Skip to main content
sharethis

20 ธ.ค. 2559  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้อาศัยอํานาจตามความใน ม.44 ของรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว 2557 ออกคำสั่งหัวหน้า คสช. เกี่ยวกับกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม 2 คำสั่ง ประกอบด้วย คำสั่ง คสช. ที่ 75/2559 เรื่อง ระงับการคัดเลือกบุคคลและการสรรหาเพื่อเสนอชื่อเป็นกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ และ คำสั่ง คสช. ที่ 76/2559 เรื่อง มาตรการส่งเสริมการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ

สำนักข่าวไทย รายงานว่า พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คำสั่งหัวหน้า คสช. ตามมาตรา 44 ระงับการคัดเลือกบุคคลเพื่อสรรหากรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สืบเนื่องจากมีกรรมการที่พ้นสภาพจากตำแหน่ง เพราะมีอายุครบ 70 ปีบริบูรณ์ โดยเห็นว่า คณะกรรมการที่เหลืออยู่ยังสามารถปฏิบัติงานได้ จึงออกมาตรา 44 ให้ คณะกรรมการที่เหลืออยู่ปัจจุบัน 9 คนทำงานต่อไป จนแต่ละคนพ้นสภาพ โดยไม่ต้องสรรหาคนใหม่ แต่หากพ้นสภาพจนเหลือไม่ถึง 6 คน หรือกฏหมายที่แก้ไขอยู่มีการประกาศใช้ จึงจะมีการสรรหาคนใหม่

พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า ยังให้มีคำสั่งตาม มาตรา 44 เกี่ยวกับมาตรการส่งเสริมการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เพื่อประโยชน์สาธารณะ โดยในส่วนของวิทยุ คสช.มีความต้องการให้ข้อมูลข่าวสารไม่ถูกบิดเบือน จากเดิมตามแผนแม่บทปี 2555 คลื่นความถี่วิทยุของหน่วยงานรัฐต้องส่งคืน กสทช. ภายในเดือนเมษายน 2560 แต่เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันที่เปลี่ยนไป  จึงขยายระยะเวลาการใช้แผนแม่บทออกไปอีก 5 ปี

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนมาตรการของโทรทัศน์นั้น เนื่องจากผู้ประกอบการโทรทัศน์มีการประมูลทีวีดิจิตอลกันในราคาที่สูง และในสภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ทำให้ผู้ประกอบการได้รับความเดือดร้อน ไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ จึงได้ขยายระยะเวลาการชำระใบอนุญาตที่ค้างอยู่ 1 งวด ซึ่งต้องชำระภายใน 1 ปี ออกเป็น 2 งวด ชำระภายใน 2 ปี  โดยเสียดอกเบี้ยร้อยละ 1.5 ต่อปี ส่วนเงินส่วนต่างที่เกิดจากการประมูล จากเดิมจ่ายไปแล้ว 3 งวดเหลืออีก 3 งวด ให้มีการขยายระยะเวลาการจ่ายได้ 6 งวด ภายใน 6 ปี จากเดิม 3 งวดใน 3 ปี ดอกเบี้ยร้อยละ 1.5 ต่อปี ทั้งนี้ผู้ประกอบการที่ต้องการจ่ายเพียงดอกเบี้ยไปก่อนก็สามารถทำได้

นอกจากนี้ ยังมีคำสั่งตามมาตรา 44 ให้กองทุนวิจัยพัฒนา กสทช. เพื่อประโยชน์สาธารณะสนับสนุนค่าใช้จ่ายการส่งสัญญาณผ่านดาวเทียม เป็นระยะเวลา 3 ปี ปีละ 875 ล้านบาท เพื่อให้ประชาชนจะสามารถรับชมข่าวสารผ่านโทรทัศน์ภาคพื้นดินได้ทุกช่องทาง ทั้งหนวดกุ้ง และทีวีเคเบิล

ระงับ สรรหากรรมการ กสทช. 

รายละเอียดเผยแพร่ในเว็บราชกิจจานุเบกษา โดย คำสั่ง คสช. ที่ 75/2559 เรื่อง ระงับการคัดเลือกบุคคลและการสรรหาเพื่อเสนอชื่อเป็นกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ระบุว่า โดยที่ขณะนี้ได้มีการเสนอแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกํากับ การประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 ซึ่งอยู่ใน ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยจะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในส่วนขององค์ประกอบ คุณสมบัติ กระบวนการได้มา และการปฏิบัติหน้าที่ของ กสทช. ให้แตกต่างไปจากบทบัญญัติเดิม ที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้ เมื่อปรากฏว่ามีกรรมการใน กสทช. ด้านกฎหมาย พ้นจากตําแหน่ง เนื่องจากมีอายุครบเจ็ดสิบปีบริบูรณ์ จึงเห็นสมควรให้ระงับกระบวนการได้มาซึ่งกรรมการแทนตําแหน่ง ที่ว่างลงไว้ก่อน เพราะการพ้นจากตําแหน่งดังกล่าวแม้จะเป็นเหตุให้ กสทช. มีจํานวนเหลืออยู่เพียงเก้าคน ก็ไม่มีผลกระทบในทางกฎหมายต่อการปฏิบัติหน้าที่ของ กสทช. แต่อย่างใด เนื่องจากมาตรา 20 วรรคสาม ได้บัญญัติให้กรรมการที่เหลืออยู่ยังคงสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ โดยให้ถือว่า กสทช. ประกอบด้วย กรรมการเท่าที่เหลืออยู่ ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการบริหารงานภาครัฐและไม่ให้เกิดความสิ้นเปลืองและซ้ําซ้อน ทางด้านงบประมาณ

อาศัยอํานาจตามความในม.44 ของรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว 2557 หัวหน้า คสช.โดยความเห็นชอบของคสช. จึงมีคําสั่ง ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ให้ระงับการคัดเลือกและสรรหาบุคคลเพื่อเสนอชื่อเป็นกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ แทนตําแหน่งที่ว่างลง ตามพระราชบัญญัติองค์กร จัดสรรคลื่นความถี่และกํากับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 ไว้จนกว่าจะมีกรรมการเหลืออยู่ไม่ถึงหกคน หรือจนกว่าร่างพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรร คลื่นความถี่และกํากับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. .... ที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติในวันก่อนวันที่คําสั่งนี้จะมีผลใช้บังคับ หรือจนกว่าจะมีคําสั่งเป็นอย่างอื่น แล้วแต่กรณีใดจะเกิดขึ้นก่อน และให้ กสทช. ประกอบด้วย กรรมการเท่าที่เหลืออย
 
ให้นําความในวรรคหนึ่ง มาใช้บังคับกับองค์ประกอบของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์และคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมด้วย โดยอนุโลม 
 
ข้อ 2 ในกรณีเห็นสมควรนายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีอาจเสนอให้คณะรักษา ความสงบแห่งชาติแก้ไขเปลี่ยนแปลงคําสั่งนี้ได้ ข้อ 3 คําสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
 

มาตรการส่งเสริมการประกอบกิจการ

คำสั่ง คสช. ที่ 76/2559 เรื่อง มาตรการส่งเสริมการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ ระบุว่า โดยที่ในปัจจุบันการประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ประเภทบริการ ทางธุรกิจระดับชาติ มีการแข่งขันในรูปแบบที่หลากหลาย ประกอบกับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจ ของประเทศที่ส่งผลต่อรายได้ของผู้ประกอบการที่สุจริตทําให้ไม่อาจชําระค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ให้ใช้คลื่นความถี่ได้ทันภายในระยะเวลาที่กําหนด ในขณะเดียวกันการส่งเสริมให้ประชาชนสามารถ เข้าถึงและรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่มีความหลากหลาย ถูกต้อง ครบถ้วน และปราศจากการบิดเบือน ยังมีความสําคัญทั้งในด้านการรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของชาติ การส่งเสริมความสามัคคีและ สมานฉันท์ของประชาชน จึงจําเป็นต้องมีการส่งเสริมให้โทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไปผ่านดาวเทียม สามารถดําเนินการได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ ซึ่งมาตรการในการส่งเสริมนี้จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่น ให้แก่ผู้ประกอบการทั้งภาครัฐและเอกชน และยังเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม ให้เกิดประสิทธิภาพและสร้างความมั่นคงให้แก่ระบบเศรษฐกิจ โดยรวมของประเทศ
 
อาศัยอํานาจตามความในม.44 ของรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว 2557 หัวหน้า คสช.โดยความเห็นชอบของคสช. จึงมีคําสั่ง ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ในคําสั่งนี้ “ประกาศ” หมายความว่า ประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการประมูลคลื่นความถี่เพื่อให้ บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติ พ.ศ. 2556
 
ข้อ 2 ให้ผู้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ตามประกาศ ชําระค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ให้ใช้คลื่นความถี่ ในส่วนที่เหลือตั้งแต่งวดที่สี่เป็นต้นไป ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ที่กําหนดในข้อ 10 ของประกาศ ข้อ 3 หากผู้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่รายใดไม่สามารถปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ตามข้อ 2 ได้ ให้ผู้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่รายนั้นแจ้งเป็นหนังสือไปยัง สํานักงาน กสทช. ล่วงหน้าก่อนวันครบกําหนดชําระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ตามที่ กําหนดไว้ในประกาศ ในกรณีที่สํานักงาน กสทช. พิจารณาแล้วเห็นเป็นการสมควร ก็ให้ผู้รับใบอนุญาตรายนั้น ชําระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ในส่วนที่เหลือทั้งหมดตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และ เงื่อนไขที่กําหนดไว้ในบัญชีท้ายคําสั่งนี้ รวมทั้งต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขอื่น ตามประกาศด้วย
 
ข้อ 4 การชําระค่าธรรมเนียมตามคําสั่งนี้ ไม่เป็นการตัดสิทธิผู้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ ที่จะขอชําระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ในส่วนที่เหลือตามที่กําหนดไว้ในข้อ 10 ของประกาศ โดยให้ผู้รับใบอนุญาตนั้นแจ้งเป็นหนังสือไปยังสํานักงาน กสทช. ล่วงหน้าก่อนวันครบกําหนดชําระ ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ตามประกาศ ข้อ 5 การชําระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ตามข้อ 3 มิให้นํามาใช้บังคับ กับผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติ ที่ขอยกเลิก การประกอบกิจการหรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์และใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ เพื่อประกอบกิจการดังกล่าวก่อนวันที่คําสั่งนี้มีผลใช้บังคับ
 
ข้อ 6 ให้ กสทช. และ สํานักงาน กสทช. หรือคณะกรรมการบริหารกองทุนวิจัยและ พัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ แล้วแต่กรณี จัดให้มีการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการส่งสัญญาณโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไปผ่านดาวเทียม ตามประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป เป็นระยะเวลาสามปี การดําเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้ใช้จ่ายเงินจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ โดยให้คํานึงถึงการใช้จ่ายอย่างมี ประสิทธิภาพ ประหยัด และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน และครอบคลุมถึง บริการโทรทัศน์สาธารณะที่นํารายการมาออกอากาศผ่านดาวเทียมซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนชาวไทย ในประเทศและที่พํานักในต่างประเทศได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างทั่วถึง ต่อเนื่อง และหลากหลาย
 
ข้อ 7 ให้ กสทช. หรือสํานักงาน กสทช. ดําเนินการเรียกคืนคลื่นความถี่เพื่อนําไป จัดสรรใหม่หรือปรับปรุงการใช้คลื่นความถี่ตามแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ (พ.ศ. 2555) เมื่อพ้นกําหนดระยะเวลาห้าปี นับแต่วันครบกําหนดแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ดังกล่าว ทั้งนี้ ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐที่ประกอบกิจการกระจายเสียงตามพระราชบัญญัติ การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 และได้รับความเห็นชอบให้ถือครอง คลื่นความถี่ตามพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกํากับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 ยังคงมีสิทธิในการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงและ การถือครองคลื่นความถี่ดังกล่าวได้ตามขอบเขตและสิทธิเดิม
 
ข้อ 8 ในกรณีเห็นสมควรนายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีอาจเสนอให้คณะรักษา ความสงบแห่งชาติแก้ไขเปลี่ยนแปลงคําสั่งนี้ได้ ข้อ 9 คําสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net