Skip to main content
sharethis

“มาร์ค” ตอบสื่อนอก แจงประเด็นปิดสื่อเสื้อแดง “ผมไม่แน่ใจว่า ประเทศของคุณจะยอมปล่อยให้มีสถานีโทรทัศน์หรือวิทยุที่สนับสนุนขบวนการอัลกออีดะห์เช่นกัน”

นิวยอร์ก—นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กล่าวเมื่อวันศุกร์ (24 กันยายน พ.ศ. 2553) ว่า อาจมีการเลือกตั้งก่อนกำหนดในช่วงต้นปี พ.ศ. 2554 แต่มีเงื่อนไขว่า กลุ่มคนเสื้อแดงต้องพิสูจน์ตัวเองก่อนว่า พวกเขาจะตั้งมั่นในสันติวิธี

“เราเชื่อว่า ถ้าประเทศยังมีความสงบเรียบร้อยต่อไปอีก 6 เดือน.....ก็น่าจะเป็นบรรยากาศที่เหมาะสมที่จะมีการเลือกตั้งเร็วขึ้นในปีหน้า” เขาแถลงต่อกลุ่มมันสมองในนิวยอร์ก ระหว่างการไปประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ

“กระนั้นก็ตาม ทั้งหมดนี้ต้องขึ้นอยู่กับว่าฝ่ายค้านและกลุ่มคนเสื้อแดงประพฤติตัวอย่างไร” อภิสิทธิ์ทิ้งท้ายไว้ในการปราศรัยที่สภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

“ถ้าพวกเขาพิสูจน์ตัวเองได้ว่าใส่ใจในกระบวนการประชาธิปไตย การชุมนุมอย่างสงบและไม่ข้องแวะกับกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย ซึ่งแน่นอนว่ารวมถึงกิจกรรมที่ใช้ความรุนแรงด้วย ถ้าเป็นเช่นนั้น ผมก็คิดว่าเราน่าจะอยู่บนเส้นทางที่บรรลุการแก้ไขปัญหาได้”

การยุบสภาและจัดการเลือกตั้งใหม่เป็นข้อเรียกร้องสำคัญของขบวนการคนเสื้อแดงที่คัดค้านรัฐบาลชุดนี้

นายอภิสิทธิ์ ผู้เกิดในประเทศอังกฤษ จบการศึกษาจากออกซฟอร์ด และเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคเก่าแก่ในประเทศไทย ไม่จำเป็นต้องเข้าสู่วาระการเลือกตั้งจนกระทั่งสิ้นปีหน้า

เขาเคยเสนอให้จัดการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ ทว่ายกเลิกแผนการนี้ไปเมื่อฝ่ายตรงข้ามประท้วงในเดือนเมษายนและพฤษภาคม ซึ่งลงเอยด้วยการที่รัฐบาลปราบปรามจนนองเลือดและเกิดจลาจลในกรุงเทพฯ

มีประชาชนตายถึง 90 คนและบาดเจ็บเกือบ 1,900 คน จากการบุกโจมตีของกองทัพเพื่อกวาดล้างผู้ประท้วงในวันที่ 19 พฤษภาคม

กลุ่มผู้ประท้วงรณรงค์ให้มีการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งพวกเขาหวังว่าจะล้มรัฐบาลนี้ได้ เนื่องจากฝ่ายผู้ประท้วงมองว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้มาตามกระบวนการประชาธิปไตย เพราะรัฐบาลอภิสิทธิ์ได้อำนาจมาจากการหนุนหลังของกองทัพ หลังจากคำตัดสินของศาลทำให้รัฐบาลชุดก่อนต้องพ้นจากตำแหน่ง

ตอนนี้ ผู้นำคนเสื้อแดงส่วนใหญ่อยู่ในคุกหรือไม่ก็ถูกประกาศจับในข้อหาก่อการร้าย เนื่องจากมีบทบาทในการระดมมวลชนชุมนุมประท้วงยาวนานถึงสองเดือน

อภิสิทธิ์ยืนยันว่า การเลือกตั้งสามารถเกิดขึ้นได้ แต่จะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อประเทศมีเสถียรภาพกลับคืนมาเท่านั้น “ผมไม่เชื่อในการเลือกตั้ง ตราบที่ยังมีการข่อขู่ การคุกคามหรือการใช้กำลัง” เขากล่าว

เขายอมรับว่า “เรายังไม่สามารถอ้างว่า สถานการณ์กลับสู่ภาวะปรกติอย่างสมบูรณ์แล้ว” แต่กล่าวว่า การใช้พระราชกำหนดในสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไปนั้น “ไม่มีผลกระทบต่อประชาชนคนธรรมดาทั่วไป”

เขายังกล่าวแก้ต่างให้ตัวเองเกี่ยวกับข้อหาว่าทำลายเสรีภาพของสื่อ โดยกล่าวว่า เฉพาะสื่อที่ “ปลุกปั่นให้เกิดความรุนแรง” เท่านั้นที่ถูกปิด

“ผมไม่แน่ใจว่า ประเทศของคุณจะยอมปล่อยให้มีสถานีโทรทัศน์หรือวิทยุที่สนับสนุนขบวนการอัลกออีดะห์เช่นกัน” เขากล่าวแก่ผู้ฟังที่ส่วนใหญ่เป็นชาวอเมริกัน

ความรุนแรงเป็นระยะ ๆ ยังคงสร้างความปั่นป่วนในประเทศไทย ระเบิดขนาดเล็กที่ซุกซ่อนในถังขยะระเบิดขึ้นในย่านที่อยู่อาศัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เมื่อวันศุกร์ และทำให้มีผู้บาดเจ็บสามคนตามรายงานของตำรวจ

ถึงแม้จะยังอยู่ในภาวะไร้เสถียรภาพ แต่นายกรัฐมนตรีของไทยก็กล่าวว่า เศรษฐกิจประเทศไทยกำลังดำเนินไปอย่างเข้มแข็ง คาดว่าจีดีพีจะโตขึ้นถึง 8% ในปีนี้และการส่งออกกำลังเติบโตในอัตรา 30% ต่อปี เขากล่าวทิ้งท้าย

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net