ที่มาภาพประกอบ: Engin_Akyurt (Pixabay License)

20 พ.ค. 2563 การระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธ์ใหม่ 2019 หรือ COVID-19 ส่งผลต่อตลาดแรงงานทั่วโลก โดยเฉพาะการเลิกจ้างครั้งใหญ่ ทั้งนี้ก่อนหน้าที่จะเกิดวิกฤตนี้ ในตลาดแรงงานก็มีปัญหาช่องว่างระหว่างเพศที่คนทำงานหญิงมักจะได้รับผลกระทบด้านลบมากกว่าคนทำงานชายอยู่แล้ว 

ในภาวะวิกฤตนี้ก็ยิ่งทำให้เห็นถึงปัญหานี้ชัดเจนขึ้น แม้คนทำงานหญิงจะได้รับการยอมรับว่าเป็นแนวหน้ากับการต่อสู้กับวิกฤตนี้ทั่วโลกก็ตาม โดยคนทำงานด้านสาธารณสุขทั่วโลกมากกว่าร้อยละ 70 เป็นผู้หญิง นอกจากงานที่เสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยชีวิตผู้อื่นแล้ว แต่ยังรวมถึงคนทำงานในอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการถูกล็อกดาวน์ทั่วโลก ตั้งแต่ภาคบริการจนถึงการค้าปลีก คนทำงานในภาคเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็เป็นผู้หญิง ในอุตสาหกรรมเหล่านี้ผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะได้ตำแหน่งงานชั่วคราวและพาร์ทไทม์มากกว่าผู้ชาย และในภาวะวิกฤตตำแหน่งงานของพวกเธอก็มักจะถูกพิจารณาการเลิกจ้างเป็นอันดับแรก ๆ 

ในสหรัฐอเมริกา จากตัวเลขผู้ตกงานที่ 20.5 ล้านตำแหน่ง เมื่อเดือน เม.ย. 2563 ในจำนวนนี้ร้อยละ 55 เป็นผู้หญิง และสัดส่วนการขอรับสวัสดิการการว่างงานทั้งหมดระหว่างเดือน มี.ค.- 11 เม.ย. ในรัฐไวโอมิงเป็นผู้หญิงถึงร้อยละ 53 และตัวเลขนี้ยิ่งสูงถึงร้อยละ 67 ในอลาบามา ตามรายงานขององค์ The Fuller Project พบว่าในแคนาดามีการเลิกจ้างพนักงานหญิงเป็นจำนวนมาก

การทำงานที่ไม่ได้ค่าแรง

ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยการจัดการแห่งสิงคโปร์ พบว่าผู้หญิงจะใช้เวลานานมากกว่าผู้ชายที่จะกลับไปสู่ตลาดแรงงานได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะวิกฤตนี้มีแนวโน้มที่จะตอกย้ำความคิดที่ว่าผู้ชายมีหน้าออกไปทำงานนอกบ้าน ในขณะที่ผู้หญิงต้องดูแลครอบครัว ดังนั้นโดยทั่วไปแล้วผู้หญิงต้องทำงานในงานบ้านที่ไม่ได้รับค่าจ้างมากขึ้น ซึ่งขัดขวางการกลับสู่ตลาดแรงงานและความก้าวหน้าในการทำงานที่ได้รับค่าจ้าง จากการศึกษาผู้เชี่ยวชาญของมหาวิทยาลัยการจัดการแห่งสิงคโปร์ ยังแสดงให้เห็นว่าแม้ผู้ชายจะว่างงานและคู่ครองของเขาที่เป็นผู้หญิงยังทำงานเต็มเวลาอยู่ แต่ผู้ชายก็ยังคงไม่ทำงานบ้านมากขึ้น

จากการสำรวจความคิดเห็นคนอเมริกัน 2,200 คน เมื่อช่วงเดือน เม.ย. โดย New York Times ผู้หญิงร้อยละ 70 ระบุว่าพวกเธอรับผิดชอบงานบ้านเพียงคนเดียวเท่านั้น และร้อยละ 66 ต้องดูแลเด็ก มีผู้หญิงเพียงร้อยละ 20 เท่านั้นที่ระบุว่าคู่ครองของพวกเธอเป็นผู้รับผิดชอบงานในบ้าน 

ที่มาข้อมูลบางส่วนจาก
The Pandemic’s Gender Bias Needs Urgent Fixing (Elisa Martinuzzi, Bloomberg Opinion, 14 May 2020)