Skip to main content
sharethis

ศาลจังหวัดเชียงใหม่เริ่มไต่สวนคดีการตายของ ชัยภูมิ ป่าแส นักกิจกรรมชาวชาติพันธุ์ลาหู่ นัดแรก หลังถูกทหารใช้อาวุธปืนยิงเสียชีวิต เมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา ทนายมั่นใจภาพวงจรปิดไขข้อสงสัย ขณะที่คดี 'อาเบ แซ่หมู่' นัดสืบพยานแล้วเช่นกัน

รถยนต์คันเกิดเหตุวิสามัญฯ ชัยภูมิ

4 ก.ย. 2560 รายงานข่าวจาก มูลนิธิผสานวัฒนธรรม แจ้งว่า วันนี้ (4 ก.ย.60) ที่ ศาลจังหวัดเชียงใหม่ ห้องพิจารณาคดีที่ 10 ได้มีการไต่สวนพยานฝ่ายอัยการผู้ร้อง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ทหารปฏิบัติหน้าที่ที่ด่านรินหลวง ต.เมืองนะ อ. เชียงดาวจำนวน 3 ปาก คดีหมายเลข ช.19/2560  โดยเหตุสืบเนื่องจาก ในวันที่ 17 มีนาคม 2560  เจ้าหน้าที่ทหารได้ใช้อาวุธปืนยิง ชัยภูมิ ป่าแส ชาติพันธุ์ลาหู่  จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต โดยอ้างว่าเจ้าหน้าที่ทหารได้ขอเข้าตรวจค้นรถยนต์ ชัยภูมิ และพบยาเสพติดประเภทยาบ้าเป็นจำนวนมากบรรจุซองพลาสติกซุกซ่อนอยู่ภายในบริเวณส่วนกรองอากาศของรถ ต่อมา ชัยภูมิ ได้ทำการขัดขืนต่อสู้เจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งจะใช้อาวุธระเบิดที่ ชัยภูมิ มีไว้ในครอบครองขว้างใส่ เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องใช้อาวุธปืนยิงสังหาร ชัยภูมิ เหตุเกิด ณ บริเวณจุดตรวจด่านบ้านรินหลวงนั่นเอง 

สำหรับ ชัยภูมิ เป็นเยาวชนนักกิจกรรมทางสังคม และอยู่ระหว่างศึกษาเล่าเรียนที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเสร็จสิ้นการสืบพยานจำนวน 3 ปากในวันนี้ ศาลได้กำหนดวันนัดไต่สวนพยานผู้ร้องอีกจำนวน 4 ปาก ในวันที่ 13 และ 14 มี.ค. 2561 และนัดไต่สวนพยานผู้ร้องซักถามอีกจำนวน 11 ปาก ได้แก่วันที่ 15, 16 และ 20 มี.ค. 2561

ข่าวสดออนไลน์ รายงายด้วยว่า สุมิตรชัย หัตถสาร ทนายความศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่น กล่าวว่า การไต่สวนครั้งแรกวันนี้ พนักงานอัยการผู้ร้องนำเสนอ ทั้งเจ้าหน้าที่ทหาร พนักงานสอบสวน แพทย์ผู้ทำการชันสูตรพลิกศพ และ ฝ่ายปกครอง ให้ศาลได้ไต่สวนถึงลักษณะและสาเหตุการเสียชีวิตว่าเป็นการวิสามัญฆาตกรรมตามกฎหมายหรือกระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ ในส่วนของตนได้เตรียมบัญชีพยานไว้เพิ่มเติม หากพยานส่วนใดที่พนักงานอัยการไม่ได้นำเสนอ ก็จะใช้สิทธิยื่นต่อศาลขอให้นำเข้ามาสู่การไต่สวน โดยบัญชีที่เตรียมไว้เพิ่มเติมคือชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ซึ่งเป็นประจักษ์พยานที่มีน้ำหนัก รวมทั้งมารดาและญาติของนายชัยภูมิที่ไปยังจุดเกิดเหตุในวันเกิดเหตุ

สุมิตรชัย กล่าวต่อว่า ส่วนความกังวลใจในการไต่สวนเป็นเรื่องของภาพจากกล้องวงจรปิด โดยไม่ทราบว่าพนักงานอัยการจะได้รับจากฝ่ายทหารและได้นำเสนอเป็นหนึ่งในพยาน หลักฐานให้ศาลไต่สวนหรือไม่ หากไม่ได้มาก็จะร้องขอต่อศาลให้มีคำสั่งเรียกเข้ามาเพิ่มเติม เพราะภาพจากกล้องวงจรปิดถือเป็นหลักฐานสำคัญที่จะไขข้อสงสัยในสาเหตุการตาย

ขณะที่ นาปอย ป่าแส มารดา ชัยภูมิ กล่าวว่า ขอเรียกร้องความยุติธรรมให้กับลูกชาย ยืนยันว่าลูกชายเป็นคนดี ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด พร้อมเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้ามาช่วยเหลือและดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับกลุ่มทหารที่กระทำเกินกว่าเหตุ

ขณะที่อีกคดีของ อาเบ แซ่หมู่ ชาติพันธุ์ลีซู คดีหมายเลขดำที่ ช.18/2560 ณ ห้องพิจารณาดคีที่ 1 ในวันนี้ได้นัดไต่สวนพยานตามคำร้องชันสูตรพลิกศพของพนักงานอัยการ ผู้ร้อง แต่มีการเลื่อนนัดไต่สวนคำร้อง เนื่องจากพนักงานอัยการผู้ร้อง และทนายของบิดา มารดา อาเบ ผู้ตาย จะนำพยานเข้าไต่สวนเป็นจำนวนมาก จึงขอให้ศาลตรวจพยานและกำหนดวันสืบพยานก่อน และศาลได้อนุญาตให้นัดไต่สวนพยานอัยการผู้ร้องรวมกัน 3 นัด โดยได้กำหนดวันนัดไต่สวนเป็นวันที่ 21,22  และ 26 ธ.ค. 2560

โดย คดีนี้สืบเนื่องจากเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2560 พื้นที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ทหารซึ่งประจำอยู่ที่ด่านตรวจบ้านรินหลวง  ต.เมืองนะ  อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ใช้อาวุธปืนยิง อาเบ จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต โดยอ้างว่า อาเบ จะขว้างอาวุธระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ จึงจำเป็นต้องใช้อาวุธปืนยิงสังหาร อาเบ เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย  และกล่าวหาว่า อาเบมียาเสพติดประเภทเฮโรอีน 2 หลอด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพาย  เหตุเกิด ณ บริเวณถนนระหว่างบ้านรินหลวง-บ้านป่าบงงามลีซอ ซึ่งอยู่เลยด่านตรวจบ้านรินหลวงไม่ไกลนัก

รายงานข่าวจาก มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ระบุอีกว่า ในวันนี้คดีไต่สวนการตายของ ชัยภูมิ ป่าแส และ อาเบ แซ่หมู่ ได้รับความสนใจมีผู้เข้าร่วมสังเกตการณ์เป็นจำนวนมาก ทั้งจากนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และองค์กรสิทธิมนุษยชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ  โดยคดีนี้ทั้งสองคดีได้รับความช่วยเหลือทางกฎหมายจากมูลนิธิผสานวัฒนธรรม  สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน และ ศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่น

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net