Skip to main content
sharethis

ว่าที่ ส.ส. 'อนาคตใหม่' ลงนามสัตยาบัน - ประกาศ 5 ข้อ 'ยุติสืบทอดอำนาจ -ลบล้างผลพวงรัฐประหาร -ปฏิรูปกองทัพ- ยึดอุดมการณ์พรรค- เดินหน้าทวงคืนอำนาจให้ ปชช.' ขณะที่ 'อุทัย' หนุนผลักดัน 'ยุติรัฐรวมศูนย์ - กระจายอำนาจ'

30 มี.ค.2562 ที่ จ.ชลบุรี พรรคอนาคตใหม่ จัดสัมมนาว่าที่ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ โดยตลอดทั้งวันมีกิจกรรมที่น่าสนใจได้แก่ การกล่าวปาฐกถาในหัวข้อ "สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกับการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย" โดย อุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานรัฐสภา และอดีตประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ จากนั้นมีการอธิบายไทม์ไลน์การเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร การเตรียมตัวเป็น ส.ส. ข้อควรปฏิบัติ และสิ่งที่ต้องทำตามที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญกำหนด จากนั้นในช่วงบ่ายมีกิจกรรมแบ่งกลุ่มเวิร์คช็อปในหัวข้อ "ต้องการทำอะไรเมื่อได้เป็น ส.ส." ก่อนที่ในช่วงเย็น ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ทั้งแบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อทั้งหมด ลงนามคำประกาศสัตยาบันร่วมกันสำหรับการเตรียมตัวทำงานในสภาผู้แทนราษฎรต่อไป 

ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า การจะมี ส.ส. ได้เพราะมีประชาชน มีระบอบประชาธิปไตย ดังนั้น ว่าที่ ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ทุกคน ต้องตระหนักว่า ถ้าอำนาจสูงสุดไม่เป็นของประชาชนก็จะไม่มี ส.ส. ซึ่งนี่เป็นตำแหน่งเดียวที่ใช้อำนาจรัฐโดยมีที่มาจากการเลือกของประชาชน ขณะที่ตำแหน่งอื่นๆ นั้นมาจากการแต่งตั้ง จึงขอให้ภาคภูมิใจในการเข้ามาใช้อำนาจนิติบัญญัติแทนประชาชน ทั้งนี้ ตลอด 13 ปีที่ผ่านมา เรามีความขัดแย้งอย่างต่อเนื่อง ผู้คนจำนวนมากสิ้นหวังกับการเมือง สิ้นหวังกับระบบรัฐสภา ดังนั้น 6.2 ล้านเสียงที่พรรคอนาคตใหม่ได้มา เป็นคะแนนของความหวังจากประชาชนที่อยากเห็นเราไปทำงานให้ อยากเห็นเราเดินหน้าการเมืองแบบใหม่ อยากเห็นเราเป็น ส.ส.ที่แตกต่างจากในอดีต นี่คือเสียงที่ต้องการความเปลี่ยนแปลง ซึ่งเมื่อเราได้รับอาณัตินี้มาแล้วจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องไปสร้างการเมืองที่ดีขึ้นตามนโยบายที่เคยให้ไว้ ไม่ว่าจะเป็น การยุติสืบทอดอำนาจของ คสช. ปฏิรูปกองทัพ ลบล้างผลพวงรัฐประหาร จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ฯลฯ นี่คือพันธสัญญาที่ให้ไว้และเราจะไม่มีวันทรยศพี่น้องประชาชน 

"กรณีเรื่องของงูเห่า เรายืนยันว่าไม่มีงูเห่าสีส้มอย่างแน่นอน เพราะพรรคอนาคตใหม่เรารวมกันด้วยอุดมการณ์ ด้วยความเชื่อมั่นแบบเดียวกัน และผมเองเชื่อมั่นว่า ว่าที่ ส.ส.ของพรรคทั้งหมดนั้น ตระหนักร่วมกันดีถึงการที่เรามีผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคทั่วประเทศ มีสมาชิกของพรรคทั่วประเทศ ช่วยเหลือและทำงานมาด้วยกันอย่างหนัก และเพื่อให้นี่เป็นมิติใหม่ทางการเมือง ผมขอเชิญทุกท่านลงชื่อในคำประกาศสัตยาบัน ซึ่งแม้ไม่มีผลบังคับทางกฎหมาย แต่จะเป็นหมุดหมายใหม่ว่า เราเริ่มต้นทำงานการเมืองด้วยอุดมการณ์ ด้วยความหวัง และเราจะไม่ทรยศพี่น้องประชาชนที่ให้ความไว้วางใจเรา" ปิยบุตร กล่าว 

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ว่าที่ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ตอนนี้มีราคาตลาด ตามที่เป็นข่าวแล้ว 10 ล้านขึ้นไป เงินจำนวนนี้อาจจะเอาไปทำอะไรได้หลายอย่าง ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นเงินจำนวนมากสำหรับหลายคน และมีน้อยคนนักจะเคยเห็นเงินสดจำนวนนี้ ซึ่งถ้าเรารับไปย่อมทำให้ชีวิตดีขึ้นแน่ แต่คำถามที่อยากชวนทุกท่านถามตนเองก็คือ เรามารวมกันที่นี่เพราะอยากมีอนาคตดีขึ้นของเราเพียงคนเดียวเท่านั้นหรือเปล่า หรือเข้ามาเพราะว่าอยากให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนส่วนใหญ่ทั้งประเทศดีขึ้น คือ อนาคตที่ลูกหลานของทุกคนได้เรียนฟรีในโรงเรียนที่มีคุณภาพ อนาคตที่ทุกคนมีรัฐสวัสดิการที่ดีที่อนุญาตให้คนได้ลองผิดลองถูกในการใช้ชีวิต  อนาคตที่บริการภาครัฐมีมาตรฐานเท่าเทียมกับสากลและถูกออกแบบเพื่อคนส่วนใหญ่ของประเทศ อนาคตที่คนต่างจังหวัดมีทางเลือกมากกว่างานภาคการเกษตร อนาคตที่คนรวยได้เพราะความสามารถไม่ใช่เอาเปรียบผู้อื่น อนาคตที่ประเทศนี้ไม่ต้องเจอะเจอรัฐประหารอีก ขอถามว่าอนาคตแบบนี้มีค่าพอจะไขว่คว้าหรือพอจะเสี่ยงชีวิตเพื่อมันหรือไม่ 

"คุณมีทางเลือกที่จะหยิบเงินจำนวน 10 ล้าน นั้นแล้วหันหลังให้เพื่อนเราในห้องนี้และจากไป หรือปฏิเสธมันแล้วนั่งอยู่กับเราทุกคนในห้องนี้ และร่วมกันยืนยันว่า อนาคตที่เราอยากเห็น คือ สิ่งที่เราจะร่วมกันสร้างขึ้นมาผ่านพรรคการเมืองที่เข้มแข็ง ผ่านพรรคการเมืองที่ยึดโยงกับสมาชิก ยึดโยงกับประชาชน นั่นคือพรรคที่เราอยากให้พรรคอนาคตใหม่เป็น และเราจะพาพรรคไปถึงจุดนั้นด้วยกัน ช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญอย่างนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องยืนยันจุดยืนของพรรคให้มั่นคงแข็งแรง เราจะไม่ยอมให้ก้าวแรกของพรรคอนาคตใหม่ในสภาผู้แทนราษฎรต้องเสื่อมเสีย แปดเปื้อน ผมจึงขอเรียกร้องให้ทุกคนร่วมลงสัตยาบันร่วมกัน" ธนาธร กล่าว 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น ธนาธร ได้อ่านคำประกาศสัตยาบันของสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ที่เป็น ส.ส. ซึ่งระบุว่า ด้วยข้าพเจ้าตามรายชื่อท้ายคำประกาศนี้ เป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ และได้รับการเลือกตั้งให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในการเลือกตั้งทั่้วไปเมื่อวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ.2562 ขอให้สัตย์ปฏิญาณในการปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ดังนี้  1.จะสนับสนุนและผดักดันบุคคลที่สมควรดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตามมติของพรรคอนาคตใหม่ และจะไม่เสนอชื่อหรือให้ความเห็นชอบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างเด็ดขาด เพื่อยุติการสืบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ 2.จะสนับสนุนและผลักดันการลบล้างผลพวงรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ 3.จะสนับสนุนและผลักดันให้มีการปฏิรูปกองทัพให้สอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตย 
4.จะยึดมั่นในอุดมการณ์ของพรรคอนาคตใหม่ทุกประการ และ 5.จะต่อสู้ร่วมกันจนกว่าจะได้รัฐธรรมนูญใหม่ที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง 

"ข้าพเจ้าซึ่งลงนามตามรายชื่อท้ายคำประกาศนี้ ขอประกาศว่า คำประกาศนี้เป็นไปตามมโนสำนึกของข้าพเจ้าที่มีอุดมการณ์ร่วมกันกับพรรคอนาคตใหม่ และข้าพเจ้าจะยึดมั่นปฏิบัติคำสัตย์ปฏิญาณนี้ ซึ่งเป็นนโยบายที่ข้าพเจ้าได้หาเสียงไว้กับประชาชน และส่งผลให้ประชาชนได้มอบความไว้วางใจเลือกตั้งข้าพเจ้าเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ฉะนั้น ข้าพเจ้าจะไม่ทรยศต่อประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจสูงสุดโดยเด็ดขาด" คำประกาศสัตยาบัน ระบุ ซึ่งในตอนท้ายมีการลงชื่อของผู้ที่คาดว่าจะได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคอนาคตใหม่ทั้งหมด โดยให้แต่ละคนได้เก็บไว้กับตัวคนละ 1 ชุด ท่ามกลางผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ทั้งแบบแบ่งเขต และบัญชีรายชื่อ รวมถึงเจ้าหน้าที่พรรคอนาคใหม่ รวมแล้วกว่า 500 คน ร่วมเป็นสักขีพยาน

'อุทัย' หนุนผลักดัน 'ยุติรัฐรวมศูนย์ - กระจายอำนาจ'

ขณะที่ อุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานรัฐสภา และอดีตประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวเปิดงานในหัวข้อ "สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกับการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย" ว่า การเข้ามาเป็น ส.ส. สิ่งสำคัญที่ต้องคิดถึงและต้องท่องจำไว้ให้ขึ้นใจ คือ การที่เราเข้ามาอยู่ในจุดนี้จะทำประโยชน์เพื่อใคร นอกจากนี้ ต้องต่อสู้กับตัวเองอย่างเข้มข้นมาก ยิ่งสถาการณ์บ้านเมืองขณะนี้ที่ชัดเจนว่ามีการยึดอำนาจแล้วผู้ที่ยึดอำนาจเขาอยากจะอยู่ครอบครองต่อ จึงมีการออกแบบกฎกติกาต่างๆ เพื่อให้ตนเองอยู่ต่อได้ด้วย เช่น การให้ ส.ว.ร่วมเลือกนายกรัฐมนตรี เป็นต้น และที่ตอนนี้มีการพูดถึงอย่างมากคือสิ่งที่เรียกว่างูเห่า ซึ่งอาจจะมี ส.ส. ย้ายพรรค ฝืนมติพรรค โดยในสมัยของตนนั้นเรียกว่าช็อกกะรี หรือ ขายตัว การที่มีผู้มาเสนอผลประโยชน์ให้นั้น ราวปี 2512 ตนอยู่ฝ่ายค้าน เคยมีลูกน้องของนายทหารฝ่ายสืบทอดอำนาจมาหา บอกว่าเจ้านายอยากได้ตัว คนอื่นๆ รับไป 3.5 แสน กับรถแลนด์ โรเวอร์ ช่วงสั้น ขณะที่ตนเองถ้าขายตัวจะได้ 10 เท่า และแลนด์ โรเวอร์ ช่วงยาว ตอนนั้น ต้องต่อสู้กับตัวเองอย่างหนัก เพราะถ้าไม่ไปก็เป็นฝ่ายค้านก๊อกๆแก๊กๆ ต่อไป แต่สุดท้ายแล้วตัดสินใจไม่ไป โดยตอบกลับคนที่มาหาว่าเงินนั้นอยากได้แน่นอน แต่ไม่ทำ

"อยากบอกกับว่าที่ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ทุกท่านให้เชื่อมั่นในรัฐสภา เชื่อมั่นในการปกครองระอบประชาธิปไตย ผมเป็นคนที่รักสภาฯมาก เพราะเห็นว่าเป็นที่รวมของสิ่งที่เรียกว่า 500 รู้ อย่างสมมติคนที่เป็นด็อกเตอร์ก็อาจจะรู้แค่เรื่องเดียว แต่ในสภามีหลายเรื่องที่จะให้ความรู้เรา เช่น วันหนึ่งอภิปรายเรื่องดาวเทียม อีกวันอภิปรายเรื่องชาวไร่ชาวนา เป็นความรู้ที่หลากหลาย สำหรับผมในฐานะประชาชนทั่วไป อยากฝากว่าที่ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ให้ผลักดันเรื่องของการกระจายอำนาจ ตั้งแต่ปี 2526 ที่ผมพยายามผลักดัน ถ้าเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนนั้นเชื่อว่าประเทศไทยเจริญรุดหน้ากว่านี้มาก เพราะปัญหาต่างๆ ในท้องถิ่น คนที่รู้ปัญหา รู้วิธีแก้ปัญหาดีที่สุดคือคนที่อยู่ในท้องถิ่น ไม่ใช่คนที่ถูกส่งไปจากส่วนกลางอย่างผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้งนี้ ฝากผู้แทนใหม่ทุกท่านว่า เมื่อเข้าไปในสภาแล้วไม่ต้องกลัว พูดในสิ่งที่ตัวเองคิดโดยไม่ต้องเกรงใจผู้แทนเก่า และไม่ต้องกลัวพวกด็อกเตอร์ต่างๆ ต้องยืนยันความคิดเห็นของเรา เป็นปากเสียงให้กับประชาชนให้ได้" อุทัย กล่าว  

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net