Skip to main content
sharethis

ผบช.ภ.8 อัด ‘ปวีณ ผู้นำการสืบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา’ ให้สัมภาษณ์สื่อหลังขอลี้ภัยทางการเมืองที่ออสเตรเลียสร้างความเสื่อมเสียแก่ตำรวจ-ประเทศไทยอย่างมาก บอกความจริงไม่รอบด้าน เจ้าตัวเกรงเป็นเหมือน ‘พล.ต.อ.สมเพียร’

12 ธ.ค. 2558 จากกรณีที่ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ผู้นำการสืบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา ยื่นขอลี้ภัยในออสเตรเลีย โดยกล่าวว่าเพราะคดีของเขาสืบสาวไปถึงผู้มีอิทธิพลรวมถึงนักการเมืองและคนในเครื่องแบบ ทำให้เขาต้องการลี้ภัยเพราะเกรงจะถูกหมายเอาชีวิต (อ่านรายละเอียด) นั้น

ล่าสุดวันนี้(12 ธ.ค.58) มติชนออนไลน์ รายงานว่า เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมสำนักงานตำรวจภูธรภาค 8 สุราษฎร์ธานี พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผู้บัญชาการภาค 8 (ผบช.ภ.8) แถลงข่าวโต้ พล.ต.ต.ปวีณ ที่ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศในการทำคดีค้ามนุษย์ และยังเปิดเผยถึงการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ที่ทำให้มีผลต่อชีวิตและทำเรื่องขอลี้ภัยทางการเมืองในประเทศออสเตรเลีย ว่า การให้สัมภาษณ์ของ พล.ต.ต.ปวีณ สร้างความเสื่อมเสียต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และประเทศไทยอย่างมาก

"ในฐานะผู้บังคับบัญชาชั้นต้น มองว่า พล.ต.ต.ปวีณเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่มีวินัยในการทำงานและไม่เชื่อฟังคำสั่งผู้บังคับบัญชา จึงได้ปฏิเสธที่จะตอบรับให้เป็นรอง ผบช.ภ.8 เนื่องจากมีปัญหาด้านการปกครอง ทาง ตร.จึงพิจารณาให้ไปช่วยทำสำนวนด้านการสอบสวนที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในตำแหน่งรองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนใต้ (รอง ผบช.ศชต.) ถูกต้องตามขั้นการแต่งตั้งโยกย้าย ก่อนจะเกิดเรื่องราวต่างๆ ขึ้น หากการแต่งตั้งโยกย้ายไม่ได้รับความเป็นธรรมสามารถยื่นขอความเป็นธรรมได้ แต่ พล.ต.ต.ปวีณไม่ทำ เลือกใช้วิธีแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน" พล.ต.ท.เทศา กล่าว

"กรณี พล.ต.ต.ปวีณให้สัมภาษณ์ว่าถูกข่มขู่จากเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และนักการเมืองท้องถิ่นจนไม่กล้าปฏิบัติหน้าที่ในส่วน 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้ เป็นเหตุให้ต้องลาออกจากราชการ ซึ่งไม่เป็นเรื่องจริงแต่อย่างใด ผมก็ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าชุดสืบสวนการค้ามนุษย์ในพื้นที่ภาค 8 มีผู้ต้องหากว่า 70 ราย และมีพนักงานสอบสวนกว่า 20 ท่าน แต่ก็ไม่ได้ถูกข่มขู่จากการปฏิบัติหน้าที่ในคดีการค้ามนุษย์ ในส่วนของชุดสืบสวนของพื้นที่ภาค 9 ยังไม่มีใครออกมาบอกว่าโดนข่มขู่จากการปฏิบัติหน้าที่เช่นกัน การสัมภาษณ์ในลักษณะนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม สร้างความเสื่อมเสียต่อ ตร. ทำลายขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ผู้ใต้บังคับบัญชากว่า 1 หมื่นนาย" พล.ต.ท.เทศา กล่าว

พล.ต.ท.เทศา กล่าวต่อว่า กรณีขอลี้ภัยทางการเมืองที่ประเทศออสเตรเลียและให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศนั้น พล.ต.ต.ปวีณบอกความจริงไม่หมดทุกด้าน กรณีนี้ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จะได้เปิดแถลงข่าวอีกครั้ง

เกรงเป็นเหมือน พล.ต.อ.สมเพียร

ทั้งนี้ พล.ต.ต.ปวีณ ได้ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีไทยเมื่อวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา ว่า “เราคิดว่ามันวาระแห่งชาติ เป็นเรื่องของการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ประชาคมโลกต้องการให้ดำเนินการ และเชื่อมั่นว่ารัฐนี่จะคุ้มครองผู้ทำหน้าที่ แต่ปรากฏว่าเมื่อดำเนินการส่งสำนวนการสอบสวนไปแล้วนั้น ผมนี่ถูกย้ายไปอยู่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถ้าหากเป็นภาวะการณ์ปกติที่ผมไม่เคยไปจับกุมผู้ต้องหาจำนวนมากขนาดนี้ทำให้ผมมีศตรูจำนวนมาก และใน3 จังหวัดเป็นพื้นที่สำคัญ ที่ขบวนการค้ามนุษย์อยู่ตรงนั้น รวมทั้งกลุ่มของทหารที่กระทำผิดก็อยู่ในนั้นด้วย จึงเป็นอันตราย ผมได้ร้องขอผู้บังคับบัญชาทบทวนทุกระดับไม่มีใครให้ความเห็นใจ ไม่มีการปกป้อคุ้มครอง ผมเห็นว่าถ้าไปที่นั่นมันอันตรายแน่นอน และมีกรณีตัวอย่างของ พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา" พร้อมระบุด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ทราบเรื่องดี แต่ไม่มีการทบทวนคำสั่ง

จนกระทั่งวานนี้(11 ธ.ค.58)  พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ออกมากล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ส่วนตัวไม่ทราบเจตนาของ พล.ต.ต.ปวีณ ว่าทำไปเพราะเหตุใด การพูดลักษณะดังกล่าวต้องการทำร้ายประเทศหรือไม่ และไม่ทราบว่าจะมีเรื่องของการเมืองมาเกี่ยวข้องหรือไม่ โดยยืนยันมาตลอดว่าตัวเองได้แก้ไขปัญหาให้ พล.ต.ต.ปวีณ มาโดยตลอด แต่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ไม่รับ พล.ต.ต.ปวีณ จึงต้องแก้ปัญหาโดยส่งลงใต้ เพราะที่ผ่านมา พล.ต.ต.ปวีณ เคยแสดงความประสงค์อยากไป และมองว่าเป็นความต่อเนื่องในการทำคดี

ผบ.ตร. ยังได้เรียกร้องให้ อย่าเอาองค์กรมาขาย อย่าทำร้ายประเทศ และระบุด้วยว่าหากการกระทำของพล.ต.ต.ปวีณ เข้าข่ายหมิ่นประมาทจะให้พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้ดำเนินการฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาท (อ่านรายละเอียด)

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net