มี.ค.นี้.


  


เลื่อนคัดบอสใหม่ "อสมท" เผยชื่อว่าที่ 5 บอร์ดชุดใหญ่


ASTV ผู้จัดการรายวัน - นายธงทอง จันทรางศุ รองประธานกรรมการบอร์ด และประธานกรรมการสรรหา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า วานนี้ (18 มี.ค.) ทางบอร์ดอสมท ได้มีการประชุมวาระพิเศษขึ้น โดยมีการพิจารณาใน 2 เรื่องหลัก คือ 1.วาระเพื่อทราบ เกี่ยวกับรายชื่อผู้สมัครเป็นกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท จำนวนทั้งหมด 14 ราย ซึ่งทางบอร์ดได้พิจารณาเรียบร้อยแล้วและให้มีการดำเนินการสรรหาในขั้นตอนต่อไปได้


 


ทั้งนี้ในวันอังคารที่ 24 มี.ค.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการสรรหาฯในเรื่องดังกล่าว เกี่ยวกับการตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้นของผู้ที่มาสมัครทุกราย ว่าจะมีรายใดบ้างที่ผ่านการคัดเลือกจำนวนกี่ราย ซึ่งแต่เดิมจะมีการพิจารณาในวันศุกร์ที่ 20 มี.ค.แต่เนื่องจากผู้สมัครบางรายยังขาดเอกสารการสมัครบางรายการ จึงได้เลื่อนการพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติออกไปเป็นวันอังคารที่ 24 มี.ค.แทน


 


ส่วนในวาระที่ 2.ของการประชุมเมื่อวานนี้ เป็นวาระเห็นชอบ เกี่ยวกับรายชื่อบุคคลที่ได้รับการเสนอให้ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ประจำปี 2552 ในเดือนเม.ย.ที่จะถึงนี้ เพื่อพิจารณาเลือกตั้งเป็นกรรมการแทนกรรมการที่ออกจากตำแหน่งตามวาระต่อไป


 


โดยทั้ง 5 รายชื่อที่ได้รับการพิจารณาเห็นชอบจากบอร์ดครั้งนี้ คือ 1.นายสุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 2.นายธีรศักดิ์ สุวรรณยศ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย 3.นายญาณศักดิ์ มโนมัยพิบูลย์ กรรมการบริหาร บล.บัวหลวง 4.นางดารณี เจริญรัชต์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บ.มาร์เก็ตไวส์ จำกัด และนางมัทนา เหลืองนาคทองดี ที่ปรึกษาการสื่อสารองค์กร เครือซิเมนต์ไทย (SCG)


 


ขณะที่ 5 รายชื่อกรรมการบอร์ดเดิม ที่จะหมดวาระการทำงานลงในปีนี้ ได้แก่ 1.นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ประธานกรรมการบอร์ด 2.นายธงทอง จันทรางศุ รองประธานกรรมการบอร์ด 3.นายประสาน หวังรัตนปราณี กรรมการ 4.นายนฤนารท พระปัญญา กรรมการ และ 5.นายปราโมทย์ โชคศิริกุลชัย กรรมการ





คุณภาพชีวิต


 


สาทิตย์โละผังเอ็นบีที ผุดทีวีแห่งชาติ 1 เม.ย.


เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ - สาทิตย์ วงศ์หนองเตยนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันที่ 23 มี.ค. จะประชุมร่วมกับสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที หรือช่อง 11 เดิม เพื่อเตรียมประกาศเป็นสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ โดยต้องเป็นสื่อที่ทำหน้าที่แก้ปัญหาวิกฤตของชาติได้ ไม่ใช่แค่พอมีการปฏิวัติรัฐประหารก็พร้อมออกมาเป็นกระบอกเสียง


 



"จะมีการเปลี่ยนผังใหม่หมด โดยจะปรับทีมผู้ประกาศหรือผู้ดำเนินรายการให้มีความทันสมัยมากขึ้น และเน้นให้กรมประชาสัมพันธ์ต้องมีสถานะในการร่วมผลิตเท่าๆ กัน แต่ก็ยังกังวลเรื่องการพัฒนาศักยภาพของคนทำข่าวในกรมประชาสัมพันธ์ เพราะมีการแข่งขันกันมาก ซึ่งภาคเอกชนไปไกลแล้ว" นายสาทิตย์ กล่าว



 


รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวต่อว่า การปรับผังรายการคาดจะแล้วเสร็จในสัปดาห์นี้เพราะมีเอกชนเสนอตัวเข้ามาเพียง 2 บริษัท โดยเป็นบริษัทใหม่ 1 บริษัท และบริษัทเก่าแต่เปลี่ยนชื่อใหม่อีก 1 บริษัท



นายสาทิตย์ กล่าวว่า วันที่ 1 เม.ย.จะมีการเปิดตัว โดยมีระยะเวลา 3 เดือน เมื่อครบ 3 เดือนจะมีการประเมินผลว่าผังรายการที่ทำออกมาเป็นอย่างไร


 


5 ปี คนไทยหนี้เพิ่ม 34,196 บาท


เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ - สำนักงานสถิติแห่งชาติ เผย ครัวเรือนมีหนี้สินเฉลี่ย 116,681 บาท คิดเป็นร้อยละ 63.3 ในรอบ 5 ปี เพิ่ม 34,196 บาท นางธนนุช ตรีทิพยบุตร เลขาธิการสถิติแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือนครั้งล่าสุด เมื่อปี 2550 ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า ครัวเรือนที่มีหนี้สินมีร้อยละ 63.3 โดยมีหนี้สินเฉลี่ยครัวเรือนละ 116,681 บาท และเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2545 ซึ่งมีหนี้สินเฉลี่ยครัวเรือนละ 82,485 บาท


 


คาดว่าในช่วงเวลาผ่านไป 5 ปี คนไทยมีหนี้เพิ่มขึ้น 34,196 บาท ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงมาก ดังนั้น สำนักงานสถิติแห่งชาติ จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกไปเก็บรวบรวมข้อมูลจากครัวเรือนในทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อติดตามสถานการณ์เรื่องนี้อีกครั้ง ทั้งในเรื่องรายได้ ค่าใช้จ่าย และหนี้สิน โดยจะทำการเก็บข้อมูลทุกเดือน เพื่อจัดส่งข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้ในการแก้ปัญหาหนี้สินและความยากจนให้กับประชาชน


 



ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงพาณิชย์ ธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะนำข้อมูลไปใช้กำหนดนโยบายวางแผน ทั้งในด้านประชากร สาธารณสุข การจัดหาสวัสดิการต่าง ๆ เช่น จัดทำเส้นความยากจน ส่งเสริมการออม จัดสวัสดิการด้านการรักษาพยาบาล การสงเคราะห์คนพิการ จัดทำงบประมาณโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ตลอดจนจัดทำดัชนีราคาผู้บริโภค ฯลฯ


 



นางธนนุช กล่าวย้ำว่า จากผลการสำรวจที่ผ่านมา แสดงให้เห็นสถานการณ์ด้านหนี้สินของประชาชนที่เพิ่มขึ้นตามลำดับ ซึ่งถือเป็นหน้าที่สำคัญของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ที่จะต้องค้นหาความเป็นจริง เพื่อสะท้อนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหามาตรการช่วยเหลือ ว่าจะทำอย่างไรให้มีหนี้สินลดลงได้ และหาแนวทางแก้ปัญหาอย่างจริงจังต่อไป


 


รมช.ศึกษาเสนอเพิ่มค่าครองชีพเงินกู้กยศ.
มติชนออนไลน์ - น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยถึงผลการประชุมหารือเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหากรณีนักศึกษาไม่สามารถกู้เงินจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ในปีการศึกษา 2551 ว่า ตนได้เสนอให้ กยศ.ปรับเงินกู้ยืมในส่วนของค่าครองชีพเพิ่มขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจและสถานที่ตั้งของสถานศึกษา ขณะนี้นักเรียนในระดับมัธยมศึกษาได้เงินค่าครองชีพอยู่ที่เดือนประมาณละ 1,000 บาท ระดับมหาวิทยาลัยอยู่ที่ประมาณ 3,000 บาท ตนมองว่าน้อยมากและอาจไม่พอใช้ โดยเฉพาะในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน อีกทั้งยังมองว่าเด็กที่เรียนในต่างจังหวัดและเด็กที่เรียนในเมืองก็มีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกัน จึงอยากให้ กยศ.พิจารณาเพิ่มงบในดังกล่าวด้วย โดยเฉพาะในระดับมหาวิทยาลัยที่ไม่ได้รับเงินอุดหนุนรายหัวเหมือนในระดับมัธยม ขอให้ กยศ.นำเรื่อเข้าหารือในการประชุมคณะกรรมการ กยศ.วันที่ 26 มีนาคม 


 


รัฐบาลพร้อมกดปุ่มประกาศจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในงานวันผู้สูงอายุแห่งชาติ 9 เม.ย.นี้


สำนักโฆษก - วันนี้ เวลา 15.00 น. ณ ห้องประชุมงบประมาณ อาคารรัฐสภา 3นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ได้มอบหมายให้นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ปฏิบัติหน้าที่(แทน) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2552 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผลการประชุมสรุปสาระสำคัญ ดังนี้


 


ที่ประชุมรับทราบการรับจดทะเบียนผู้สูงอายุระหว่างวันที่ 26 กุมภาพันธ์ -15 มีนาคม 2552 จำนวนผู้สูงอายุที่มาขึ้นทะเบียนทั้งหมด (ข้อมูล ณ วันที่ 18 มีนาคม 2552) การขึ้นทะเบียนตามระเบียบคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ พ.ศ.2552 ดังนี้ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (75 จังหวัด) จำนวน 2,527,014 คน กรุงเทพมหานคร (50 เขต) จำนวน 438,170 คน และเมืองพัทยา จำนวน 4,082 คน รวมทั้งสิ้น 2,969,266 คน


 


พร้อมกันนี้ที่ประชุมเห็นชอบในการประกาศสดุดีศาสตราจารย์ท่านผู้หญิงพูนทรัพย์ นพวงศ์ ณ อยุธยา อายุ 99 ปี เป็นผู้สูงอายุแห่งชาติ พุทธศักราช 2552 ตามมติคณะอนุกรรมการสรรหาผู้สูงอายุที่เป็นแบบอย่างที่ดีในสังคม โดยท่านได้ดำรงตนและดำเนินชีวิตตามหลักสัปปุริสธรรม และเป็นผู้ก่อตั้งคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมทั้งยังเป็นคณบดีหญิงคนแรกของคณะครุศาสตร์ฯ ด้วย และเห็นชอบเรื่องพิธีกดปุ่มประกาศจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในงานวันผู้สูงอายุแห่งชาติ ปี 2552 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 9 เมษายน 2552 ณ ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกดปุ่มประกาศการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุทั่วประเทศ


 


ครูเอกชนตบเท้าบุกศธ.เรียกร้องวิทยฐานะ-ค่าครองชีพ
มติชนออนไลน์ -
ครูโรงเรียนเอกชนกว่า 1,500 คน นำโดยนายยืนยง จิรัฎฐิติกาล ผู้แทนครูโรงเรียนเอกชนในคณะกรรมการคุรุสภา ในฐานะแกนนำครู ได้ชุมนุมติดตามความคืบหน้า 4 ข้อเรียกร้องที่เคยยื่นต่อนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เมื่อวันที่ 18 มีนาคม


 


นายยืนยง กล่าวว่า ครูโรงเรียนเอกชนเรียกร้อง 4 ข้อ แต่ได้รับการตอบสนองเพียงข้อเดียว คือเรื่องเงินค่าครองชีพช่วยเหลือผู้ที่ประกันตนเองและมีรายได้ไม่เกิน 15,000 บาท โดยได้รับเงินช่วยเหลือคนละ 2,000 บาทครั้งเดียว แต่ข้อเรียกร้องอื่นอีก 3 ข้อ ได้แก่ 1.ออกประกาศศธ.ว่าด้วยเงินวิทยฐานะของผู้บริหารและครูโรงเรียนเอกชน โดยใช้เกณฑ์การประเมินเช่นเดียวกับครูภาครัฐ ผู้บริหารและครูโรงเรียนเอกชนทั่วประเทศมีประมาณ 120,000 คน ถ้าครูขอรับการประเมิน 10% ของครูทั้งหมด รัฐจะใช้งบฯ เพียง 350 ล้านบาท


 


2.รัฐบาลชุดที่แล้วมีนโยบายให้ความช่วยเหลือค่าครองชีพแก่ข้าราชการและครูโรงเรียนเอกชน ที่ได้รับเงินเดือนและค่าครองชีพขั้นต่ำที่ไม่เกิน 7,700 บาท/เดือน ให้เพิ่มอีก 500 บาท/เดือน เป็น 8,200 บาท/เดือน โดยแต่ละระดับจะบวกเพิ่มขึ้นประมาณ 6% จนถึงเพดานที่ปรับใหม่เป็น 11,700 บาท/เดือน จากเดิมอยู่ที่ 11,000 บาท/เดือน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2551 - กันยายน 2552 แต่ครูโรงเรียนเอกชนยังไม่ได้รับจัดสรรเงินดังกล่าว ซึ่งตามฐานข้อมูล มีครูเอกชนมีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือค่าครองชีพ จำนวน 89,816 คน จากจำนวนครูเอกชนทั้งหมด 120,000 คน


 


3.ขอให้ปรับแก้ระเบียบว่าด้วยกองทุนสงเคราะห์ครูใหญ่และครูโรงเรียนเอกชน ให้สอดคล้องกับสภาวะปัจจุบัน โดยจากเดิมได้จ่ายเงินช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลแก่ครูเอกชน คนละ 100,000 บาท/ปี ไม่รวมคู่สมรส บุตร บิดามารดา จึงขอให้แก้ไขระเบียบให้ครอบคลุมบุคคลเหล่านั้นด้วย ส่วนวงเงิน จะเพิ่มขึ้นหรือเท่าเดิมก็ได้


 


เตรียมแต่งตั้งพระบัณฑิตเผยแพร่พระพุทธศาสนาทั่ว ปท.


มติชนออนไลน์ - นายพนม ศรศิลป์ ผู้อำนวยการกองพุทธศาสนศึกษา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 18 มีนาคมว่า สำนักงาน พศ.ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) ทั่วประเทศ ให้หารือกับเจ้าคณะจังหวัดทั้งฝ่ายมหานิกาย และธรรมยุต เพื่อแต่งตั้งพระบัณฑิตเผยแผ่พระพุทธศาสนา โดยพระบัณฑิตต้องจบการศึกษาระดับอุดมศึกษาจากมหาวิทยาลัยสงฆ์ หรือจบเปรียญธรรม 9 ประโยค (ป.ธ.9) แต่ถ้าไม่ได้จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสงฆ์ ก็จะต้องมีวุฒิการศึกษานักธรรมชั้นเอกและเปรียญธรรม 3 ประโยคขึ้นไป


 


 


ต่างประเทศ


 


เผยจำนวนเหยื่อถูกทหารสหรัฐข่มขืนยังคงเพิ่มขึ้น
มติชนออนไลน์ - สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 18 มี.ค.ว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนเหยื่อถูกทำร้ายทางเพศจากทหารกองทัพสหรัฐในประเทศ เพิ่มขึ้น 8 % ส่วนในอิรักและอัฟกานิสถาน ซึ่งมีทหารสหรัฐประจำการกว่า 170,000 นาย เพิ่มขึ้น 26 % หรือเพิ่มขึ้น 165 คน จำนวนนี้ 2 ใน 3 บอกว่า ตกเป็นเหยื่อถูกข่มขืนหรือทำร้ายทางเพศ


 


อย่างไรก็ตาม กระทรวงกลาโหมสหรัฐระบุว่า ตัวเลขดังกล่าวนับเป็นเรื่องดีเนื่องจากมีการร้องแจ้งภัยถูกคุกคามมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้ทางการสามารถบำบัดเยียวยาเหยื่อได้


 


ทั้งนี้ เมื่อปีที่แล้ว มีเหยื่อถูกทำร้ายทางเพศ 2,763 ราย แต่มีการพิพากษาลงโทษเพียง 832 ราย จำนวนนี้เป็นการขึ้นศาลทหาร 317 คดี


 


ชาวฮินดูขวาจัดต่อต้านรูปปั้น "ชาร์ลี แชปลิน"


ASTV ผู้จัดการรายวัน - เอเอฟพี - หลังกลายเป็นข่าวครึกโครมมาระยะหนึ่ง จากการประท้วงต่อต้านผู้หญิงที่เข้าสถานเริงรมย์ ตลอดจนการรณรงค์คัดค้านการเฉลิมฉลองเทศกาลวาเลนไทน์ มาครั้งนี้กลุ่มชาวฮินดูชาตินิยมในอินเดีย กำลังเล็งไปที่อีกเป้าหมายหนึ่งซึ่งใครๆ ก็คงนึกไม่ถึง - - นั่นคือ รูปปั้นของชาร์ลี แชปลิน


 


สมาชิกพรรคฝ่ายขวาจัดในรัฐกรณาฏกะทางภาคใต้ของอินเดีย เคลื่อนไหวคัดค้านการก่อสร้างรูปปั้นความสูง 20 เมตร ของสุดยอดตำนานนักแสดงตลกชื่อดังระดับโลก สำหรับใช้เข้าฉากในภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง


 


กลุ่มชาวฮินดูคลั่งชาติเหล่านี้บอกว่า การสร้างรูปปั้นของดาวตลกชาวอังกฤษ บริเวณใกล้ๆ วิหารแห่งหนึ่งที่เมืองอูดูพี ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองบังคาลอร์ 400 กิโลเมตรนั้น ถือเป็นการลบหลู่ดูหมิ่น โดยแย้งว่า แชปลินเป็นชาวคริสเตียน และไม่เคยช่วยเหลือจุนเจืออินเดียเลย


 


อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดนี้ ทำให้บรรดาสาวกแชปลินกริ้วโกรธอย่างมาก


 


คณะผู้สร้างภาพยนตร์และบุคคลผู้มีชื่อเสียงในแวดวงวัฒนธรรมต่างโดดเข้ามามีส่วนร่วมในเรื่องนี้ด้วย โดยคัดค้านว่า รูปปั้นของแชปลินไม่มีความเกี่ยวพันใด ๆ กับศาสนาเลย อีกทั้งการสั่งห้ามอาจริดรอนสิทธิเสรีภาพทางศิลปะด้วย


 


รัฐบาลท้องถิ่นได้รับการเรียกร้องเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีการร้องเรียนทางอินเตอร์เน็ตด้วย เพื่อวิงวอนให้ผู้คนทั่วไปช่วยให้แชปลินรอดพ้นจาก "พวกจอมเผด็จการเหล่านี้"


 


ทั้งนี้ การเอ่ยถึง "จอมเผด็จการ" เป็นความตั้งใจที่จะชวนให้ระลึกถึงภาพยนตร์ชื่อดังเรื่องหนึ่งของแชปลินที่ใช้ชื่อเรื่องว่า "จอมเผด็จการ" โดยเนื้อหาของหนังเป็นการล้อเลียนเสียดสี อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำลัทธินาซี


 


มาดากัสการ์ได้ ปธน.ใหม่


เว็บไซต์สยามรัฐ (18 มี.ค.52) อันตานานา-ริโว - นายแอนดรี ราโจลินา ผู้นำฝ่ายค้านของมาดากัสการ์ประกาศผ่านทางช่องโทรทัศน์แอลซีไอ ของฝรั่งเศส เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า ขณะนี้เขาได้กุมอำนาจการบริหารประเทศ และก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของมาดากัสการ์แล้ว หลังนายมาร์ก ราวาโลมานานา อดีตประธานาธิบดี วัย 34 ปี พร้อมนายกรัฐมนตรีและคณะ ประกาศลาออกเนื่องจากถูกทหารก่อรัฐประหารยึดอำนาจ โดยรัฐบาลของเขาจะจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีใหม่ภายใน 2 ปี

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net