Skip to main content
sharethis

ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่เหมืองโปแตชอุดรฯ ร้อน หลังถูกหลอกให้เซ็นต์หนังสือปะหน้ารายงานการประชาคมหมู่บ้าน เอาไปประกอบประทานบัตรโครงการฯ กลุ่มอนุรักษ์ฯ จี้สอบ ด้านนายอำเภอฉุน! จี้แจ้งความถอนชื่อ-เอาผิดคนเดินเรื่อง

 
 
เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.55 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม ที่ว่าการอำเภอประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี จำนวนกว่า 100 คน เข้ายื่นหนังสือต่อนายอำเภอประจักษ์ศิลปาคม เพื่อให้สอบสวนข้อเท็จจริง กรณีที่ผู้ใหญ่บ้าน 5 หมู่บ้าน ในพื้นที่โครงการเหมืองแร่โปแตชได้ทำรายงานประชาคมหมู่บ้านในการให้ความเห็นประทานบัตรเหมืองแร่ ว่าเป็นการดำเนินการที่ผิดระเบียบคู่มือปฏิบัติงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เรื่อง การให้ความเห็นในการพิจารณาอนุญาตประทานบัตรเหมืองแร่ พ.ศ.2545 หรือไม่ พร้อมกันนี้ยังเรียกร้องนายอำเภอให้เรียกผู้ใหญ่บ้านมาชี้แจงกับชาวบ้านด้วย
 
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 ธ.ค.55 มีการนำเอกสารรายงานการประชาคมหมู่บ้าน กรณีโครงการเหมืองแร่โปแตช จ.อุดรธานี ของ 5 หมู่บ้าน ประกอบด้วย บ้านอีทุย หมู่ที่ 4, บ้านโคกสง่า หมู่ที่ 5, บ้านหนองแวงเหนือ หมู่ที่ 8, บ้านป่าก้าว หมู่ที่ 9 และบ้านสะอาดนามูล หมูที่ 10 ของ ต.ห้วยสามพาด เสนอต่อ อบต.ห้วยสามพาด เพื่อให้ดำเนินการตามขั้นตอนประทานบัตร
 
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เอกสารรายงานการประชาคมดังกล่าว ผู้ใหญ่บ้านได้ลงนามในหนังสือปะหน้า (ยกเว้นบ้านอีทุย หมู่ที่ 4 ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเป็นคนลงนาม) และบันทึกการประชุมในวาระอื่นๆ ยังได้ระบุเรื่องโครงการเหมืองแร่โปแตช พร้อมแนบรายชื่อชาวบ้านผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย
 
 
นางมณี บุญรอด กรรมการกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี ต.ห้วยสามพาด กล่าวว่า จากการตรวจสอบเอกสารและสอบถามจากชาวบ้านในหมู่บ้านนั้นๆ แล้วพบว่า บางหมู่บ้านมีการประชุมแต่ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องโครงการเหมืองแร่โปแตช บางหมู่บ้านชาวบ้านไม่ได้เข้าร่วมประชุมแต่มีรายชื่อแนบมา หรือแม้กระทั่งบางหมู่บ้านไม่ได้มีการจัดประชุมเละแต่เขียนขึ้นมาเอง ซึ่งถือว่าเป็นการปลอมแปลงเอกสารและทำผิดระเบียบคู่มือปฏิบัติ ทำให้เกิดความเสียหายโดยรวมแก่ชาวบ้านในพื้นที่โครงการฯ
 
“ผู้ใหญ่บ้านต้องรับผิดชอบกับการกระทำที่เกิดขึ้น และนายอำเภอต้องดำเนินการให้ถึงที่สุด ชาวบ้านอุตส่าห์คัดค้านมาเป็นเวลา 12 ปี จนได้มีการตั้งคณะกรรมร่วมระหว่างกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่กับกลุ่มอนุรักษ์ฯ เพื่อมาติดตามเรื่องนี้และกรรมการยังไม่มีข้อสรุป ผู้ใหญ่บ้านมาทำแบบนี้มันหมายความว่าอย่างไร” นางมณีตั้งคำถาม
 
ด้านนายหนูเพียร ธิปัญญา ผู้ใหญ่บ้านโคกสง่า หมู่ที่ 5 ต.ห้วยสามพาด กล่าวยอมรับกับกลุ่มชาวบ้านว่า ตนได้ลงนามในเอกสารจริง แต่ตอนลงนามมีเฉพาะหนังสือปะหน้า ไม่มีรายละเอียดเนื้อหาการประชุม โดยชาวบ้านในหมู่บ้านนำมาให้ลงนาม ซึ่งตนเองก็เข้าใจว่าเป็นเพียงการประชาคมหมู่บ้านทั่วไปที่เคยทำมาแล้วเพื่อนำส่ง อบต.ทั้งนี้ ที่กระทำไปก็ถือบริสุทธิ์ใจและไม่คาดคิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น
 
“ต้องขอโทษพ่อแม่พี่น้องทุกคนในความผิดพลาดที่ได้กระทำลงไป หากจะให้แก้ไขอย่างไร ผมก็พร้อมที่จะดำเนินการตาม และขอให้สัญญาว่าจะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก” นายหนูเพียรกล่าว
 
ด้านนายสมภพ ร่วมญาติ นายอำเภอประจักษ์ศิลปาคม กล่าวว่า ในส่วนของทางอำเภอจะดำเนินการเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย โดยในเบื้องต้นตนเองจะให้ผู้ใหญ่บ้านไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันกับทางตำรวจเพื่อถอนการลงนามในเอกสารดังกล่าวและให้เอาผิดกับคนที่นำเอกสารมาให้ลงนามด้วย
 
หลังจากนั้นให้ผู้ใหญ่บ้านนำสำเนาบันทึกแจ้งความไปยื่นกับ อบต.ห้วยสามพาด เพื่อขอรายงานการประชาคมกลับคืนมาก่อนที่จะมีการนำเอาเอกสารไปใช้
 
“ส่วนข้อเรียกร้องของกลุ่มอนุรักษ์ฯ ตามหนังสือที่ยื่นมาทางอำเภอก็จะดำเนินการให้ หากมีผลเป็นอย่างไรก็จะทำเป็นหนังสือแจ้งให้ทางกลุ่มทราบอีกครั้ง” นายอำเภอกล่าว

 

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net