ญาติและเพื่อนของ "ชัยภูมิ ป่าแส" ทำพิธีฝังศพตามประเพณีท้องถิ่นแล้ว ขณะที่ความคืบหน้าทางคดี ผู้รอดชีวิต 1 รายถูกส่งฝากขังเรือนจำ ด้านโฆษกกองทัพบกชี้แจงทหารยิงเพื่อป้องกันตัว ขณะที่ในโลกโซเชียลโดยเฉพาะในทวิตเตอร์ มีการติดแฮชแท็ก "#ชัยภูมิ" "#RIPชัยภูมิ" เรียกร้องให้สืบสวนหาข้อเท็จจริง
ญาติและเพื่อนๆ ของ "ชัยภูมิ ป่าแส" มาร่วมพิธีฝังศพเมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2560 (ที่มา: ภาพจากเพจ Maitree Savelahu)
ข้อความไว้อาลัยของเพื่อนๆ "ชัยภูมิ ป่าแส" (ที่มา: ภาพจากเพจ Maitree Savelahu)
ภาพถ่ายเมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2560 ในพิธีศพ "ชัยภูมิ ป่าแส" จัดขึ้นที่บ้านของเขาในชุมชนกองผักปิ้ง ด้านซ้ายมือของภาพคือกีตาร์ตัวโปรดของเขา ซึ่งอยู่ในรถคันเกิดเหตุ โดยหลังเกิดเหตุเพื่อนๆ ต้องไปขอกีตาร์มายังอยู่ภายในรถนำกลับมาร่วมงานศพของเขา (ที่มาของภาพ: เอื้อเฟื้อภาพจาก Aom AMM)
20 มี.ค. 2560 - กรณีเจ้าหน้าที่สังกัดหน่วยเฉพาะกิจ ฉก.ม.5 กองกำลังผาเมือง ซึ่งตั้งจุดตรวจอยู่ที่ด่านตรวจบ้านรินหลวง ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ยิงวิสามัญ "ชัยภูมิ ป่าแส" นักกิจกรรมชาวลาหู่ อายุ 17 ปี โดยอ้างว่าผู้ตายขัดขืนการจับกุมยาบ้าที่ซุกซ่อนมาในที่กรองอากาศของรถยนต์ และหยิบมีดจากหลังรถต่อสู้กับเจ้าหน้าที่และวิ่งหนีเข้าไปในป่า โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่าผู้ตายจะขว้างระเบิดสังหาร จึงยิงผู้ตาย 1 นัด และยังจับกุมเยาวชนอีก 1 คนชื่อ "พงศนัย" ที่เป็นคนขับรถนั้น
ญาติและเพื่อนร่วมส่ง "ชัยภูมิ ป่าแส" เป็นครั้งสุดท้าย
ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 มี.ค. มีรายงานว่าญาติและเพื่อนของ "ชัยภูมิ ป่าแส" ได้ทำพิธีฝังศพตามประเพณีท้องถิ่นแล้วที่สุสานของชุมชนแล้ว ส่วนความคืบหน้าทางคดี ขณะนี้เยาวชนชายอายุ 19 ปี ที่ถูกจับกุมอีกคนหนึ่ง ขณะนี้ถูกส่งไปฝากขังที่เรือนจำ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
ขณะเดียวกัน ในทวิตเตอร์ มีการติดแฮชแท็ก #ชัยภูมิ #RIPชัยภูมิ ฯลฯ และยังเรียกร้องให้สื่อมวลชนเกาะติดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย
ฝากสำนักข่าวออนไลน์ไทยกับแท็ก #RIPชัยภูมิ @thematterco @themomentumco @ThaiPublica @way_magazine @iLawFX @isranews_agency @prachatai
— FUCK YOU #พรบคอม (@owner_duck) March 19, 2017
ต้องอยู่กับอะไรแบบนี้จริงๆหรอวะ #มิตรสหายท่านหนึ่ง #ripชัยภูมิ pic.twitter.com/k0ue9fsZM8
— น้องจะจบปีนี้ (@Nii_1995) March 20, 2017
โฆษกกองทัพบกชี้แจงว่าผู้ต้องสงสัยต่อสู้ขัดขืน ทหารจำเป็นต้องยิง
อนึ่งในรายงานของมติชนออนไลน์ พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงเหตุวิสามัญฆาตกรรม "ชัยภูมิ ป่าแส" ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นไปในลักษณะที่สุดวิสัย เนื่องจากผู้ต้องสงสัยมีพฤติกรรมต่อสู้ขัดขืน และพยายามที่จะทำร้ายโดยประสงค์ต่อชีวิตเจ้าหน้าที่ จึงจำเป็นต้องป้องกันตัว โดยนายชัยภูมิ ซึ่งเป็นผู้ที่นั่งมาด้วยทางด้านหน้าข้างคนขับ ได้มีการขัดขืนโดยได้วิ่งหนีออกจากรถไป เพื่อหวังจะหลบหนีการจับกุม ทางเจ้าหน้าที่ทหารจึงได้วิ่งไล่ติดตามไปและเมื่อใกล้ถึงตัวนายชัยภูมิ กลับเกิดเหตุการณ์ที่น่าเสียใจคือ นายชัยภูมิกลับหยิบระเบิดมือที่พกไว้ออกมา พยายามที่จะขว้างปาใส่เพื่อหวังจะทำร้ายเจ้าหน้าที่ “ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องใช้อาวุธปืนประจำกายยิงออกไป เพื่อจะหยุดการกระทำและเพื่อเป็นการป้องกันตัวจำนวน 1 นัด จึงเป็นเหตุให้นายชัยภูมิ ป่าแส เสียชีวิต”
โฆษกกองทัพบกกล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทุกคนยึดมั่นในหลักปฏิบัติที่จะพยายามดำเนินการใดๆ ด้วยวิธีที่ละมุนละม่อม หลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงให้ได้มากที่สุด กรณีจะใช้อาวุธต่อเมื่อมีความจำเป็นจริงๆ เท่านั้น
เครือข่ายชนเผ่าพื้นเมืองต้องการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง
สภ.นาหวายจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ลักษณะของด่านตรวจรินหลวง เป็นด่านตรวจยาเสพติดของทหาร ตั้งอยู่กลางสามแยก มีการตั้งบังเกอร์ มีสิ่งปลูกสร้างถาวร และมีการตั้งเครื่องกีดขวางทุกทิศทาง โดยเส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่คนในชุมชนบ้านกองผักปิ้ง ใช้เดินทางเข้าออกเป็นประจำ (ที่มา: แฟ้มภาพ/Googlmaps)
ข้อมูลจากเพื่อนๆ ของเขา ระบุว่า "ชัยภูมิ ป่าแส" หรือ "จะอุ๊" เป็นชาวลาหู่วัย 17 ปี ถือบัตรประจำตัวผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน (บัตรเลข 0) ที่มีข้อมูลระบุว่าอายุ 21 ปี เนื่องจากความผิดพลาดของข้อมูลตั้งแต่การสำรวจ ขณะนี้เขากำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนเชียงดาววิทยาคม โดย
ตั้งแต่เด็กเล็ก ชัยภูมิเข้าร่วมกิจกรรมกับกลุ่มรักษ์ลาหู่ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการรวมกลุ่มเยาวชนในกิจกรรมศิลปวัฒนธรรม เช่น ดนตรี ภาพยนตร์ และกิจกรรมวัฒนธรรมอื่น ๆ เพื่อให้ห่างไกลยาเสพติด ผลงานเพลงของชัยภูมิ ได้แก่เพลงเพื่อคนไร้สัญชาติ ชื่อ “จงภูมิใจ” ผลงานภาพยนตร์สั้นได้แก่การเป็นทีมงานภาพยนตร์เรื่อง “เข็มขัดกับหวี” ได้รับรางวัลช้างเผือกพิเศษดีเด่น เทศกาลภาพยนตร์สั้นครั้งที่ 16 จัดโดยมูลนิธิหนังไทย และเป็นทีมงานสร้างภาพยนตร์เรื่อง "ทางเลือกของจะดอ" ได้รับรางวัลชมเชยรัตน์ เปสตันยี จากเทศกาลเดียวกัน
รวมถึงร่วมเป็นทีมงานในสารคดีที่ผลิตโดยกลุ่มรักษ์ลาหู่ เช่น รายการบ้านเธอก็บ้านฉัน ออกอากาศทางช่องไทยพีบีเอส นอกจากนี้ ชัยภูมิยังได้เป็นผู้นำในการฟื้นฟูการเต้นแจโก่ของชาวลาหู่จนได้รับการยอมรับในหมู่บ้าน เป็นผู้นำคณะเด็กและเยาวชนกลุ่มรักษ์ลาหู่จากบ้านกองผักปิ้งออกแสดงในหลายพื้นที่
ล่าสุด ได้ร่วมกับศิลปินญีปุ่นจากเมืองโอซากาทำนิทานเพลงเรื่องขนมออฟุและตำนานภาษาลาหู่ มาจัดแสดงในงาน ดี ต่อ ใจ ณ แพร่งภูธร เมื่อวันที่ 11-12 มีนาคม 2560
อนึ่ง ชัยภูมิเป็นหนึ่งในกำลังเยาวชนที่ร่วมรณรงค์เรียกร้องการแก้ปัญหาภาวะไร้สัญชาติของคนชาติพันธุ์ เป็นแกนนำในการจัดค่ายเยาวชนชนเผ่าและได้รับเลือกเป็นประธานเครือข่ายต้นกล้าเยาวชนพื้นเมือง และเป็นตัวแทนเครือข่ายฯ เข้าร่วมในการประชุมสัมมนาในระดับประเทศมาหลายครั้ง ชัยภูมิเคยให้สัมภาษณ์หลายต่อหลายครั้งว่า ตัวเขาเติบโตมาในหมู่บ้านที่แวดล้อมด้วยปัญหายาเสพติดและเคยเป็นเด็กเกเรมาก่อน การร่วมกิจกรรมกับกลุ่มรักษ์ลาหู่ได้ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไป ห่างไกลจากสิ่งชั่วร้าย ได้มีโอกาสเอาใจใส่เลี้ยงดูน้องชายและแม่มากขึ้น เขามีความฝันอยากให้เด็ก ๆ ในหมู่บ้านมีชีวิตที่ดี และตนเองอยากเรียนจบปริญญาตรีและกลับมาเป็นครูสอนหนังสือเด็กในหมู่บ้าน