Skip to main content
sharethis

1 ก.ย. 2558 พ.อ. วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงภายหลังการประชุมศูนย์ติดตามสถานการณ์คสช. ว่า สำหรับความคืบหน้าการสอบสวนคดี(ระเบิดแยกราชประสงค์เมื่อวันที่ 17 ส.ค.58) ตั้งแต่เริ่มเกิดเหตุการณ์จนถึงปัจจุบัน ศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องสงสัยแล้วจำนวน 4 ราย ได้แก่ 1.ชายที่สวมเสื้อสีเหลืองซึ่งอาจจะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่ราชประสงค์ 2. ชายที่สวมเสื้อฟ้าซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่ท่าเรือสาทร 3. ชายตามภาพสเก็ตส์ซึ่งมีผู้พบเห็นว่าเป็นผู้พักอาศัยในห้องเช่าย่านมีนบุรี ที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบอุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบระเบิด และ 4. น.ส.วรรณา สวนสัน ซึ่งเป็นผู้ทำสัญญาเปิดเช่าห้องพักในพื้นที่มีนบุรีจำนวนหลายห้อง ที่มีชายชาวต่างชาติตามภาพสเก็ตส์เข้ามาพักอาศัย อย่างไรก็ตาม ในส่วนของน.ส.วรรณา ซึ่งพำนักอยู่ในต่างประเทศ ได้ติดต่อขอเข้าให้ปากคำแก่ทางเจ้าหน้าที่แล้ว

“ล่าสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง อยู่ระหว่างการซักถามผู้ต้องหาที่ควบคุมตัวได้จากพื้นที่หนองจอกเมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนคดีเป็นอย่างมาก จนนำไปสู่การขยายผลติดตามจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม และจากผลการสอบพยานต่างๆ โดยเฉพาะพยานบุคคลและผลพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปอย่างรวดเร็วมากขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่จะชี้แจงข้อมูลที่มีความชัดเจนแล้วเท่านั้น ให้ประชาชนและสังคมได้รับทราบ เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง และเพื่อให้การขยายผลการสืบสวนคดีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ขอความร่วมมือผู้ประกอบการ อาคารที่พัก เกสต์เฮาส์และห้องเช่าต่างๆ หากพบเห็นบุคคลที่มีพฤติกรรมน่าสงสัยเข้ามาพักอาศัย ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจที่ใกล้ที่สุด หรือติดต่อมายังเบอร์โทรศัพท์สายด่วน 1515 ได้ทันที” พ.อ.วินธัย กล่าว

โฆษกคสช. กล่าวขอความร่วมมือสื่อมวลชนทุกแขนงให้งดการนำเสนอข่าวในเชิงด่วนสรุปหรือคาดเดาไปเอง โดยปราศจากข้อมูลที่ได้รับการยืนยันจากทางราชการ เนื่องจากการกระทำดังกล่าวถือเป็นการชี้นำต่อการรับรู้ของประชาชน จนอาจทำให้สังคมเกิดความตื่นตระหนกและส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศได้

ตร.แถลงจับชายต่างชาติที่สระแก้วคุมสอบเอี่ยวระเบิดกรุง

วันเดียวกัน พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงกรณีมีการควบคุมตัวชายชาวต่างชาติ ซึ่งมีใบหน้าคล้ายกับผู้ต้องหาในคดีลอบวางระเบิดใกล้สี่แยกราชประสงค์ และสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินหรือท่าเรือสาทร เมื่อวันที่ 17 และ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่ชายแดนเขตพื้นที่บ้านดงงู ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ขณะหนีไปกัมพูชา ยืนยันว่าอยู่ในขบวนการวางระเบิด และรูปร่างใบหน้าคล้ายกับชายเสื้อเหลืองตามภาพวงจรปิด อีกทั้งผลตรวจดีเอ็นเอก็ตรงกับเสื้อผ้าในห้องเช่าย่านมีนบุรี ที่มีการแชร์ภาพพาสปร์อตชาวจีนนั้น ไม่ใช่ของบุคคลนี้ โดยขอเวลาตรวจสอบลายนิ้วมือและสอบปากคำก่อน เบื้องต้นแจ้งข้อหาพยายามหลบหนีออกนอกประเทศ ส่วนข้อหาอื่นอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน ยังไม่ยืนยันว่าชายคนนี้เป็นคนเดียวกับชายสวมเสื้อสีเหลือง แต่รูปพรรณสัณฐานคล้ายชายเสื้อเหลืองตามภาพสเก็ต เนื่องจากต้องรอคำยืนยันจากพยานในที่เกิดเหตุก่อน โดยคุมชายคนนี้ไปสอบสวนที่กองพันทหารราบ มณฑลทหารบกที่ 11 ตามกฎหมายมาตรา 44 สถานที่เดียวกับชายคนแรก ทั้งนี้เชื่อว่าการลอบวางระเบิดทำกันมานานและเป็นขบวนการ วันที่ 7 กันยายนนี้ จะเรียกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำด่านตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศประชุมเพื่อมอบนโยบายและวางมาตราการป้องกันคนร้ายหลบหนีออกนอกประเทศ

ศาลออกหมายจับเพิ่มอีก 3 คดีบึ้มราชประสงค์-สาทร

วันเดียวกัน ศาลจังหวัดมีนบุรี ออกหมายจับนายอาลิ โจลัน สัญชาติตุรกี ตามภาพสเก็ตคนร้ายที่ 0357/58 นายอาฮ์เม็ท โบซองแลน และชายชาวตุรกีไม่ทราบชื่อตามภาพสเก็ตคนร้ายที่ 0367/58 ในข้อหา ร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ตามคำร้องขอของพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี โดยทั้ง 3 คนเป็นคนเช่าห้องพักและเป็นผู้พักอาศัยในห้องพักที่มีการเช่าไว้รวม 5 ห้อง ของพูลอนันต์อพาร์ทเม้นท์ ย่านหนองจอก สถานที่ที่เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมชายชาวต่างชาติคนแรกพร้อมของกลางอุปกรณ์ประกอบวัตถุระเบิดและรายการอื่นๆเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (29 ส.ค.) ทำให้จนถึงขณะนี้ศาลได้ออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องกับคดีระเบิดใกล้สี่แยกราชประสงค์และท่าเรือสาทรดังกล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net