พิพากษา 22 กลุ่มฅนรักบ้านเกิดฯ ผิดกฎหมายจราจร คดีสร้างกำแพงใจ รอกำหนดโทษ 1 ปี

ศาลพิพากษา 22 ชาวบ้านกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด จ.เลย ทำผิดกฎหมายจราจร กรณีก่อสร้างกำแพงใจ กีดขวางเส้นทางสัญจรเข้าออกเหมืองแร่ทองคำ รอกำหนดโทษ 1 ปี

24 ก.ค. 2560 แฟนเพจฟซบุ๊กเหมืองแร่เมืองเลย รายงานว่า เวลา 09.00 น. ชาวบ้านกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด 6 หมู่บ้าน ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง จ.เลย ร่วมฟังคำพิพากษา คดีชาวบ้าน 22 คน ถูกฟ้องในข้อกล่าวหาว่าร่วมกันกระทำความผิดฐานร่วมกันก่อสร้างสิ่งกีดขวางบนทางหลวงสาธารณะและสร้างสิ่งกีดขวางบนพื้นผิวจราจรในลักษณะที่น่าจะทำให้เกิดอันตรายต่อยานพาหนะโดยไม่ได้รับอนุญาต

สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อปี 2556 ชาวบ้านได้ร่วมกันก่อสร้าง “กำแพงใจ” ถึง 3 ครั้ง เพื่อแสดงออกถึงการคัดค้านการทำเหมืองแร่ทองคำ และเพื่อปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ แหล่งน้ำลำธาร และวิถีชีวิตของชุมชน ทั้งนี้การสร้างกำแพงใจเป็นมติร่วมกันของชาวบ้าน เพื่อป้องกันรถบรรทุกที่มีน้ำหนักเกิน 15 ตัน และรถบรรทุกสารเคมีอันตราย

ส. รัตนมณี พลกล้า นักกฏหมายจากศูนย์ข้อมูลชุมชน ทนายความจำเลยในคดีสรุปคำพิพากษาว่า วันนี้ศาลมีคำพิพากษาว่ากลุ่มชาวบ้านทั้ง 22 คน มีความผิด ตาม พ.ร.บ.ทางหลวง พ.ศ. 2535 มาตรา 38, 39, 71 และ 72 แต่ให้รอกำหนดโทษ 1 ปี

"นั่นหมายความว่าไม่มีการลงโทษอะไร ไม่ได้เป็นการรอลงอาญา แต่หากภายใน 1 ปีนี้พบว่ามีการกระทำความผิด หรือถูกลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมในคดีอื่นๆ ความผิดในครั้งนี้จะถูกนำมาพิจารณาว่าจะมีบทลงโทษอย่างไร" ส. รัตนมณี อธิบาย

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาชาวบ้านได้ร่วมกันสร้างกำแพงใจ 3 ครั้ง แต่ก็ถูกทำลายทั้ง 3 ครั้งด้วยกัน ดังนี้ กำแพงใจครั้งแรกสร้างขึ้นในวันที่ 7 ก.ย. 2556 แต่ในวันที่ 19 ก.ย. 2556 ได้มีบุคคลที่ปิดบังใบหน้าพร้อมอาวุธครบมือได้เข้ามาทำลายกำแพงดังกล่าว

วันที่ 22 ก.ย. 2556 ชาวบ้านได้มีมติรวมกันให้ก่อสร้างกำแพงใจขึ้นมาใหม่เป็นครั้งที่ 2 ต่อมาในวันที่ 11 ต.ค. 2556 ได้มีพนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลเขาหลวงร่วมกันรื้อทำลายกำแพงใจของชาวบ้าน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 100 นายให้การคุ้มกัน

ต่อมาชาวบ้านได้ประชุมปรึกษาหารือกันสุดท้ายมีมติให้สร้างกำแพงใจครั้งที่ 3 ขึ้นในวันเดียวกันนั้นเอง (11 ต.ค. 2556) จากนั้นกำแพงแห่งนี้ได้ถูกทำลายลงเมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2557 โดยนายทหารและอดีตนายทหารได้นำชายฉกรรจ์ 200 กว่านาย ปิดบังใบหน้า พร้อมอาวุธครบมือได้เข้ามาทำร้ายและกักขังชาวบ้าน จากนั้นได้ทำลายกำแพงใจของชาวบ้าน เปิดทางให้นำรถบรรทุกพ่วงเข้าไปขนแร่จากเหมืองออกไปจากพื้นที่

การสร้างกำแพงทั้ง 3 ครั้ง นำมาซึ่งการฟ้องร้องดำเนินคดีกับกลุ่มชาวบ้านถึง 6 คดี เรียกค่าเสียหาย 270 ล้านบาท

สำหรับคดีในวันนี้ ชาวบ้านถูกบริษัทและองค์การบริหารส่วนตำบลเขาหลวงฟ้องร้องในข้อหาร่วมกันสร้างสิ่งกีดขวางบนทางสาธารณะและผิวจราจรน่าจะเป็นอันตรายต่อยานพาหนะโดยไม่ได้รับอนุญาต รวม 22 คน (บางคนเป็นการกระทำการซ้ำ) ตามวันที่เกิดเหตุ ดังนี้

1.เหตุเกิดในวันที่ 7 ก.ย. 2556 ข้อหา ร่วมกันสร้างสิ่งกีดขวางบนทางสาธารณะและผิวจราจรน่าจะเป็นอันตรายต่อยานพาหนะโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.ทางหลวง พ.ศ. 2535 มาตรา 38, 39, 71 และ 72 สั่งฟ้องชาวบ้าน 16 คน

2.เหตุเกิดวันที่ 22 ก.ย. 2256 ข้อหา ร่วมกันสร้างสิ่งกีดขวางบนทางสาธารณะและผิวจราจรน่าจะเป็นอันตรายต่อยานพาหนะโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.ทางหลวง พ.ศ. 2535 มาตรา 38, 39 ,71 และ 72 สั่งฟ้องชาวบ้าน 9 คน

3.เหตุเกิดวันที่ 11 ต.ค. 2256 ข้อหา ร่วมกันสร้างสิ่งกีดขวางบนทางสาธารณะและผิวจราจรน่าจะเป็นอันตรายต่อยานพาหนะโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.ทางหลวง พ.ศ. 2535 มาตรา 38, 39, 71 และ 72 สั่งฟ้องชาวบ้าน 9 คน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท