ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศ.ป.ป.ส.) นัดจับตาคณะราษฎรชุมนุม 8 พ.ย. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ด้านรอง ผบช.น. เตือนยังไม่แจ้งการชุมนุมและห้ามชุมนุมใกล้เขตพระราชฐานในรัศมี 150 เมตรเด็ดขาด

6 พ.ย. 2563 หลังเพจเยาวชนปลดแอก ประกาศนัดชุมนุม 8 พ.ย. 2563 เวลา 16.00 น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก่อนเตรียมเดินขบวน พร้อมเชิญชวนให้ประชาชนเขียนจดหมายเตรียมยื่นถึงกษัตริย์เพื่อยืนยันว่าประเทศนี้ดีกว่านี้ได้ เวลา 15.33 น. เพจศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน  โพสต์ว่าจะไปเฝ้าสังเกตการณ์ เฝ้าระวังการจาบจ้วงก้าวล่วงสถาบันของกลุ่มคณะราษฎรที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ฝั่งร้านเมธาวลัย ศรแดง ตั้งแต่ 14.00 น.

นอกจากนี้ สื่อหลายสำนักรายงานตรงกันว่า พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงข่าวระบุว่า การชุมนุมตั้งแต่ 6-8 พ.ย. 2563 ยังไม่มีการขออนุญาตชุมนุม ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ

รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลยังระบุว่า ส่วนในวันที่ 8 พ.ย. ที่จะมีการชุมนุมใหญ่และจะมีการเคลื่อนขบวนทางตำรวจจะใช้แผนการชุมนุม 63 รับมือการชุมนุมเหมือนที่ผ่านมา มั่นใจว่าสามารถดูแลและรักษาความปลอดภัยได้แน่นอน โดยแบ่งพื้นที่ดูแล ทั้งยังเตือนว่า ผู้ชุมนุมสามารถชุมนุมได้ตามสิทธิ แต่ห้ามชุมนุมใกล้เขตพระราชฐานในรัศมี 150 เมตร โดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งหมด

ด้าน พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงเส้นทางการจราจรในห้วงการชุมนุมว่าทวันเสาร์ที่ 7 พ.ย.นี้ ที่จะมีการรวมตัวแยกสามย่าน คาดว่าจะกระทบ ถ.พระราม 4 ทั้งขาเข้า-ออก และพญาไท และวันอาทิตย์ที่ 8 พ.ย. การชุมนุมอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย คาดว่ากระทบ ถ.ราชดำเนินกลาง โดยขอให้ประชาชนวางแผนเลี่ยงเส้นทาง แม้จะเป็นวันอาทิตย์ก็ตาม และติดตามข่าวสาร เพราะอาจมีการเคลื่อนขบวน ซึ่งคาดว่าจะผ่านแยกผ่านฟ้า แยก จปร. และแยกนครสวรรค์ ซึ่งตำรวจจะพยายามอำนวยความสะดวก เพื่อให้กระทบต่อจราจรกระทบน้อยที่สุด

ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ในทางการข่าวขณะนี้ยังไม่มีอะไร ส่วนการป้องกันสถานที่สำคัญ เช่น ทำเนียบรัฐบาล เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่ต้องดูแล สำหรับความคืบหน้าในการพูดคุยเจรจาคณะกรรมการสมานฉันท์ เป็นเรื่องอดีตนายกรัฐมนตรีและประธานรัฐสภา ขณะที่ผลจะออกมาในทางที่ดีหรือไม่ ก็แล้วแต่การพูดคุย

นอกจากนี้ ไทยรัฐออนไลน์ยังรายงานด้วยว่า พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. แถลงเมื่อ 5 พ.ย. 2563 ว่า ในห้วงที่ผ่านมา บช.น. จับกุมผู้ต้องหาคดีเกี่ยวกับความมั่นคงและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องไปแล้ว 85 ราย เป็นผู้ต้องหา 79 คน ข้อหาสำคัญ คือข้อหามั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง, กระทำผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ 68 ราย, ความผิดฐานประทุษร้ายต่อเสรีภาพพระราชินี ตามมาตรา 110 จำนวน 3 ราย, กระทำผิดตามมาตรา 116 จำนวน 13 ราย และความผิดเปรียบเทียบปรับ เช่น พ.ร.บ.ความสะอาด หรือ พ.ร.บ.อื่นๆ 2 ราย ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวว่า นับแต่กลางเดือน ก.ค. มีการรวมตัวชุมนุมกันของกลุ่มต่างๆ มีการกระทำผิดกฎหมายภาพรวมทั่วประเทศ 140 คดี ใน 26 จังหวัดทั่วประเทศ