'ปลดล็อกคำสั่ง คสช. คืนเสรีภาพประชาชน' สมาคมนักข่าวชวนรณรงค์ 'วันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก'

สมาคมนักข่าวฯ ชวนร่วมกิจกรรม และเปลี่ยนโปรไฟล์รณรงค์ “วันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก” ภายใต้สโลแกน “ปลดล็อกคำสั่ง คสช. คืนเสรีภาพประชาชน” สะท้อนสถานการณ์ของประเทศในด้านเสรีภาพ การแสดงความคิดเห็นของประชาชน

2 พ.ค.2561 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ปรัชญาชัย ดัชถุยาวัตร อุปนายกฝ่ายสิทธิเสรีภาพและการปฏิรูปสื่อ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เนื่องด้วยวันที่ 3 พ.ค.ของทุกปี เป็น “วันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก (World press freedom day) ซึ่งกำหนดโดยองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก” ที่องค์กรสื่อทั่วโลกจะมีกิจกรรมรณรงค์เพื่อให้ทุกฝ่ายในสังคมได้ตระหนักถึงความสำคัญในการมีเสรีภาพของสื่อมวลชน ซึ่งหมายถึงการมีเสรีภาพของประชาชน 

ดังนั้นในปีนี้สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ร่วมกับสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ จัดกิจกรรมวันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก ในวันพฤหัสบดีที่ 3 พ.ค. 2561 ที่ห้องประชุมอิศรา อมันตกุล ชั้น 3 อาคารสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ถนนสามเสน(ตรงข้ามรพ.วชิระ) ตั้งแต่เวลา 10.00-12.00 น. ภายใต้สโลแกน “ปลดล็อกคำสั่ง คสช. คืนเสรีภาพประชาชน” เพื่อสะท้อนสถานการณ์ของประเทศในด้านเสรีภาพ การแสดงความคิดเห็นของประชาชน ท่ามกลางบรรยากาศที่ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ห้วงเวลาของการเลือกตั้งที่มีการบังคับใช้ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ที่ได้รับรองสิทธิเสรีภาพของประชาชนและสื่อมวลชน  แต่ขณะเดียวกันก็ยังคงมีการบังคับใช้ประกาศและคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่จำกัดเสรีภาพอยู่หลายฉบับ  โดยเฉพาะประกาศ คสช. ฉบับที่ 97/2557, ประกาศ คสช. ฉบับที่ 103/2557 และคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 (ข้อ5) 

โดยกิจกรรมภายในงานจะมีการกล่าวไว้อาลัยแก่สื่อมวลชนที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่  อ่านแถลงการณ์เนื่องในวันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก เสวนา หัวข้อ “ปลดคำสั่ง 0.4 เดินหน้าเสรีภาพประชาชน” โดยเชิญวิทยาจากหลายภาคส่วน ได้แก่ ฐิติรัตน์ ทิพย์สัมฤทธิ์กุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์  มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก้าวโรจน์ สุตาภักดีนายกสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ พูนสุข พูนสุขเจริญ ทนายความและหัวหน้าฝ่ายข้อมูล ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ร่วมเวทีเสวนา ซึ่งดำเนินรายการ มานพ ทิพย์โอสถ ที่ปรึกษาฝ่ายสิทธิเสรีภาพและการปฏิรูปสื่อ สมาคมฯและมอบรางวัลให้กับผู้รับรางวัลการประกวดสโลแกนวันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก

ปรัชญาชัย กล่าวอีกว่า พร้อมกันนี้ขอเชิญชวนประชาชนผู้สนใจในกิจกรรม สามารถร่วมรณรงค์ด้วยการเปลี่ยนภาพประจำตัว หรือ ภาพโปรไฟล์ ใน Facebook โดยเริ่มจากเข้าไปที่แก้ไขภาพประจำตัว จากนั้นไปที่ “เพิ่มกรอบรูป”  แล้วใส่คำว่า 2018worldpressfreedom ในช่องค้นหา จากนั้นจะมีกรอบโลโก้รณรงค์ที่มีข้อความว่า “ปลดล็อกคำสั่งคสช. คืนเสรีภาพประชาชน” ให้ใส่ แล้วจึงกดยืนยันเพื่อบันทึกภาพ และสามารถเซฟรูปโปรฟายนั้นไปใช้ในสื่อโซเชียลอื่นๆได้ด้วย 

สโลแกนวันเสรีภาพสื่อฯโลก กระจกสะท้อน 'เสรีภาพ' ของประเทศ

สำหรับสโลแกน “ทวงคืนเสรีภาพสื่อ ปลดล็อกคำสั่ง คสช.” เป็นของของ “เหน่ง” หรือ อัญชลี บุญชนะ ผู้สื่อข่าวสายการเมือง จาก หนังสือพิมพ์แนวหน้า คือสโลแกนที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมในการประกวดในวันเสรีภาพสื่อมวลชนในปีนี้จากผู้ส่งเข้าประกวดทั้งหมด 35   สโลแกน

อัญชลี ระบุเหตุผลในการคิดสโลแกนนี้ว่า “หลัง คสช. รัฐประหารเมื่อ 22 พ.ค. 2557 สื่อถูกจำกัดเสรีภาพ ในการแสดงออก ไม่สามารถเสนอข่าวสารและวิพากษ์วิจารณ์ได้อย่างอิสรเสรี และคนทำสื่อยังถูกคุกคามในลักษณะต่างๆ แม้องค์กรวิชาชีพจะพยายามรณรงค์เรียกร้องให้รัฐบาล และ คสช. หยุดลิดรอนสิทธิเสรีภาพสื่อก็ตาม  จึงเป็นเวลาที่จะต้องทวงคืนเสรีภาพสื่อกลับคืนมา โดยวิธีการก็คือ การปลดล็อก หรือ การยกเลิกคำสั่งและประกาศ คสช.”

ส่วนแนวคิดในการตั้งสโลแกน นักข่าวนสพ.แนวหน้า เล่าว่า เริ่มจากการตีโจทย์ในกติกาของการประกวด ที่ให้ยึดเนื้อหา จากคำสั่งและประกาศ ของ คสช. ที่มีผลจำกัดต่อสิทธิและเสรีภาพสื่อมวลชน ควบคุมการทำงานของสื่อ นับตั้งแต่มีรัฐประหาร จนถึงปัจจุบัน ทั้งๆที่อีก 1 ปี ประเทศไทยจะเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งตามโรดแมปของรัฐบาล

“โดยพยายามคิดคำที่ตรงกับโจทย์ที่ให้มา สั้น กระชับ และใช้คำเข้าใจง่ายมากที่สุด  และศึกษาจากสโลแกนที่ชนะเลิศปีที่แล้ว ที่มีการตีตรวนสื่อ ปีนี้ซึ่งใกล้จะเลือกตั้ง แต่ก็ยังไม่มีการปลดล็อก กฎหมาย ของ คสช. ที่มีผลกระทบต่อการทำงานของสื่อมวลชน  เช่น ให้อำนาจ คสช. สามารถปิดการทำงานของสื่อได้ สื่อจึงจำเป็นต้องทวงคืนเสรีภาพ เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการทำงาน ที่มีหน้าที่นำเสนอข้อเท็จจริง และเชื่อว่าหากมีการปลดล็อกคำสั่งและประกาศต่างๆ ของ คสช.ได้ ก่อนการเลือกตั้ง นอกจากจะเป็นการคืนสิทธิเสรีภาพให้กับสื่อมวลชนได้อย่างแท้จริงแล้ว  จะทำให้ประชาชนได้รับรู้ข้อมูลข่าวสาร อย่างรอบด้าน เป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเลือก คนที่จะมาเป็นรัฐบาล บริหารประเทศต่อไปในอนาคตได้”

นอกจากรางวัลยอดเยี่ยมแล้วยังมีรางวัลชมเชยอีก 3 รางวัล ที่ทำให้คณะกรรมการตัดสินลำบากใจไม่น้อย คือสโลแกนที่ว่า  “คืนเสรีภาพสื่อ คืนสิทธิ์รับรู้ประชาชน” ของ “แจ๊ค-อนุพนธ์ ศักดิ์ดา” จากหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์  สโลแกน "เลิก" ปิดกั้นสื่อ "หยุด" ครอบงำประชาชน” ของ “แมน-อนุชา ทองเติม” จากหนังสือพิมพ์มติชน  และ สโลแกน “เอาคำสั่ง คสช. คืนไป เอาเสรีภาพสื่อคืนมา” ของ เขมิกา พลายงาม จากหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ รายวัน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท