ชาวบราซิลขอความช่วยเหลือ ต่อสู้กับรัฐบาลขวาจัดที่พยายามทำลายเสรีภาพทุกส่วนในสังคม

กลุ่มชาวบราซิล 2,000 ลงนามร่วมกันบทความส่งถึงสื่อเดอร์การ์เดียนระบุถึงสภาพการเมืองที่ย่ำแย่ภายใต้การนำของรัฐบาลฝ่ายขวา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเซนเซอร์ตำราเรียน การสอดแนมครูอาจารย์ การกดขี่ชนกลุ่มน้อย การกดขี่ผู้มีความหลากหลายทางเพศ เซนเซอร์ภาพยนตร์ ทำให้พวกเขาเขียนบทความเพื่อเรียกร้องให้ประชาคมโลกแสดงการสนับสนุนการต่อสู้ของประชาชนบราซิล รวมถึงประณามการลิดรอนเสรีภาพของรัฐบาลจาอีร์ บอลโซนาโร

ชาวบราซิลมากกว่า 2,000 คนทั้งนักแสดง, นักวิชาการ, นักข่าว, ศิลปิน และอื่นๆ ลงนามในบทความที่ส่งถึงสื่อเดอะการ์เดียน ระบุถึงปัญหาหลายเรื่องในบราซิลที่เกิดจากรัฐบาลฝ่ายขวา พวกเขาเปิดเผยว่าหลังจากที่ประธานาธิบดี จาอีร์ บอลโซนาโร ขึ้นดำรงตำแหน่งจากความช่วยเหลือของพรรคพวกฝ่ายขวาสถาบันประชาธิปไตยในบราซิลก็ถูกกำลังถูกทำลาย มีการพยายามโจมตีภาคส่วนต่างๆ ของประเทศไม่ว่าจะเป็นภาคส่วนทางวัฒนธรรม, ทางวิทยาศาสตร์, ทางการศึกษา รวมถึงสื่อ

ในบทความมีการระบุถึงการที่พรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลเริ่มต้นส่งเสริมให้นักเรียนนักศึกษาทำการแอบถ่ายครูอาจารย์ของตัวเองและประณามการพูดถึงอุดมการณ์ต่างๆ เรื่องนี้กลายเป็นเครื่องมือข่มขู่คุกคามทำให้เกิดความหวาดกลัวในสถาบันการศึกษา นอกจากนี้ในเดือน ม.ค. ที่ผ่านมาบอลโซนาโรก็เสนอว่าภาครัฐควรจะเซนเซอร์ตำราเรียนเพื่อให้มีการส่งเสริมค่านิยมแบบอนุรักษ์นิยมด้วย

รัฐบาลของบอลโซนาโรแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าพยายามจะบีบไม่ให้ผู้คนเบี่ยงเบนออกจากแนวทางแบบอนุรักษ์นิยมจัด ในปีที่แล้วพวกเขาสั่งไล่ออกผู้อำนวยการฝ่ายมาร์เก็ตติงของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ บังโก โด บราซิล จากการที่เขาสร้างสื่อโฆษณาส่งเสริมความหลากหลายและการเปิดรับผู้คน โดยที่โฆษณาแบบนี้ถูกเซนเซอร์จากรัฐบาล ในปีเดียวกันนั้นเองเมื่อนักวิทยาศาสตร์นำเสนอข้อเท็จจริงเรื่องป่าอเมซอนเกิดไฟป่าเผาไหม้ในอัตราที่น่าตระหนก แต่รัฐบาลบอลโซนาโนก็โต้ตอบกลับนักวิทยาศาสตร์ที่นำเสนอข้อเท็จจริงเหล่านี้ เช่นไล่ ผ.อ. สถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติออกจากตำแหน่งหลังจากที่เขาเสนอข้อมูลดาวเทียมเกี่ยวกับการตัดป่าอเมซอน

ทั้งนี้ รัฐบาลบอลโซนาโรยังแสดงการเป็นปฏิปักษ์ต่อสื่อในระดับอันตรายด้วย จากการที่ในเดือน ม.ค. สำนักงานอัยการของบราซิลเริ่มทำการสืบสวนนักข่าวอเมริกีน เกลน กรีนวัลด์ และทีมของเขาโดยกล่าวหาแบบไม่มีมูลความจริงว่าพวกเขาทำการแฮ็กเข้าสู่โทรศัพท์มือถือของรัฐบาลบราซิล ชาวบราซิลผู้เขียนบทความมองว่าการดำเนินคดีในครั้งนี้ถือเป็นการโจมตีเสรีภาพสื่อโดยเป็นการโต้ตอบกรณีที่กรีนวัลด์และสื่อดิอินเตอร์เซปต์ที่เขาก่อตั้งเปิดโปงเรื่องเกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชั่นของคนวงในบอลโซนาโร

ชาวบราซิลยังระบุอีกว่า ภาคส่วนต่างๆ ในรัฐบาลเองไม่ว่าจะเป็นศาลในท้องถิ่นภูมิภาคต่างๆ ไปจนถึงกองทัพและตำรวจยังแสดงออกปกป้องแนวคิดการเมืองอนุรักษ์นิยมจัดของบอลโซนาโรและมีส่วนในการลิดรอนเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของผู้คน ในปี 2562 ที่ผ่านมานี้เองก็มีกรณีการโจมตีสื่อและนักข่าวในบราซิลอย่างน้อย 208 กรณี

แนวรบอีกด้านหนึ่งของบอลโซนาโรคือแนวรบด้านวัฒนธรรม ในวันที่ 16 ม.ค. ที่ผ่านมา บอลโซนาโรแต่งตั้งให้ โรแบร์โต อัลวิม เลขาธิการพิเศษด้านวัฒนธรรมที่มีการวางแนวทางกล่อมเกลาทางอุดมการณ์อนุรักษ์นิยม ประกาศว่าจะให้รางวัลศิลปะแห่งชาติตัวใหม่ โดยที่มีลักษณะแนวทางแบบของนาซี รวมถึงนำคำพูดโฆษณาชวนเชื่อของเผด็จการนาซีมาใช้ด้วย แต่หลังจากที่มีกระแสความไม่พอใจทั้งจากในประเทศและการประณามจากต่างชาติ อัลวิม ก็ลงจากตำแหน่ง

อย่างไรก็ตามอัลวิมก็เป็นแค่คนๆ หนึ่งในระบบขวาจัดของบอลโซนาโรเท่านั้น รัฐบาลบอลโซนาโรยังคงทำการลิดรอนเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นต่อไปโดยอ้างเรื่องประเทศชาติ โดยมีการเซนเซอร์ ตัดงบประมาณ และกดดันทางการเมืองต่อสถาบันทางวัฒนธรรมหลายแห่งที่สนับสนุนเรื่องความหลากหลาย

เรื่องนี้ส่งผลถึงคนทำภาพยนตร์ เพตรา คอสตา ผู้กำกับภาพยนตร์สารคดี "The Edge of Democracy" ผู้มีโอกาสจะเป็นหญิงชาวลาตินอเมริกาคนแรกที่ได้รับรางวัลออสการ์ แต่รัฐมนตรีการสื่อสารของบอลโซนาโรก็ใช้ช่องทางทวิตเตอร์ทางการโจมตีคอสตาว่าเป็นพวกชังชาติและเผยแพร่ "เรื่องเท็จ" ของรัฐบาลบอลโซนาโร นอกจากนี้รัฐบาลยังไม่ยอมรับภาพยนตร์หลายๆ เรื่องชองบราซิลที่ได้รับรางวัลในระดับนานาชาติและอ้างว่าบราซิลไม่ได้ผลิตภาพยนตร์ดีๆ มานานแล้ว

นอกจากนี้รัฐบาลบอลโซนาโรยังพยายามทำลายความก้าวหน้าเรื่องความเท่าเทียมกันภายใต้ความหลากหลายทางสังคม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเชื้อชาติสีผิว ชาติพันธุ์ หรือ LGBTQ+ นอกจากนี้ยังละเลยความรุนแรงและอาชญากรรมจากกองกำลังติดอาวุธฝ่ายขวาในประเทศ

"รัฐบาลนี้ไม่มีแผนการพัฒนาอะไรให้กับประชาชนตัวเองเลย แทนที่จะทำเช่นนั้น รัฐบาลบอลโซนาโรกลับก่อสงครามทางวัฒนธรรมแบบอัยตรายเพื่อต่อต้านสิ่งที่พวกเขากุขึ้นมาเองว่าเป็นภัยจากภายใน"

"พวกเขาปฏิเสธปัญหาโลกร้อน การเผาป่าอเมซอน รังเกียจกลุ่มผู้นำที่ต่อสู้เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม ไม่เคารพต่อวัฒนธรรมและการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมที่มาจากกลุ่มชุมชนคนพื้นเมือง" ชาวบราซิลระบุในบทความ

ชาวบราซิลแสดงความกังวลว่าถ้าหากปล่อยให้สถาบันประชาธิปไตยถูกทำลายไปเรื่อยๆ ถึงจัดหนึ่งมันอาจจะฟื้นฟูกลับมาไม่ได้ ความอนุรักษ์นิยมสุดโต่งของบอลโซนาโรส่งผลไปทุกหย่อมย่านของสังคมไม่ว่าจะเป็นสังคมวิชาการ, สื่อ, วิทยาศาสตร์, ภาพยนตร์ พวกเขาจึงเรียกร้องให้ประชาคมแสดงออกว่าอยู่ข้างเดียวกับประชาชนของบราซิล ประณามและกดดันรัฐบาลบอลโซนาโรให้เคารพต่อปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนนั่นคือการเคารพถึงเสรีภาพของประชาชน สุดท้ายคือขอให้องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนและองค์กรสื่อนานาชาติหันมาสนใจสิ่งที่เกิดขึ้นในบราซิล โดยบอกว่า "นี่เป็นช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อทางการเมือง พวกเราต้องต่อต้านการผุดขึ้นของอำนาจนิยม"

เรียบเรียงจาก
Democracy and freedom of expression are under threat in Brazil, The Guardian, 07-02-2020
https://www.theguardian.com/commentisfree/2020/feb/07/democracy-and-freedom-of-expression-are-under-threat-in-brazil

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท