Skip to main content
sharethis

‘จินตนา แก้วขาว’ นำเครือข่ายกลุ่มอนุรักษ์ฯ ค้านประกาศผังเมืองรวมบางสะพาน เดินหน้าถาม ‘กรมโยธาธิการและผังเมือง’ หวั่นเปิดช่องตั้งนิคมอุตสาหกรรมไม่สนการมีส่วนร่วม ก่อนรุก‘กนอ.’ ร้องยกเลิกสัญญาร่วมเอกชน ชี้ที่ดินโครงการกว่า 700 ไร่ ได้มาโดยมิชอบ

 
ภาพ: ผังเมืองรวมชุมชนบางสะพาน  จ.ประจวบคีรีขันธ์ (ปรับปรุงครั้งที่ 1)
 
วันนี้ (4 ก.ย.55) เวลา 9:00 น. นางจินตนา แก้วขาว นำชาวบ้านเครือข่ายกลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบางสะพาน เดินทางไปที่กรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อคัดค้านการประกาศใช้ผังเมืองรวมชุมชนบางสะพานฉบับใหม่ที่อาจเปิดโอกาสให้สามารถจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่พร้อมสอบถามเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงของผังเมืองใหม่บางสะพานว่าจะเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มทุนหรือต่อประชาชนในพื้นที่
 
หลังจากนั้น ชาวบ้านจะเดินทางไปยังการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เพื่อเรียกร้องให้ กนอ.ยกเลิกสัญญาร่วมดำเนินงานจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมเหล็กบางสะพานกับบริษัทเครือสหวิริยา เนื่องจากที่ดินที่ใช้ในโครงการบางส่วน จำนวนกว่า 700 ไร่ เป็นที่ดินที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฏหมาย และกรมที่ดินได้มีคำสั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ไปแล้ว
 
จากกรณีบริษัทเครือสหวิริยาและ กนอ.ได้มีการทำสัญญาร่วม ดำเนินงานจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมเหล็กบางสะพานเนื้อที่ประมาณ 6,400 ไร่ ใน อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งที่ดินที่ใช้ในโครงการดังกล่าวมีปัญหาการออกเอกสารสิทธิ์มิชอบในเขตป่าสงวนแห่งชาติและเขตวนอุทยาน โดย กรมที่ดินมีคำสั่งให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์จำนวน 52 แปลง เนื้อที่ประมาณ 712 ไร่ไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 18 ส.ค.2553
 
นางจินตนา แก้วขาว ประธานเครือข่ายกลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบางสะพาน เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ทาง กนอ. ยังคงไม่มีการทบทวนสัญญาร่วมดำเนินงานฯ ที่ทำไว้กับบริษัทสหวิริยา โดยอ้างว่าปัญหาเรื่องที่ดินใน โครงการยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครอง ทั้งๆ ที่กรมที่ดินได้มีคำสั่งเพิกถอนไปตั้งแต่ 2 ปีแล้ว ซึ่งชาวบ้าน คาดการณ์ว่า การที่ กนอ.ไม่ยอมทบทวนโครงการเพราะอาจกำลังมีการเดินเรื่องเพื่อให้มีการเยียวยาบริษัทสหวิริยา โดยให้บริษัทฯ สามารถเช่าที่ดินที่ออกเอกสารสิทธิ์มิชอบเพื่อใช้พัฒนาอุตสาหกรรมต่อไปได้
 
กรณีในลักษณะดังกล่าวเคยเกิดขึ้นแล้วในอดีต จากการที่โรงงานรีดเหล็กเครือสหวิริยาเคยมีการบุกรุกป่าชายเลนจำนวนมาก แต่เมื่อมีการตรวจสอบพบ สุดท้ายทางบริษัทฯ ก็สามารถดำเนินการโรงงานต่อไปได้ด้วยกระบวนการเยียวยา โดยจ่ายค่าเช่าที่ให้แก่ อบจ. ประจวบคีรีขันธ์ในราคาถูก ซึ่งชาวบ้านไม่สามารถยอมรับได้ เพราะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้ผู้ทำผิดกฎหมายที่บุกรุกครอบครองที่ดินของรัฐ
 
นางจินตนา กล่าวด้วยว่า นอกจากกรณีของ กนอ.แล้ว ขณะนี้ชาวบ้านในพื้นที่ยังได้ทราบข่าวว่า ในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ กรมโยธาธิการและผังเมืองจะประกาศใช้ผังเมืองรวมชุมชนบางสะพานฉบับใหม่แทนฉบับปี 2546 ที่หมดอายุไป ตั้งแต่ปี 2551 โดยผังเมืองฯ ฉบับใหม่จะยึดตามฉบับปี 2546 เป็นหลัก ซึ่งขัดแย้งกับความต้องการของชาวบ้าน ที่ได้เข้ามีส่วนร่วมในกระบวนการจับทำผังเมืองรวมชุมชนบางสะพานฉบับใหม่ของกรมโยธาฯ มาโดยตลอด
 
“การประกาศใช้ผังเมืองฉบับใหม่จะมีผลกระทบต่อชุมชนใน อ.บางสะพานเป็นอย่างมาก เนื่องจากผังเมืองจะมีผลต่อการดำเนินโครงการอุตสาหกรรมที่ชาวบ้านไม่ต้องการ รวมทั้งมีผลต่อการประกาศเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม ชายฝั่งทะเลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ชาวบ้านได้ร่วมกันผลักดันต่อกระทรวงทรัพยากรฯ จนมีความคืบหน้าไปมาก เพื่อคุ้มครองป่าพรุแม่รำพึงซึ่งเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับชาติ” ประธานเครือข่ายกล่าว
 
นางจินตนา กล่าวต่อมาว่า จากสภาพการณ์ขณะนี้ ชาวบ้านจึงตั้งข้อสงสัยว่า กนอ. และกรมโยธาฯ กำลังดำเนินการเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ บริษัทสหวิริยาสามารถผลักดันโครงการนิคมอุตสาหกรรมเหล็กบางสะพานหรือไม่ เพราะหากมีการประกาศใช้ผังเมือง ฉบับใหม่โดยยึดตามผังเมืองที่ชาวบ้านบางสะพานต้องการ ก็เท่ากับว่า บริษัทสหวิริยาจะไม่สามารถริเริ่มโครงการ นิคมอุตสาหกรรมเหล็กได้อย่างน้อยในช่วงเวลา 7 ปีนับจากนี้ไป
           
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net