Skip to main content
sharethis
 
เมื่อวันที่ 8 ต.ค.53 ที่รัฐสภา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ตอบกระทู้ถามของ ส.ส.ฝ่ายค้านเรื่องการต่ออายุ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปอีก 3 เดือน ในพื้นที่ 4 จังหวัดคือ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการว่า ฝ่ายความมั่นคงประเมินแล้วสถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ เพราะยังคงมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อเหตุอยู่ โดยทำกันเป็นขบวนการและเป็นระบบ
 
กรุงเทพฯศูนย์กลางก่อเหตุร้าย
“กรุงเทพฯยังเป็นศูนย์กลางและเป็นเป้าหมายของการก่อความไม่สงบ รวมถึงพื้นที่ปริมณฑล โดยศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ใช้กำลังทหาร 2,900 นายเป็นผู้ช่วยตำรวจ ส่วนเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณไม่ต้องสงสัย รับรองได้ว่าไม่มีการนำไปใช้ในทางไม่ชอบ ซึ่งจะรวบรวมมารายงานต่อสภาแน่นอน” นายสุเทพกล่าว
 
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวหลังการประชุมร่วมกับคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎรว่า ที่ประชุมเห็นตรงกันให้ตรวจสอบผู้ที่ถูกคุมขังจากเหตุการณ์ความไม่สงบจำนวน 175 ราย ใน 17 เรือนจำทั่วประเทศ ว่าถูกดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ หากใครยังไม่มีทนายสู้คดีก็จะจัดหาให้ โดยจะตรวจสอบให้เสร็จภายใน 5 วัน
เปิดศูนย์คืนของกลางผู้ชุมนุม
 
“ผมมั่นใจว่าไม่มีปัญหาเรื่องความไม่ชอบธรรม เพราะการจับกุมที่ผ่านมาเป็นไปตามกฎหมาย” นายธาริตกล่าวและว่า ในวันที่ 11 ต.ค. นี้จะเปิดศูนย์คืนของกลางที่ยึดเอาไว้ก่อนหน้านี้ เช่น รถยนต์ เวที เครื่องเสียง เต็นท์ ใครที่เป็นเจ้าของนำหลักฐานมายื่นขอรับคืนได้
 
อธิบดีดีเอสไอยังยืนยันว่า การข่าวของดีเอสไอพบว่าจะยังมีการก่อความไม่สงบขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าจะรุนแรงกว่าที่เกิดมาแล้วหรือไม่
 
“ขณะนี้พบว่ามีการเตรียมดำเนินการในลักษณะเดียวกับที่สมานเมตตาแมนชั่นอีก” นายธาริตกล่าว
 
 
 
สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net