เวลาราว 18.00 น. หลังประกาศยึดอำนาจแล้วหลายชั่วโมง ฉันเดินทางถึงบริเวณหน้าถนนพุทธมณฑลสาย 4 มีผู้คนทยอยเดินจากสถานที่ชุมนุมมายังบริเวณนั้นอย่างบางตา
ฉันได้มีโอกาสสนทนากับผู้คนที่เดินมาจากอักษะ พร้อมถือข้าวของสัมภาระด้วยสีหน้าเรียบเฉย ..พวกเขากำลังกลับบ้าน
“อย่าเดินไปเลย เค้าทยอยกลับกันหมดแล้ว”
“ทหารยึดพื้นที่ไว้และทยอยให้คนออก”
เมื่อเดินถึงพื้นที่บริเวณหน้าถนนอักษะ มีผู้คนจับกลุ่มพูดคุยอยู่หลายกลุ่ม ส่วนทหารก็ยืนกระจายในพื้นที่ด้านหน้าทางเข้าม็อบ
ผู้คนจับกลุ่มพูดคุยถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พวกเขายังมีความหวัง
“เดี๋ยวเรารอฟัง แกนนำเคยประกาศว่าถ้าถูกยึดอำนาจ วันรุ่งขึ้นจะไปรวมตัวที่ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย”
“กลับบ้านตั้งหลักก่อน รอฟังเพื่อนในหมู่บ้านว่าจะเอายังไงต่อ”
“กลับบ้าน ... รอดูความเคลื่อนไหว”
ในขณะเดียวกันก็ได้เห็นน้ำตาของบางคนและคำรำพึงทำนอง ทำไมต้องทำกันแบบนี้ด้วย , เราแค่มาเรียกร้องประชาธิปไตย เรียกร้องการเลือกตั้ง
จากการสอบถามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้ชุมนุมบางคนเล่าว่าได้ยินเสียงปืนดังมาจากด้านหลังเวทีทางสาย 3 และแกนนำประกาศให้ทุกคนอยู่นิ่งๆ “อยากจับพวกผมก็จับ แต่อย่าทำร้ายประชาชน” คำพูดของแกนนำบนเวทีที่ผู้ชุมนุมคนหนึ่งเล่าให้ฟัง
เมื่อถามถึงความรู้สึกของพวกเขา
“รู้สึกไม่ตื่นเต้น ...ประสบเหตุบ่อยแล้ว”
“เราไม่กลัว เพราะเราอยากได้ประชาธิปไตย”
“เราไม่มีอาวุธจะกลัวอะไร”
“เราคงต้องกลับบ้านไปทำนาได้ หกพันเจ็ดพันเหมืนเดิม”
บทสนทนาที่เกิดขึ้นเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ เป็นเพียงบรรยากาศรอบนอกของพื้นที่ชุมนุม เพียงแค่บริเวณถนนพุทธมณฑลสาย 4 ปากทางเข้าถนนอักษะเท่านั้น
ขณะทหารกำลังเดินลาดตระเวนสำรวจพื้นที่ ผู้ชุมนุมคนหนึ่งพูดว่า “พรุ่งนี้คงมีสื่อออกว่าพบอาวุธ คงใส่ร้ายเราเหมือนเดิม คอยดู..”
แล้วผู้ชุมนุมก็กลับบ้าน ... พร้อมคำถามที่มีในใจมากมายแต่อาจไม่พร้อมพูดออกมา ...
22 พ.ค.77