ชี้ รัฐไม่ยอมร่วมมือกับหลายภาคส่วน เพราะกลัวเสียหน้า รพ.รัฐ ไม่ยอมร่วมมือเอกชนเพราะถือคติว่า รพ.รัฐเจ๋งกว่า ขณะที่ รพ.เอกชน ไม่ยอมร่วมมือกับรพ.รัฐ เพราะอยากได้ตังค์เอง เรียกร้องให้หยุดเแล้วหันมาร่วมมือจริงจังกันเสียที
2 เม.ย.2563 จากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ในไทย วันนี้ กระทรวงสาธารณสุขแถลงยืนยันผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่ 104 ราย ทำให้มียอดสะสม 1,875 ราย รักษาตัวในโรงพยาบาล 1,355 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 ราย ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 15 ราย กลับบ้านแล้ว 505 ราย นั้น
ล่าสุด เพจ 'หมอเวร' ที่มีผู้ติดตามเกือบ 3 แสน โพสต์สรุปปัญหาความขัดแย้งระหว่าง รัฐบาล, โรงพยาบาลรัฐและ โรงพยาบาลเอกชน ที่ผู้ใหญ่ทั้ง 3 ฝ่าย ไม่ลงรอยกันมาเป็นเวลายาวนานแล้ว จึงทำให้ประชาชนเห็นความขัดแย้งในด้านการจัดการ และการรับมือ COVID-19 ที่ดูไม่ค่อยลงรอยกันในทุกๆ ฝ่าย 17 ประเด็น ดังนี้
- ตั้งแต่การอมหน้ากากอนามัยแล้วยังหาตัวไม่ได้
- กระทรวงนู้นบอกส่งออกหน้ากากจริง แต่อีกกระทรวงบอกไม่มี๊ไม่มี
- หน้ากากอนามัยและชุด PPE ขาดแคลนทุกที่ทั่วประเทศ เจ้าหน้าที่ต้องเย็บหน้ากาก เย็บชุดเอง แต่รัฐบอกก็มีพอนะ
- ใครออกมาบอกว่าของขาด โดนสั่งลบโพสต์และโดนสั่งควบคุมความประพฤติทันทีเพื่อไม่ให้รพ.เสียหน้าไม่ว่าจะเป็นรพ.รัฐหรือเอกชนก็ตาม
- ภาคประชาชนต้องออกมาระดมทุนซื้อหน้ากากแจกจ่ายกันเอง บางรายจะซื้อมาแจก แต่โดนสั่งยึดเพราะถือว่าครอบครองหน้ากากในปริมาณที่เยอะเกินไป
- รพ.รัฐไม่รับตรวจคนที่ไม่ได้มาจากประเทศเสี่ยง หรือมีประวัติคลุกคลีกับผู้ป่วย ทำให้คนไข้หลายๆรายไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที
- รพ.หลายที่บอกน้ำยาตรวจ COVID-19 ขาด แต่รัฐบาลบอกของมีเหลือเฟือ
- รพ.เอกชนตั้งราคาค่าตรวจแพง ทั้งๆที่รัฐสามารถสั่งคุมงบตรงนี้ได้ หรือให้ประชาชนตรวจโดยไม่ต้องควักเงินจ่ายซักบาทก็ทำได้
- แต่ถ้ารัฐไม่สามารถคุมงบค่าตรวจได้ รพ.เอกชนเองล่ะ สามารถคิดกำไรให้น้อยลง เพื่อประชาชนในภาพรวมแทนได้ไหม
- รพ.เอกชนบางแห่งลืมแจ้งผลผู้ติดเชื้อ หรือแจ้งผลล่าช้า เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของรพ.ในภาพรวม เพียงเพราะกลัวคนไม่กล้ามารพ. จากการพบผู้ติดเชื้อในรพ.ของตน
- ศูนย์ตรวจ COVID-19 PCR เฉพาะกิจหลายที่โดนสั่งปิด ไม่ว่าจะเป็น Drive Thru หรือ Delivery เพราะทำเกินหน้าเกินตา และไม่ออกใบอนุญาตเร่งด่วนให้ ทั้งๆที่มีอำนาจล้นมือ
- ศูนย์กักโรคผู้ป่วยชั่วคราวที่ทำแบบขอไปที ใช้มุ้งมาให้เป็นที่นอน ทั้งๆที่คุยกับเอกชนเพื่อขอความร่วมมือหาสถานที่มารองรับเพิ่มได้ง่ายๆ แต่ไม่ทำ
- รัฐบอกตัวเลขผู้ติดเชื้อควบคุมได้ดี ทั้งๆที่ความจริงระยะการระบาดผ่านไป 3 เดือนแล้ว เราเพิ่งตรวจไปแค่ห้าหมื่นกว่าราย แต่อเมริกาตรวจไปแล้วหนึ่งล้านรายภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์
- กรุงเทพชัตดาวน์ห้างร้านต่างๆ แต่ไม่ปิดทางเข้าออกเมือง ทำให้โรคแพร่ไปทั่วประเทศ สั่งไปก่อนโดยไม่คิดถึงแผนรับมือสเต็ปถัดไปก่อน
- รัฐสั่งหยุดงานกะปริบกะปรอย อยากลดการแพร่ระบาดของโรค แต่ไม่กล้าบังคับภาคเอกชนให้หยุดทั้งหมด ตัวเลขมันเลยวิ่งอยู่ต่อเนื่อง คนเจ็บจากการขาดรายได้ก่อน ก็ต้องเจ็บต่อกันไปอีกยาวๆ
- รัฐไม่เด็ดขาดสั่งให้ธนาคาร ไฟแนนซ์ และลิสซิ่งต่างๆหยุดดอกเบี้ย เพียงขอแค่ความร่วมมือจากกลุ่มนายทุนเท่านั้น (ขอความร่วมมือใครมันจะไปทำเพ่ สั่งสิสั่งหน่อย)
- รวมไปถึงข่าวต่างๆที่เราเห็นอยู่ตลอดเวลา ว่าทั้ง 3 ฝ่ายยังไม่มีความลงรอยเกิดขึ้นได้เลยแม้แต่น้อย
เพจ 'หมอเวร' ชี้ด้วยว่า เรื่องเหล่านี้กลายเป็นว่า คนข้างบนไม่เปิดอกคุยกัน แต่กรรมกลับมาตกที่ประชาชนตาดำๆ รวมถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติหน้างานจริงทุกองค์กรด้วย คือคนระดับปฏิบัติการ ไม่ว่าจะรัฐ เอกชน หรือ รพ.รัฐ อันนี้เขาไม่ได้ทะเลาะกันนะ ตีกันแต่ตัวบนๆ ทำอะไรข้าต้องได้หน้า
"รัฐไม่ยอมร่วมมือกับหลายภาคส่วน เพราะกลัวเสียหน้า รพ.รัฐ ไม่ยอมร่วมมือเอกชนเพราะถือคติว่ารพ.รัฐเจ๋งกว่า รพ.เอกชน ไม่ยอมร่วมมือกับรพ.รัฐ เพราะอยากได้ตังค์เอง" เพจ 'หมอเวร' โพสต์ พร้อมเรียกร้องให้หยุดเแล้วหันมาร่วมมือจริงจังกันเสียที
"ส่วนจะให้ใครเป็นตัวกลางในการประสานความร่วมมือครั้งนี้ จริงๆคนระดับบนเค้ามีคอนเนคชั่นกันหมดอยู่แล้วหล่ะนะ เพียงแต่ว่าอีโก้สูงทุกฝ่าย และไม่มีใครยอมใครก่อนทั้งนั้น โพสต์นี้หมออยากให้ทุกคนได้แชร์ออกไป ช่วยกันกดดันการทำงานของคนระดับบนของทุกฝ่าย และวิงวอนขอให้นึกถึงประชาชนจริงๆได้แล้ว เพราะศึกที่ชื่อว่า COVID-19 มันใหญ่กว่าคำว่าอีโก้ และอัตตาของพวกท่านทุกคนจริงๆ" เพจ 'หมอเวร' ทิ้งท้าย