6 เม.ย. 2558 วานนี้ สุรพงษ์ กองจันทึก อดีตประธานคณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ผู้ไร้สัญชาติ แรงงานข้ามชาติและผู้พลัดถิ่น สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับสำนักงานพื้นที่เขตการศึกษาตาก เขต 2 และสำนักทะเบียน 5 อำเภอชายแดนตาก ได้แก่ อำเภอท่าสองยาง แม่สอด แม่ระมาด พบพระ และ อุ้มผาง ประชุมตกลงที่จะดำเนินการให้เด็กนักเรียนที่ไม่มีเลข 13 หลัก และไม่ได้เข้าสู่ระบบทะเบียนราษฎร ได้เข้าสู่ระบบทะเบียนราษฎร มีเลข 13 หลัก และได้รับบัตรเอกสารแสดงตน โดยมีกลุ่มเป้าหมายที่กระทรวงศึกษาธิการได้บันทึกข้อมูลเด็กเหล่านี้ด้วยรหัสนำหน้าตัว G จำนวนนักเรียน 8,151 คน ใน 117 โรงเรียน และ 7 ห้องเรียนสาขา ปัจจุบันมีโรงเรียนส่งข้อมูลมาแล้วจำนวน 2,545 คน และกำลังตรวจสอบความถูกต้อง เพื่อทยอยส่งให้สำนักทะเบียนดำเนินการต่อไป

นอกจากนี้ นายธนยศ ปานขาว นายอำเภอแม่สอด ได้มอบบัตรบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน ให้กับโรงเรียนเอกชนการกุศล 7 โรงเรียนในอำเภอแม่สอด ซึ่งได้ดำเนินการจัดทำทะเบียนประวัติออกเลข 13 หลัก และจัดทำบัตรให้นักเรียนที่ไม่มีเลข 13 หลักเรียบร้อยแล้ว ได้แก่ โรงเรียนอิสลามศึกษา 55 คน โรงเรียนราษฎร์วิทยา 7 คน โรงเรียนศิริวรรณศึกษา 3 คน โรงเรียนสันถวไมตรีศึกษา 40 คน โรงเรียนอนุกูลวิทยา 161 คน โรงเรียนภัทรวิทยา 22 คน และโรงเรียนธรรมวัตรวิทยา 46 คน รวมทั้งสิ้น 334 คน

สุรพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในพระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร แก้ไขฉบับที่ 2 พ.ศ.2551 ได้กำหนดให้มีการจัดทำทะเบียนประวัติคนต่างๆ ที่มีภูมิลำเนาอาศัยในประเทศไทยไว้ทั้งหมด เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการประชากรของประเทศ การตรวจสอบ ควบคุมและพิสูจน์ตัวบุคคล และเป็นการสอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศเกี่ยวกับหลักสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยได้เข้าร่วมภาคี เฉพาะเด็กนักเรียนในโรงเรียนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มีอยู่ถึงประมาณ 70,000 คน ที่ไม่มีเอกสารทางทะเบียนใดๆ เลย ซึ่งต้องดำเนินการให้ได้เอกสารแสดงตนและเข้าสู่ระบบทะเบียนราษฎร กรณีที่สำนักงานพื้นที่เขตการศึกษาประถมศึกษาตากเขต 2 ดำเนินการอยู่ จะเป็นพื้นที่นำร่องในการแก้ไขปัญหาให้เด็กนักเรียนเหล่านี้