Skip to main content
sharethis

อารักขาเข้ม พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นดอยสุเทพ-เดินตลาดนัดศาลากลางเชียงใหม่ พร้อมขอประชาชนต่อไปเลือกรัฐบาลมีธรรมาภิบาล ย้ำไม่สืบทอดอำนาจ ใช้อำนาจสร้างสรรค์ ทุกอย่างเข้าสู่กฎหมาย ใครสู้ไม่ได้ก็ติดคุก ไทยเป็นรัฐเดี่ยว รธน.ไม่ให้แบ่งแยก ขวานกับด้ามมีแค่นี้ แล้วจะแยกกันไปไหน หลายประเทศแยกแล้วอยู่ไม่ได้ ยอมรับว่ารู้ตัวดีคนเชียงใหม่รักใคร ถึงจะเกลียดตนก็ไม่ว่า ขอให้รักประเทศให้มาก

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เยี่ยมชมตลาดนัดหน้าศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อ 29 มิ.ย. 2558 (ที่มา: เว็บไซต์รัฐบาลไทย)

เมื่อเย็นวานนี้ (29 มิ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. พร้อมคณะรัฐมนตรีเดินทางมายังจังหวัดเชียงใหม่เพื่อร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร เมื่อมาถึงท่าอากาศยานนานาชาติ จ.เชียงใหม่ ได้เดินทางไปสักการะพระธาตุดอยสุเทพ มีการถวายผ้าห่มพระธาตุ และอธิษฐานต่อพระธาตุดอยสุเทพ

 

ประเทศไทยแบ่งแยกมิได้ อย่าให้ใครมาชี้นำ - จะเกลียดผม ผมไม่ว่า ขอให้รักประเทศกว่ารักผม

โดยหลังการสักการะ พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวกับประชาชนที่มาต้อนรับที่วัดพระธาตุดอยสุเทพว่า "ผมมาทำให้ทุกคน ทำให้ทั้งประเทศ ทำให้ชาวเชียงใหม่ด้วย ก็ต้องเผื่อแผ่แบ่งปันคนอื่น เพราะว่าเชียงใหม่เป็นเมืองใหญ่ เศรษฐกิจก็ดีอยู่แล้ว ก็จะจัดระเบียบให้ ด้านการลงทุน ด้านเศรษฐกิจต่างๆ ให้มันดีหน่อย คนก็จะมาเที่ยวเยอะขึ้น มันจะได้เผื่อแผ่แบ่งปันด้วย"

"เราประเทศเดียวแบ่งแยกกันมิได้ 77 จังหวัด ก็นึกถึงกันนะ เลิกทะเลาะเบาะแว้งกันนะ ได้ไหม อย่าให้ใครมาชี้นำ วันนี้เราต้องเดินหน้าประเทศด้วย ทุกคนเป็นผู้กำหนดอนาคตของประเทศ ของตัวเอง ให้ทำสิ่งที่ถูกต้อง ทุกคนจะได้เจริญๆ นะ ถ้าเรามีความสุข คนอื่นมีความทุกข์ เราก็ไม่ได้กุศล ไม่ได้บุญ ถ้าเรามีความสุขแล้ว แบ่งปันเขาบ้าง เราอาจได้ประโยชน์น้อยลง แต่คนอื่นเขาได้ด้วย คือกุศล เราอุตสาห์ขึ้นมาทำบุญทุกวัน ไทยพุทธก็คิดอย่างนั้นนะ อย่าให้ใครยุยงปลุกปั่นนะทุกอย่างเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม รู้ล่ะว่าท่านรักใคร จะเกลียดผม ผมก็ไม่ว่า รักประเทศชาติให้มากกว่ารักผม"

 

วันแรกลองเดินตลาดนัดหน้าศูนย์ราชการ ทหาร - ตำรวจอารักขาแน่น

ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางมาที่ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเยี่ยมตลาดนัดชุมชนที่ตั้งอยู่ที่ศูนย์ราชการ ซึ่งจุดนี้มีทั้งตลาดธงฟ้า ราคาประหยัด ตลาดสินค้าการเกษตร กิจกรรมศูนย์เรียนรู้ เศรษฐกิจพอเพียง โดยมีรายงานว่า นายนาวิน สินธุสอาด รอง ผวจ. เชียงใหม่และคณะ ลงตรวจอำนวยการพร้อมทั้งส่วนล่วงหน้ากระทรวงมหาดไทยและสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อดูความเรียบร้อยในภาพรวมของตลาดนัด เนื่องจากนายกรัฐมนตรีและคณะ จะใช้เวลาตรวจเยี่ยม ที่จุดนี้ประมาณ 1 ชั่วโมง

ทั้งนี้มีการวางกำลังรักษาความปลอดภัยโดยรอบ โดยข้อมูลจาก มติชนออนไลน์ ระบุว่า ใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 33 กองทัพภาคที่ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดนของฝ่ายปกครองจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (อีโอดี) เดินตรวจหาสิ่งแปลกปลอมเป็นระยะ

 

ย้ำอีกครั้งเราเป็นประเทศไทย มีกรุงรัตนโกสินทร์มา 200 กว่าปีแล้ว อย่าให้ถูกทำลายในยุคของเรา

โดยที่ศูนย์ราชการ จ.เชียงใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "จังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มีทุกอย่างพร้อมในตัวของตัวเอง คือธรรมชาติ รอยยิ้ม ความรัก ผมเข้าใจท่านมีความรักต่อกัน คนเหนือด้วยกัน เราไม่ได้เป็นอาณาจักร มีอาณาจักรทิศเหนือ ทิศกลาง ทิศใต้ ทิศตะวันตก วันนี้เราเป็นประเทศไทย มีกรุงรัตนโกสินทร์มา 200 กว่าปีแล้ว เพราะฉะนั้น 200 กว่าปีอย่าให้ต้องถูกทำลาย ลงในสมัยยุคของเรา แล้ววันหน้าลูกหลานท่านอยู่ไม่ได้ แล้วคนไทยที่ยังไม่ได้เกิดมาอีกเมื่อไหร่ ท่านจะใช้ให้หมดเลยหรือ ป่าไม้ ทรัพยากรธรรมชาติ น้ำท่าใช้เกลี้ยงไปเลย ไม่ได้

 

ขอให้ประชาชนสร้างคุณธรรม-จริยธรรมในสังคม เลือกรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล

ท่านต้องสร้างคุณธรรม จริยธรรมในสังคมไทยให้ได้ แล้วเลือกตั้งรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาลนะ อย่าให้มันเกิดขึ้นมาอีก ผมไม่ได้ว่าใคร ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม อย่าให้ใครมาชักจูง อย่าให้ใครมาโน้มน้าวโดยที่ไม่ฟังเหตุผล มันมีเหตุผลของมันอยู่แล้ว มีหลักฐานอยู่แล้ว ไม่มีความผิดอยู่แล้วถ้าไม่มีอะไร ผมไม่ใช่ศัตรูกับใครมาทั้งสิ้น ผมทำงานมากับทุกรัฐบาล เพราะฉะนั้นขอให้ท่านไว้วางใจข้าราชการซึ่งพยายามขับเคลื่อนให้มาสู่ความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน หลายเรื่องที่รัฐบาลสั่งมาอาจจะไปไม่ถึงท่าน ผมสั่งทุกวัน สั่งเป็นร้อยเป็นพันเรื่องมาแล้ว อาจจะติดขัดบ้าง ก็เดี๋ยวแก้กัน

 

จะช่วยคนทุกอาชีพ เผยตั้งงบประมาณขาดดุล เพราะต้องใช้หนี้รัฐบาลเก่า

ต่อไปนี้เราต้องดูแลคนทุกอาชีพ ทุกรายได้ ทำอย่างไรให้เกษตรกร ซึงเป็นกลุ่มหลักที่รัฐบาลให้ความสำคัญ แต่ต้องให้ด้วยความถูกต้อง สร้างความเข้มแข็ง สร้างสหกรณ์การเกษตรเข้มแข็ง วิสาหกิจเข้มแข็ง สร้างเครือข่ายของตนเองขึ้นมา เพื่อไม่ให้ท่านเป็นเหยื่อ ไม่ใช่เหยื่อ ให้มีอำนาจต่อรองพ่อค้าคนกลางให้ได้ วันนี้ประเทศต้องเดินไป เศรษฐกิจข้ามชาติ เศรษฐกิจขนาดใหญ่ เศรษฐกิจขนาดกลาง ที่จะเชื่อมต่อกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา, ลาว, พม่า และเวียดนาม) รอบบ้านหรืออาเซียน เศรษฐกิจชุมชนท่านต้องแข็งแรงในแต่ละพื้นที่  แต่ละตำบล มีตลาดการค้าของตัวเอง จะได้ไม่ต้องไปซื้อของแพง ไม่ต้อง จะให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์เป็นหลัก จะหาสินค้าราคาถูกมาให้ใช้ แต่ต้องไม่มีผลกระทบกับกฎหมายใดๆ ต่างๆ ก็กำลังทำอยู่ คนรวยไม่ต้องซื้อนะ  พอมีขายให้คนจน คนรวยก็ซื้อด้วย เพราะฉะนั้นดูด้วย ใครใส่ทองเส้นใหญ่ไม่ให้ขาย รู้อยู่แล้วใครรวย ใครจน ถ้าพออยู่ได้คือคนที่อยู่ในฐานภาษี ใครไม่อยู่ในฐานเสียภาษีก็ยังจนทั้งนั้นแหละ รัฐบาลไม่มุ่งหมายจะเก็บภาษีใคร ต้องเข้มแข็งเสียก่อน ถึงจะเก็บภาษี ถ้าเราผลักดันออกนอกวงจรภาษี ประเทศชาติก็อยู่แค่นี้เอง ทุกวันนี้ตั้งงบประมาณไว้ 2,700,000 ล้านบาท เก็บได้ 2,300,000 ล้านบาท ขาดดุลไปแล้ว 400,000 ล้านบาท เพราะมันติดหนี้เก่า ต้องใช้หนี้เดิม เอาล่ะก็ไปหากันมา

เราต้องสร้างความเข้มแข็งให้ได้ทุกภาคส่วน ภาคธุรกิจต่างประเทศ ในประเทศ ธุรกิจชุมชน ถ้าท่านไม่ร่วมมือ มันไปไม่ได้ ข้าราชการคนไหนไม่ดีบอกมา วันนี้ต้องไม่มีผลประโยชน์ ทุกคนต้องทำงานร่วมมือกัน เมื่อไหร่เศรษฐกิจดี ประชาชนดี กำนันผู้ใหญ่บ้านดี ข้าราชการดี นักการเมืองดี เมื่อนั้นประเทศเรามหาศาล แล้วเราจะมีรายได้ เงินเดือน ไม่ใช่ ได้ทีละ 2,000-3,000-4,000 ขอทีละ 500 ให้ไปก็ไม่เกิดประโยชน์ เพราะราคาสินค้าขึ้นรออยู่แล้ว ต้องให้เข้มแข็ง ผมใช้เวลาที่ผมอยู่ กำลังทำทุกอย่างให้ไม่ว่าจะเรื่องราคาสินค้าและการเจรจาต่างประเทศ

 

ย้ำไม่ได้บิดพลิ้วสืบทอดอำนาจ ใช้อำนาจสร้างสรรค์ ทุกอย่างเข้าสู่ระบบกฎหมาย ใครสู้ไม่ได้ก็ติดคุก

นายกรัฐมนตรีกล่าวตอนหนึ่งด้วยว่า วันนี้บ้านเราเป็นแหล่งทรัพยากรดีที่สุดในอาเซียน โอกาสท่านมากสุดกว่าทุกประเทศในอาเซียน เป็นศูนย์กลางภูมิภาคเหล่านี้ อย่าทิ้งโอกาสเหล่านี้ด้วยความขัดแย้ง ท่านต้องสร้างเสถียรภาพ ใครชักชวนไปตีกันต้องเลิก ไม่เกิดประโยชน์ เลิกไปได้ ตีกันแล้วได้อะไร ไม่เห็นได้อะไรสักอย่าง ผมถือว่าคนไทยทั้งประเทศอยากให้ผมทำ ผมจะทำให้ในช่วงเวลาที่ผมอยู่ ผมไม่ได้บิดพลิ้วอะไรเลยนะตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวทุกอย่าง ยังไม่ได้สืบทอดอำนาจใช้อำนาจทางอะไร อำนาจทางสร้างสรรค์ ยังไม่ได้ใช้อำนาจเชิงผลประโยชน์สักบาทเลย รังแกใครก็ไม่ได้รังแก ทุกอย่างเข้าสู่ระบบ ใครผิดว่าตามกฎหมาย สู้ได้สู้ไป สู้ไม่ได้ก็ติดคุก ก็แค่นั้นเอง หรือใครคิดว่ามันต้องไม่ติดคุก ต้องอภัยโทษ ให้หมดเลยหรือไง ต้องไปถามคนติดคุกที่เหลือด้วยว่าจะให้อภัยเขาหรือเปล่า ต้องให้ความเป็นธรรม คนทุกคน ให้คืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เท่ากัน ไม่ว่าจะใครก็แล้วแต่ วันนี้ต้องแก้ปัญหาไม่ให้มีความขัดแย้ง ให้มีเสถียรภาพ ประเทศใดที่มีเสถียรภาพ ประเทศนั้นจะเจริญที่สุดในเวลาอันใกล้นี้

 

ประเทศไทยมี 77 จังหวัด เป็นรัฐเดี่ยวแบ่งแยกมิได้ รัฐธรรมนูญเขียนไว้แล้ว ใครทำผิดกฎหมาย

ตอนท้าย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "มีใครจะถามบ้าง มาให้ถามแล้วไม่ถามนะเดี๋ยวเหอะ" นอกจากนี้กล่าวด้วยว่า "ประเทศไทยมี 77 จังหวัด เพราะเป็นประเทศไทย เพราะระบบการปกครองของเราเป็นแบบนั้น ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข เป็นรัฐเดี่ยวแบ่งแยกมิได้ ใครจะมาพูดให้ท่านแบ่งแยก เป็นไปไม่ได้ รัฐธรรมนูญเขียนไว้แล้ว ใครทำสิ ผิดกฎหมาย เพราะฉะนั้นอย่าบอกว่าทำไปแล้วไม่ผิด ผิดทั้งหมด แผ่นดินนี้เป็นแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ มีแค่นี้มีขวาน กับด้ามขวานแค่นี้ แล้วจะแยกกันไปไหน แยกไปแล้วจะสู้เขาได้ไหม วันนี้หลายประเทศแยกไปแล้วอยู่ไม่ได้สักประเทศหนึ่ง ค้าขายใครก็ไม่ได้ เพราะไม่เข้มแข็ง ประเทศแม่ก็ต้องมาอุ้มชูดูแล ก็เลยลากกันพังไปทั้งคู่ ทำไมเราต้องไปแบ่งอย่างนั้น การปกครองก็เป็นแบบนี้ การปกครองพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานมาแล้วระบอบประชาธิปไตยอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ มีอำนาจบริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ ประชาชนมีส่วนร่วมเลือก ส.ส. เลือกผู้แทน เมื่อทำประชามติก็มาทำกับเขา เสนอการแก้ไขปัญหากับ ส.ส. ที่ท่านเลือกไป ให้เข้าช่องทางรัฐสภา อำนาจสามอำนาจไม่มีใครแยกไปจากท่านได้ เว้นคนบางคนแย่งไปจากท่าน ถ้าท่านไม่เข้มแข็งจะถูกแบ่งพรรคพวก แล้วคนได้ก็คือคนที่ได้ คนที่ไม่ได้คือไม่ได้แล้วทะเลาะกันเหมือนเดิม ท่านต้องเข้มแข็งนะครับ เลือกคนที่ดี มีธรรมาภิบาล หลายคนผมก็ทำให้ชัดเจนขึ้นเท่านั้นเอง ใครล่ะมีรายชื่อก็สู้กันมา บ้านนี้ต้องอยู่ด้วยกฎหมาย ความเท่าเทียมจะมีได้ด้วยกฎหมาย ทำให้ทุกคนได้รับความเป็นธรรมด้านกฎหมาย ด้านอาชีพ ด้านรายได้ ตามขีดความสามารถที่เขามีอยู่ คือการเท่าเทียมด้วยกฎหมาย เพราะถ้าไม่มีกฎหมายก็มือใครยาวสาวได้สาวเอา ต้องเข้าใจเรื่องกฎหมายให้ถูก ไม่ได้เอากฎหมายไว้ให้ข้าราชการข่มขู่ท่าน"

ทั้งนี้หลังจากภารกิจที่ศูนย์ราชการ จ.เชียงใหม่ นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปร่วมงานเลี้ยงรับรองอาหารค่ำที่โรงแรมกรีนเลค รีสอร์ท หรือ สถานพักฟื้นและพักผ่อนกองทัพบก ถ.ริมคลองชลประทาน ซึ่งเป็นสถานที่พักของคณะรัฐมนตรี

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net