Skip to main content
sharethis

ประพันธ์ คูณมีชี้ที่เสื้อแดงมาชุมนุมมาก เพราะอยู่ในช่วงคัดคนลงเลือกตั้ง แกนนำจึงโชว์พลังให้นายใหญ่เห็น ชี้เลือกตั้งอีกรอบก็อีหรอบเดิม เล็งให้ พธม. ตั้งเอง กรรมการปฏิรูปประเทศไทย ชี้เหลืองถูกหน้าหล่อหลอก แดงถูกหน้าเหลี่ยมหลอก ดังนั้นน่าจะเลิกให้นักการเมืองหลอกเสียที ควรกำหนดชะตากรรมและอนาคตบ้านเมืองของด้วยตัวเราเอง ประพันธ์ชี้รัฐบาล-เสื้อแดงโยนผิดใส่กัน คือความอัปยศประเทศไทย เมื่อคืนวันที่ 10 เม.ย. บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายประพันธ์ คูณมี กล่าวปราศรัยว่า หากทบทวนเหตุการณ์ที่ผ่านมา เอาเฉพาะวันที่ 10 เม.ย. เมื่อปี 2553 ที่บริเวณสี่แยกคอกวัว อนุสาวรีประชาธิปไตย แล้วก็มีวิดีโอลิงก์จากบุคคลที่อยู่ดูไบ จนถึงวันนี้ก็ยังเหมือนเดิม เวทีกลุ่มเสื้อแดงเกณฑ์คนมาชุมนุม หนึ่งในนั้นมีญาติพี่น้องผู้บาดเจ็บ เสียชีวิต มาบอกสังคมว่าพวกเขาก็ตกเป็นเหยื่อของการสลายชุมนุม จะว่าไปไม่ว่าใครเจ็บ ใครตาย ไม่น่าเป็นความปรารถนาของคนไทยทั้งประเทศ การสูญเสียเป็นเรื่องไม่น่าเกิดขึ้นเลย หากทั้งสองฝ่ายไม่ใช้ความรุนแรงเข้าหากัน อย่างไรก็ดี ประชาชนที่เสียชีวิต ตนเข้าใจว่าตกเป็นเหยื่อ ความเสียหายที่เกิดขึ้นต้องเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาล และแกนนำเสื้อแดง แต่ทั้งสองฝ่ายต่างโยนความผิดใส่กัน สรุปแล้วไม่มีใครรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นเลย นี่คือความอัปยศของประเทศไทย ชี้ทหารตกเป็นจำเลยสั่งคม ส่วนคนออกคำสั่งลอยนวล กลายเป็นขี้ปากให้จตุพรเอามาโจมตี ทั้งนี้ ในอีกมุมหนึ่งมีการจัดงานรำลึกครบรอบ 1 ปี การเสียชีวิตของ พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม ซึ่งถือได้ว่าประเทศไทยได้สูญเสียทหารที่มีอุดมคติในการใช้วิชาชีพอย่างมี ศักดิ์ศรี อย่างไม่น่าที่จะเกิดขึ้น จากเหตุการณ์ชุมนุมของคนเสื้อแดง อันเนื่องจากรัฐบาลมอบหมายให้ไปกระชับพื้นที่ แต่ด้วยยุทธศาสตร์ที่ อ่อนหัดของรัฐบาล ในการประเมินการชุมนุมที่มีกลุ่มคนติดอาวุธแฝงตัว ปล่อยให้ทหารปฏิบัติการมีอาวุธจำกัดและมีคำสั่งห้ามไม่ให้ใช้อาวุธกับผู้ชุมนุม ซึ่งมันไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้อง หากไม่ใช้อาวุธ ต้องใช้กับผู้ชุมนุมที่ไม่มีอาวุธเท่านั้น นายประพันธ์กล่าวด้วยว่า ทหารชั้นผู้น้อยเมื่อออกปฏิบัติการตามคำสั่ง ควรได้รับความนิยมชมชอบ แต่ต้องตกเป็นจำเลยของสังคม ตกเป็นผู้ต้องหาในคดี ยกเว้นหัวหน้าใหญ่ที่ออกคำสั่งลอยนวล ตั้งแต่ ผบ.ทบ. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รองนายกฝ่ายความมั่นคง จนกลายเป็นขี้ปากให้นายจตุพร พรหมพันธ์ เอาข้อมูลออกมาโจมตีแบบเสียๆ หายๆ แบบนี้ไม่รู้ว่ารัฐบาลทำงานเป็นหรือป่าว ใช้ให้เขาไปทำงานเวลามีความผิดกลับไม่รับผิดชอบ ชี้ที่เสื้อแดงชุมนุมมาก เพราะอยู่ในช่วงคัดคนลงเลือกตั้ง แกนนำจึงโชว์พลังให้นายใหญ่เห็น นายประพันธ์กล่าวด้วยว่า ได้ไปสืบข่าวการชุมนุมของคนเสื้อแดงมาแล้ว ที่มีคนมาชุมนุมจำนวนมาก เกิดจากอยู่ในระหว่างพิจารณาคัดเลือกผู้สมัครลงเลือกตั้ง และลงบัญชีรายชื่อ บรรดาแกนนำจึงโชว์พลังให้นายใหญ่เห็น ว่ามีมวลชนของตัวเองมาก พยายามอ้างผลงานตัวเองเสียสละต่อสู้ ทำให้รัฐบาลไม่สามารเล่นงานนายหัวได้ ทั้งนี้เพื่อต้องการให้มีชื่อยู่ในบัญชีรายชื่อระดับต้นๆ ส่วนแกนนำระดับท้องถิ่นที่อยากลงเลือกตั้งในนามพรรคเพื่อไทย ก็ต้องแสดงพลัง เกณฑ์เอาคนมาให้ได้อย่างน้อย 500-1000 คน ดังนั้น การชุมนุมของคนเสื้อแดงจึงเป็นการจัดมหกรรมโชว์ผลงานให้เข้าตานายหัว ซึ่งเป็นเจ้าของพรรค การชุมนุมปราศรัยก็ไม่ได้มีอะไร พาดพิงอำมาตย์ พาดพิงเบื้องสูงอย่างเดียว “พล.อ.เปรม ตินสูลานนท์ ไปงานวันครบรอบสถาปนากองทัพอากาศ ไม่รู้รัฐบาลทำงานเป็นกันหรือป่าว ปล่อยให้คนเสื้อแดงไม่ถึง 20 คน บุกมาถึงหน้าหอประชุมกองทัพอากาศ ที่สำคัญไม่ได้มา เรียกร้องขอความเป็นธรรม หรือท้วงติงที่มีเหตุผลพอ ครั้นจะอ้างประชาธิปไตยก็ฟังไม่ได้ เพราะไม่ได้มาชุมนุม แต่มาด่าคนเสียๆ หายๆ ประชาธิปไตยไม่ใช่ไปยกป้ายด่าพ่อล่อแม่ใครก็ได้ ปัญหาใหญ่ความขัดแย้งในบ้านเมือง เกิดเพราะเราไม่มีวิธีการจัดการอย่างตรงไปตรงมา ถ้าเป็นการชุมนุมผิดกฎหมายต้องจัดการอย่างเด็ดขาด แต่หากชุมนุมโดยถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ รัฐบาลต้องอำนวยความสะดวกและให้ความคุ้มครอง” แนะกองทัพ การเมืองที่ยุให้ประชาชนแตกคอกัน ควรสนับสนุนหรือไม่ นายประพันธ์กล่าวถึงนายอภิสิทธิ์ว่า ห่วงแต่งหน้าหล่ออย่างเดียว ไม่สนใจบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร ปล่อยให้คนในรัฐบาลเต็มไปด้วยกระสือ ขณะที่รัฐบาลใหม่ที่ทำท่าจะชนะเลือกตั้ง ก็น่ากลัวพอๆ กัน ไม่รู้จะมาเพื่ออะไร เพราะประชาชนไม่ไว้ใจ ทั้งโกง ล้มล้างสถาบัน หวังนิรโทษกรรมความผิดให้ตัวเอง ดังนั้นพี่น้องต้องคิดเองว่าจะเดินไปสู่การเลือกตั้งหรือไม่ ด้านกองทัพก็ยังมองไม่เห็นว่าตัวเองมีหน้าที่อะไร มาบอก “การเมืองทุกวันนี้ดีต้องสนับสนุนต่อไป” โดยไม่รู้ว่าบ้านเมืองตกอยู่ในสถานการณ์อย่างไร ยังไม่ทันเลือกตั้ง อีกฝ่ายก็โจมตีกองทัพตั้งวอร์รูมเตรียมแทรกแซงการเลือกตั้ง “การที่กองทัพจะค้ำจุนการเมืองใด ต้องดูว่าทำเป็นการเมือง เพื่อความมั่นคงของชาติจริงหรือไม่ ถ้าเป็นการเมืองโกง ชิงอำนาจ ทุกคนก็จะมาปล้นบ้านเมืองต่อ ยุแยงให้ประชาชนแตกคอทะเลาะกัน การเมืองเช่นนี้กองทัพควรสนับสนุนหรือไม่ก็คิดดู” ชี้เลือกตั้งอีกรอบก็อีหรอบเดิม เล็งตั้งกรรมการปฏิรูปประเทศไทย นายประพันธ์กล่าวด้วยว่า บ้านเมืองเวลานี้เลือกตั้งก็ไม่มีทางออก ที่พันธมิตรฯ ยังชุมนุมอยู่ที่นี่ เพราะเราต้องการให้บ้านเมืองมีทางออก และต้องการให้ประเทศเดินไปข้างหน้า พวกเราไม่ต้องการอะไรเป็นสมบัติส่วนตัว ทุกคนต้องการให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าและดีขึ้น เป็นการเมืองที่สร้างสรรค์ เป็นการเมืองที่เอื้อประโยชน์เพื่อชาติบ้านเมือง แต่เมื่อไหร่การเมืองจะเกิดขึ้นเสียที จะไปรอความหวังจากใครครับเวลานี้หมดแล้ว ปล่อยให้นักการเมืองเลือกตั้งอีกรอบก็อีหลอบเดิม ชุมนุมมา 76 วันแล้ว สงสัยเราต้องคณะปฏิรูปประเทศไทย ขึ้นมาคณะหนึ่งเสียแล้วละผมว่า แล้วเชิญชวนคนที่มีความรู้ ความสามารถ มีความน่าศรัทธา นับถือ เดี๋ยววันจันทร์เราจะประชุมกัน คณะกรรมการ มีแกนนำรุ่นที่ 1 แกนนำรุ่นที่ 2 และคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย เราคงจะได้ความคิดตกผลึกว่าเราจะทำอะไรกัน ที่เป็นรูปธรรมมากกว่าเดิม รอการเปลี่ยนแปลง รอความหวังคงยาก เพราะมันต้องยึดคำพระ อัตตาหิอัตโนนาโถ แล้วพี่น้อง คณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย อาจจะเปลี่ยนเป็นคณะกรรมการปฏิรูปประเทศไทยก็ได้ ลั่นให้ชุดประเวศ-อานันท์ยุบเสีย แล้ว พธม. จะตั้งเองดีกว่า เพราะฉะนั้นคณะกรรมการปฏิรูปประเทศไทย ที่นายอภิสิทธิ์ตั้ง ท่านอานันท์ อ.ประเวศ ยุบซะเถอะมารวมกับพวกเราตั้งคณะปฏิรูปประเทศไทยดีกว่า ถ้าจะรอคอย รอความหวังจากนักการเมืองคงยาก พรรคการเมืองคงยาก แล้วจะรอคอยความหวังจากใครถ้าไม่ใช่พลังของพี่น้องประชาชนที่จะออกมาเรียก ร้องให้มีการปฏิรูปประเทศไทยด้วยพลังของประชาชนเรือนแสนเรือนล้าน ผมมาคิดดู ถ้าหากมีคณะประชาชนที่เป็นคณะปฏิรูปประเทศไทย ดูหน้าตาแล้วใช้ได้ สัก 20 คน เอ่ยชื่อมาแล้วพี่น้องเชื่อว่า คณะนี้ปฏิรูปประเทศไทยแล้วคนคงจะเชื่อถือ แล้วจะทำอย่างไรให้ได้อำนาจ ต้องหาวิธีคิด วิธีทำงานกันว่าจะทำอย่างไร ไหนๆ จะฉลองสงกรานต์แล้ว ผ่านจากสงกรานต์ เราน่าจะเริ่มปฏิรูปประเทศไทยเข้าสู่สังคมใหม่ ศตวรรษใหม่ นายประพันธ์กล่าวว่า คงต้องไปทำการบ้านเยอะเพื่อคิดหาวิถีทางพาชาติบ้านเมือง พาประเทศชาติและพี่น้องประชาชนให้ก้าวพ้นจากหล่มของการเมืองที่ล้มเหลวนี้ เป็นการเมืองที่เราต้องไปให้พ้น ก้าวข้ามให้จงได้ โดยนายประพันธ์ขอให้ผู้ชุมนุมปรบมือดังๆ เพื่อแสดงว่าไม่เอาการเลือกตั้ง แต่เราต้องการเอาการเมืองที่พาชาติบ้านเมืองและประเทศหลุดพ้นจากหล่มแห่งความล้มเหลวนี้ ถ้าอย่างนั้นธงของเราต้องเดินหน้าไปในทางนี้ ถ้ามีเลือกตั้งเรามีแผน 2 รออยู่แล้ว แต่วันนี้เราต้องหยุดกระบวนการเลือกตั้ง ซึ่งไม่เป็นทางออกและอนาคตของบ้านเมือง ให้ได้เสียก่อน และต้องเดินหน้าปฏิรูป เปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้จงได้ เราจึงจะมีทางรอดและมีความหวัง วอนคนเสื้อแดงถ้าแกนนำปราศรัยถึงสถาบันให้ขว้างน้ำแข็งใส่หน้าทันที ในตอนท้ายนายประพันธ์กล่าวว่าเราเสื้อสีไหนก็ตาม ถ้าไม่เช่นนั้นการเมืองจะวนอยู่อย่างนี้ พี่น้องเสื้อแดงก็ดี อยากจะวิงวอนเลิกซะเถอะ เลิกตามพวกหน้าคางคก หน้าผีทั้งหลาย เลิกเลย แล้วตัวไหน แกนไหนที่ด่าถึงสถาบันเบื้องบน พี่น้องทนฟังได้ทำไม ขว้างน้ำแข็งใส่หน้ามันบ้างซิ เลิกได้แล้ว เลิกงมงายตามได้แล้ว เราร่วมกันสร้างสังคมใหม่ การเมืองใหม่ และปฏิรูปประเทศไทยร่วมกันดีกว่า อันนี้ฝากให้ท่านได้คิด ใครที่ติดตามฟัง ASTV และพวกผม พวกเรามีความรู้สึก มีความปรารถนาดีต่อบ้านเมืองร่วมกัน เราไม่ได้คิดอย่างอื่น และเราไม่ต้องการเป็นขี้ข้า เครื่องมือนักการเมืองตลอดไป เสื้อแดงที่ดีถูกนักการเมืองหน้าเหลี่ยมหลอก พวกเราก็ถูกนักการเมืองหน้าหล่อหลอก เพราะฉะนั้นเราสองคนน่าจะเลิกให้นักการเมืองหลอกซะที เราควรกำหนดชะตากรรมและอนาคตบ้านเมืองของเราด้วยตัวเราเองดีกว่า ถ้าพี่น้องเห็นด้วยในแนวทางนี้ ขอความกรุณาส่งข่าวและบอกต่อพี่น้องเราให้กว้างไกล ที่มา: เรียบเรียงจาก เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net