ศาลแขวงเชียงใหม่ยกฟ้องชูป้าย "เวทีวิชาการไม่ใช่ค่ายทหาร" เพราะไม่มีฐานความผิดนี้แล้ว

ศาลแขวงเชียงใหม่ตีความคำสั่งหัวหน้า คสช. 22/2561 ว่าทำให้คดีชุมนุมการเมือง 5 คนขึ้นไป เป็นอันยุติเนื่องจากมีคำสั่งออกมายกเลิกความผิดฐานนี้แล้ว ทำให้คดีชูป้าย "เวทีวิชาการไม่ใช่ค่ายทหาร" ยกฟ้อง โดยผลจากคำพิพากษาจะเป็นบรรทัดฐานต่อคดีฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. 3/2558 ชุมนุมเกิน 5 คน ที่มีผู้ต้องหาในขณะนี้มากกว่า 200 คน

25 ธันวาคม 2561 เวลา 10.00 น. ศาลแขวงเชียงใหม่ อ่านคำพิพากษาคดีนักวิชาการและนักกิจกรรม 5 คน ชูป้าย "เวทีวิชาการไม่ใช่ค่ายทหาร" โดยฝ่ายจำเลยและทนายจำเลยมาศาล ส่วนฝ่ายโจกท์ทหารที่ฟ้องดำเนินคดีไม่ได้เดินทางมาที่ศาล ส่วนฝ่ายอัยการโจทก์วันนี้ส่งผู้ช่วยอัยการมาฟังแทน ท่ามกลางผู้มารอฟังผลกว่า 20 คน

หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อ 12 ธันวาคม 2561 ศาลแขวงเชียงใหม่มีคำสั่งให้งดการสืบพยานระหว่าง 12-14 ธันวาคม เพื่อวินิจฉัยในข้อกฎหมายเนื่องจากมีคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 22/2561 ปลดล็อกการเมือง และมีผลยกเลิกคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 ข้อ 12 ห้ามชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน อย่างไรก็ตามในคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 22/2561 ข้อ 2 ยังระบุว่าการยกเลิกคำสั่งไม่กระทบกระเทือนกับการดำเนินการที่ทำไปแล้ว จึงเป็นข้อสงสัยในการตีความกฎหมายว่า คดีความที่กำลังเดินหน้าไปจะยกเลิกหมดหรือไม่ หรือจะต้องเดินหน้าพิจารณากันต่อไป โดยศาลแขวงเชียงใหม่นัดให้คู่ความมาฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 25 ธันวาคมดังกล่าว (อ่านข่าวก่อนหน้านี้)

โดยศาลเห็นว่าคดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งห้าในความผิดฐานชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คน โดยไม่ได้รับอนุญาตจาก คสช. ระหว่างการพิจารณาคดีนี้มีคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 22/2561 ออกมาให้ยกเลิกคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 3/2558 ข้อ 12. ที่โจทก์นำมาฟ้องจำเลยในคดีนี้แล้ว และมีผลบังคับใช้ทันทีตั้งแต่วันที่ออกคำสั่ง

จึงเป็นกรณีที่ ตามกฎหมายที่บัญญัติภายหลังมีผลให้การกระทำเช่นนั้นไม่เป็นความผิดต่อไป การกระทำของจำเลยทั้ง 5 จึงไม่เป็นความผิดที่มีกฎหมายกำหนดไว้ เมื่อการกระทำของจำเลยทั้ง 5 ไม่เป็นความผิด จึงมีเหตุยกฟ้อง

อย่างไรก็ดี ศาลยังรับรองไว้ด้วยว่า ส่วนการกระทำที่ได้กระทำไปตามประกาศและคำสั่งของ คสช. ก่อนหน้านี้ไม่กระทบกระเทือนหรือไม่เสียไป ซึ่งเป็นไปตามข้อ 2. ของคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 22/2561

ชัยพงษ์ สำเนียง หนึ่งในจำเลยของคดีชูป้าย "เวทีวิชาการไม่ใช่ค่ายทหาร" ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า นับตั้งแต่มีคดีความในเดือนกรกฎาคม 2560 จนถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 1 ปี 5 เดือน ที่ต้องเสียเวลาและมีภาระที่ต้องไปพบอัยการทุกเดือน จนถึงขั้นตอนที่อัยการฟ้องศาล และจนถึงวันที่ศาลพิพากษายกฟ้องในวันนี้

อย่างไรก็ตามน่าเสียดายที่ยังไม่ได้พิสูจน์ข้อเท็จจริงในชั้นศาลให้ประจักษ์ว่าการกระทำเช่นนี้ไม่ผิด เพราะศาลพิพากษายกฟ้องเสียก่อนโดยยกเรื่องทางเทคนิกว่าไม่เป็นความผิดที่มีกฎหมายกำหนดไว้ อย่างไรก็ตามหวังว่าคำพิพากษาจะเป็นบรรทัดฐานให้กับผู้ที่ถูกดำเนินคดีเพราะคำสั่งหัวหน้า คสช. 3/2558 คนที่เหลืออยู่ต่อไป

ระงับสืบพยานชั่วคราว "เวทีวิชาการไม่ใช่ค่ายทหาร" ศาลวินิจฉัยกฎหมายหลัง คสช.ปลดล็อก

สำหรับคดีชูป้าย "เวทีวิชาการไม่ใช่ค่ายทหาร" โดยจำเลย 5 รายถูกเจ้าหน้าที่ทหารกล่าวหาในข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 3/2558 เรื่องการชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คน ขึ้นไป จากกรณีการชูป้ายในงานประชุมวิชาการนานาชาติไทยศึกษา (The International Conference on Thai Studies) ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อที่ 18 กรกฎาคม 2560

การชูป้ายดังกล่าวถูกระบุว่าเป็นปฏิกิริยาต่อการที่เจ้าหน้าที่รัฐนอกเครื่องแบบเข้ามาบันทึกกิจกรรมต่างๆ ในระหว่างงาน โดยไม่มีการลงทะเบียนเข้าร่วมงาน ไม่ได้ขออนุญาตผู้จัดงาน และยังมีการส่งเสียงดังรบกวนภายในงานประชุม

จำเลยทั้ง 5 ราย ประกอบด้วย ชยันต์ วรรธนะภูติ ผู้อำนวยการศูนย์ภูมิภาคศึกษาด้านสังคมศาสตร์และการพัฒนาอย่างยั่งยืน คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ภัควดี วีระภาสพงษ์ นักแปลและนักเขียนอิสระ นลธวัช มะชัย นักศึกษาปริญญาตรีคณะการสื่อสารมวลชน  มช. ชัยพงษ์ สำเนียง นักศึกษาปริญญาเอกคณะสังคมศาสตร์ มช. และธีรมล บัวงาม นักศึกษาปริญญาโทคณะการสื่อสารมวลชน มช. และบรรณาธิการสำนักข่าวประชาธรรม

โดยผลจากคำพิพากษาของศาลแขวงเชียงใหม่ จะเป็นบรรทัดฐานให้คดีฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. 3/2558 อื่นยุติไปด้วย ซึ่งยังมีอีกหลายคดีที่กำลังอยู่ระหว่างพิจารณา และมีผู้ต้องหามากกว่า 200 คน ทั้งคดีกลุ่มนักศึกษาชุมนุมที่หน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร, คดีนักศึกษากลุ่มดาวดินชูป้ายคัดค้านการรัฐประหาร, คดีทำกิจกรรมเปิดศูนย์ปราบโกงประชามติ, คดีพรรคเพื่อไทยจัดแถลงข่าวในวาระ 4 ปี คสช. รวมทั้งคดีการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งในช่วงต้นปี 2561 อีกหลายคดี

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท