เสียงจากฝั่งตะวันตก… ด้วยความหิวจึงต้องจากถิ่นฐาน

 
 
 
 
 
 
ที่มาของภาพ: Kwe Ka Lu
 
ทุกวันช่วงฝนหยุดตกชาวบ้านหลายคนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดทวาย โดยเฉพาะคนที่อยู่ภายใต้ทหารเผด็จการพม่า เกิดความรู้สึกถึงการใช้ชีวิตที่แสนจะลำบากจากทหารพม่า ดังนั้นจำต้องหลบหนีไปหางานทำในประเทศไทย
 
ช่วงหน้าแล้งที่ผ่านมาชาวบ้านรวมถึงเด็กที่อยู่ในหมู่บ้านของอำเภอเหล่อหมื่อลา หนีออกมาจากบ้านเพื่อไปหางานทำในประเทศไทย ผู้ชายที่พอมีกำลังได้เข้าไปเป็นคนเก็บปลา(อยู่กับเรือประมง) ส่วนที่เหลือยังไม่รู้จะหางานทำได้อย่างไร
 
บรรดาผู้ที่หนีมามีลุงคนหนึ่ง (ไม่ประสงค์ออกนาม) พูดว่า “ที่ผ่านมาเราอยู่ในหมู่บ้าน เรามีที่ดินทำกิน เราทำกินโดยมีพันธุ์พืชนานาชนิด แต่ตอนนี้เขาได้อพยพพวกเรามาอยู่ริมถนน เขาได้จัดกลุ่มให้เราทำกินเป็นวันต่อวัน หมู่บ้านเราทั้งหมู่บ้านเสียหายหมด เราไม่เหลืออะไรเลย ที่ดินที่เคยทำกินและผลผลิตเสียหายหมดเช่นกัน หากเราจะกลับเข้าไปอยู่ที่เดิมก็ต้องเริ่มต้นใหม่หมด ส่วนตัวคิดว่า ในประเทศพม่าหากมีการปกครองภายใต้เผด็จการทหารพม่าจะไม่กลับไปเริ่มต้นใหม่อย่างเด็ดขาด หากกลับเข้าไปก็ต้องถูกกดขี่ย่ำยีทรมานซึ่งตนทนไม่ไหว จะกลับก็ต่อเมื่อประเทศพม่ามีความสงบสุข”
 
สิ่งที่ตามมาอีกคือ เด็กลูกหลานไม่ได้เรียนเพราะพ่อแม่จนไม่สามารถส่งลูกหลานเรียนได้ จึงต้องเข้าไปอยู่ในศูนย์อพยพก็เพื่อจะได้รับการช่วยเหลือด้านการเรียนการศึกษา บางคนถึงกับหนีออกเพื่อรับจ้างในประเทศไทยเพื่อหาเงินช่วยเหลือพ่อแม่แม้จะมีอายุเพียง 12 ขวบก็ตาม
 
ปัญหาในประเทศพม่านี้ ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน ความลำบาก มากที่สุดคือทุกหมู่บ้านหลังจากมีการอพยพ เพราะที่ดินเสียหาย บ้านก็ถูกทำลาย ส่วนในศูนย์อพยพการที่จะหางานทำก็ลำบากมาก ขอความช่วยเหลือก็ลำบาก มีคนมากมายที่ทนความลำบากในศูนย์ไม่ได้จึงต้องหนีไปหางานทำในประเทศไทย
 
หน่อจี ลี โพ พูดว่า “หนูเรียนในประเทศพม่าหนูต้องยอมทุกอย่าง ช่วงที่หนูเรียนประถมได้พ่อแม่ส่งเรียน แต่ตอนนี้หนูต้องเรียนระดับมัธยมแล้วแต่พ่อแม่ไม่มีเงินที่จะส่งเรียนต่อ อยากเรียนต่อมาก หากเราไม่มีความรู้ผู้อื่นก็จะถูกดูถูกตลอด อยากจะเรียนให้จบสูงๆเพื่อจะนำความรู้กลับไปช่วยเหลือเผ่าพันทางใดทางหนึ่ง หนูยังมีเพื่ออีกเยอะที่อยากเรียนแต่ไม่ได้เรียนเช่นกัน”
 
ด้วยอายุแค่ 14 ของเด็กหญิงจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่อยากจะมีโอกาสและพยายามที่จะเรียนหนังสือเหมือนคนที่ได้เรียน ส่วนเด็กหญิงคนอื่นที่มีอายุเท่ากันที่ไปทำงานในเมืองไทยพูดว่า “เราไปหางานทำ งานที่มีที่สามารถทำได้จะทำทุกอย่าง เราอยู่ในหมู่บ้านแม่จะทำไร่กันแต่ก็กินไม่หมด แต่เราต้องไปทำงานแม้ไม่ใช่ความต้องการก็ตาม แต่ด้วยความที่ไม่มีความรู้จึงต้องหางานทำในประเทศพม่าที่ค่าแรงต่ำก่อนแล้วค่อยไปหางานทำในประเทศไทย”
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท